Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สุขาวดีอเวจี (ญี่ปุ่น: 地獄楽; โรมาจิ: Jigokuraku) เป็นซีรีส์มังงะญี่ปุ่น แต่งเรื่องและวาดภาพโดยยูจิ คากุ เรื่องราวในยุคเอโดะของญี่ปุ่น เกี่ยวกับนินจาชื่อกาบิมารุและเพชฌฆาตชื่อยามาดะ อาซาเอมอน ซางิริในการตามหายาอมตะ เผยแพร่ฟรีเป็นรายสัปดาห์ในแอปพลเคลันและเว็บไซต์โชเน็งจัมป์+ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ถึงมกราคม พ.ศ. 2564 สำนักพิมพ์ชูเอชะรวบรวมตีพิมพ์เป็นหนังสือมังงะรวมเล่ม (ทังโกบง) ทั้งหมด 13 เล่ม มังงะมีลิขสิทธิ์ในประเทศไทยโดยสำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ ซีรีส์อนิเมะโทรทัศน์ผลิตโดยสตูดิโอแมปปา ออกอากาศตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกรกฎาคม พ.ศ. 2566 ฤดูกาลที่ 2 มีการประกาศสร้าง
สุขาวดีอเวจี | |
หน้าปกของมังงะ สุขาวดีอเวจี เล่ม 1 ในฉบับภาษาไทย | |
地獄楽 (Jigokuraku) | |
---|---|
ชื่อภาษาอังกฤษ | Hell's Paradise: Jigokuraku |
แนว | |
มังงะ | |
เขียนโดย | ยูจิ คากุ |
สำนักพิมพ์ | ชูเอชะ |
สำนักพิมพ์ภาคภาษาไทย | สยามอินเตอร์คอมิกส์ |
ในเครือ | จัมป์คอมิกส์+ |
นิตยสาร | โชเน็งจัมป์+ |
นิตยสารภาษาไทย | มังงะพลัส |
กลุ่มเป้าหมาย | โชเน็ง |
วางจำหน่ายตั้งแต่ | 22 มกราคม พ.ศ. 2561 – 25 มกราคม พ.ศ. 2564 |
จำนวนเล่ม | 13 |
อนิเมะโทรทัศน์ | |
กำกับโดย | คาโอริ มากิตะ |
เขียนบทโดย | อากิระ คินดาอิจิ |
ดนตรีโดย | โยชิอากิ เดวะ |
สตูดิโอ | แมปปา |
ถือสิทธิ์โดย | เน็ตฟลิกซ์ |
เครือข่าย | ทีวีโตเกียว |
ฉาย | 1 เมษายน พ.ศ. 2566 – 1 กรกฏาคม พ.ศ. 2566 |
ตอน | 13 |
กาบิมารุ ผู้ว่างเปล่า นินจาผู้แข็งแกร่งและน่าหวาดกลัวที่สุด อยู่มาวันหนึ่งเขาถูกทางการจับกุมตัวไประหว่างปฏิบัติภารกิจลอบสังหาร และถูกตัดสินให้ประหารชีวิต แต่ดูเหมือนไม่มีอะไรจะฆ่าเขาได้เนื่องจากร่างกายที่เหนือมนุษย์ของเขา ยามาดะ อาซาเอมอน ซากิริ นักตัดเศียรเชื่อว่าความรักที่เขามีต่อภรรยาทำให้เขามีชีวิตอยู่โดยไม่รู้ตัว เสนอโอกาสให้เขาได้รับการอภัยโทษจากอาชญากรรมทั้งหมดจากโชกุน หากเขาพบ "ยาอมตะ" ในแดนสุขาวดี ดินแดนในตำนานที่เพิ่งถูกค้นพบทางตะวันตกเฉียงใต้ของอาณาจักรริวกิว หลังจากสูญเสียทีมสำรวจ 5 คนที่ถูกส่งไปที่เกาะ ครั้งนี้รัฐบาลโชกุนส่งนักโทษประหารกลุ่มหนึ่ง นักโทษแต่ละคนจะเดินทางไปพร้อมกับพร้อมกับตระกูลนักตัดเศียร “ยามาดะอาซาเอมอน” การเดินทางสู่ดินแดนที่ไม่มีผู้ใดรอดชีวิตกลับมาได้
นินจาที่แข็งแกร่งที่สุดจากอิวะคางุเระ ที่ซึ่งเขาถูกหัวหน้าหมู่บ้านพรากจากพ่อแม่ตั้งแต่ยังเป็นเด็กและฝึกฝนให้เป็นนักฆ่า เขาเป็นที่รู้จักในชื่อ "กาบิมารุผู้ว่างเปล่า" (がらんの画眉丸 , Garan no Gabimaru ) เนื่องจากเขาไม่มีอารมณ์ในการทำงานที่น่าสยดสยอง อย่างไรก็ตาม เขารักภรรยาของเขามาก ลูกสาวผู้รักความสงบของหัวหน้าหมู่บ้านที่ปฏิบัติต่อเขาด้วยความเมตตา เมื่อเขาต้องการตัดสัมพันธ์กับหมู่บ้านและใช้ชีวิตตามปกติกับภรรยา หัวหน้าจึงจัดการจับเขาและตัดสินประหารชีวิต
นักดาบหญิงระดับปรมาจารย์จากตระกูลเพชฌฆาต "ยามาดะ อาซาเอมอน" ที่มีชื่อเสียง ซึ่งเธอเป็นหนึ่งในเพชฌฆาตหญิงเพียงสองคนในกลุ่ม เธอชักชวนกาบิมารุให้ร่วมเดินทางหลังจากได้เห็นพรสวรรค์และความตั้งใจอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ของเขา ซากิริอยู่ในอันดับที่ 12 ในลำดับชั้นของยามาดะ อาซาเอมอน
อาชญากรที่รัฐบาลโชกุนเลือกที่จะออกเดินทางสู่ชินเซ็นเคียวและค้นหาน้ำอมฤตแห่งชีวิตพร้อมกับเพชฌฆาตที่ได้รับมอบหมายจากยามาดะ อาซาเอมอน
เป็นนินจาหญิงที่ได้รับสมญาว่า “เคชุโนะ ยุซุริฮะ” (傾主の杠) เธอค่อนข้างเป็นคนที่โหดเหี้ยมและเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก ด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้เธอรับรู้ได้ทันทีว่าใครกำลังโกหก ยุซุริฮะสามารถเผาผลาญยาที่ดื่มเข้าไป แล้วปล่อยออกมาให้เป็นเส้นด้ายที่มีความเหนียวคล้ายใยแมงมุมได้
เป็นอาชญากรผู้ก่อตั้งหมู่บ้านโจรภูเขาขนาดใหญ่ในหุบเขาลึกของอิโยะ เขาได้รับสมญาว่า “ราชาโจรภูเขา” ด้วยบุคลิกที่โหดเหี้ยมกับความสามารถในการปรับตัวสูงของเขา ทำให้รอดพ้นจากการต่อสู้มาหลายครั้ง เป็นพี่ชายของโทมะ และถูกคุมตัวโดยน้องชายของเขา
เป็นปรมาจารย์วิชาดาบ ผู้ได้รับการขนานนามว่า “ดาบมังกร ” (Blade Dragon: 剣龍) และ “หนึ่งในฮัชชู” เขาขัดเกลาวิชาดาบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ปรารถนาในการทิ้งชื่อเอาไว้ให้เลื่องลือตราบนานเท่านาน กันเท็ตสึไซ สร้างวีรกรรมด้วยการฟันมังกรที่ประดับบนคฤหาสน์ขุนนาง
เป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของเผ่าโบราณ แต่การที่ชนเผ่าไม่ปฏิบัติตามแบบแผนของรัฐจึงโดนกล่าวหาว่าเป็นกบฏ เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับความรู้สึกผิดที่เป็นคนนำทาง ซามูไรของรัฐบาลเข้ามาในหมู่บ้านจนเป็นเหตุให้คนในหมู่บ้านถูกกวาดล้างจนเกลี้ยง ด้วยพฤติกรรมและการแต่งกายของเธอ ทำให้เธอมักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเด็กผู้ชาย แต่แท้จริงแล้วเธอนั้นเป็นเด็กผู้หญิง
อาชญากรที่แข็งแกร่งและน่ากลัว มีชื่อเล่นว่า "ยักษ์แห่งบิเซ็น" โรคุโรตะเป็นชายที่ไม่ได้รับการพัฒนาทางจิตใจเนื่องจากเขามีจิตใจของทารก ในขณะที่เขาไม่สามารถพูดและร้องไห้ได้เมื่อเขาหิว เขาเป็นที่น่าเกรงขามในพละกำลังอันมหาศาลของเขา เขาเคยฆ่าคนมากมายด้วยมือเปล่า บ่อยครั้งด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว รวมทั้งพ่อแม่ของเขา ชาวบ้านหลายคน
อาคากินุสมญานาม "นางคณิกากินคน" เป็นหญิงสาวรูปร่างงดงามมีสเน่ห์ เธอชอบกินเนื้อมนุษย์โดยเฉพาะเพศชาย ถูกคุมโดยยามาดะ อาซาเอมอน ชิอง
เป็นบุคคลที่มีความโหดเหี้ยมและเป็นฆาตกรโดยแท้ มีความสามารถในความหยืดหยุ่นสูงและบิดข้อต่อกระดูกได้
บาทหลวงเสื่อมศรัทธา เป็นคนที่มีความทะเยอทะยานและมักชักจูงผู้คนให้เข้าร่วมลัทธิเพื่อล้มล้างโชกุน และอ่อนไหวต่อสเน่ห์ของผู้หญิง
ชายผู้กระหายและคลั่งไคล้ในอาวุธทุกชนิด และคิดว่าตนมีความสามารถในการใช้อาวุธได้ทุกศาสตร์
ยามาดะ อาซาเอมอน (山田浅ェ門) เป็นโรงฝึกนักดาบที่มีชื่อเสียงในเอโดะ พวกเขาฝึกฝนผู้ทดสอบดาบให้เป็นเพชฌฆาตอย่างเต็มตัวสำหรับโชกุน เมื่อได้รับการฝึกฝนอย่างเต็มที่ นักดาบแต่ละคนจะมีชื่อนำหน้าด้วยชื่อ "ยามาดะ อาซาเอมอน"
เป็นน้องชายและเป็นมือขวาของ "อะซา โจเบ" หลังจากที่พี่ชายของเขาถูกจับ โทมะได้แทรกซึมเข้าไปในกลุ่มยามาดะ อาซาเอมอนเพื่อรวมตัวกับพี่ชายในคุกอีกครั้ง และมอบภารกิจของโชกุนให้เขาได้รับยาอมตะ จากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดี ด้วยรางวัลเป็นการยกโทษให้อาชญากรจากการก่ออาชญากรรมในอดีต
อาซาเอมอนอันดับ 9 ในตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต ฟุจิเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "ทามิยะ กันเท็ตไซ"
เป็นอดีตอาซาเอมอนอันดับ 4 หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต ชิองเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "อาคากินุ"
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 10 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เท็นสะเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "นุรุไก"
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 5 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เซ็นตะเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "ยูซูริฮะ"
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 1 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เอเซ็นเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "โรคุโรตะ"
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 11 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต คิโชเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "อิกามิโนะ เคอุน"
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 8 ของตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต เก็นจิเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "โมโระ มาคิยะ"
เป็นหัวหน้าคนปัจจุบันของตระกูลยามาดะและอาซาเอมอนอันดับ 3 คนก่อนหน้า หลังจากที่โชกุนเรียกร้องให้นักโทษประหารให้หายาอมตะจากเกาะอันตรายที่เชื่อกันว่าเป็นแดนสุขาวดีเพื่อแลกกับการให้อภัยสำหรับอาชญากรรมในอดีต จิกกะเข้าร่วมทีมสำรวจในฐานะหนึ่งในผู้สังเกตการณ์ยามาดะ อาซาเอมอน และได้รับมอบหมายให้คอยเฝ้าระวังอาชญากร "โฮรุโบ" อย่างไรก็ตาม ภารกิจของเขาต้องหยุดชะงักลงหลังจากที่อาชญากรที่ได้รับมอบหมายของเขาถูกสังหารในทะเลโดย "อะซา โจเบ" และได้รับสิทธิพิเศษในการเดินทางกลับแผ่นดินใหญ่ หลังจากนั้นเขาได้รับคำสั่งให้เดินทางกลับเกาะโดยขึ้นเรือพร้อมกับเรือยกพลขึ้นบกลำที่สองและดำเนินการค้นหายาอมตะต่อไป
เขาเป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 2 ของตระกูลยามาดะ และเป็นผู้ช่วยผู้สอนคนก่อน หลังจากที่โชกุนเริ่มหมดความอดทนกับทีมแรกที่ได้รับยาอมตะบนเกาะ ชูเก็นก็กลายเป็นผู้นำของทีมที่สองที่ส่งไปหายาอมตะ เมื่อขึ้นฝั่งบนเกาะและพบหลักฐานว่าพวกพ้องเหล่ายามาดะ อาซาเอมอนของเขาเสียชีวิต ชูเก็นจึงสั่งให้ทีมกำจัดอาชญากรที่รอดตายและสัตว์ประหลาดที่พบเห็น
เป็นอาซาเอมอน ที่ไม่มีลำดับในตระกูลยามาดะและเป็นน้องสาวของ "ยามาดะ อาซาเอมอน เก็นจิ" หลังจากที่โชกุนเริ่มหมดความอดทนกับทีมแรกที่ได้รับยาอมตะบนเกาะ อิซูซุ และ คิโยมารุ ได้รับเลือกให้เข้าร่วมกับ ชูเก็น และ จิกกะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สองที่ส่งไปหายาอมตะ นอกจากนี้กลุ่มยังได้รับคำสั่งจากชูเก็นให้กำจัดอาชญากรของทีมแรก เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะ และปกป้องยามาดะ อาซาเอมอนที่เฝ้าติดตาม
เป็นอาซาเอมอน ที่ไม่มีลำดับในตระกูลยามาดะ หลังจากที่โชกุนเริ่มหมดความอดทนกับทีมแรกที่ได้รับยาอมตะบนเกาะ คิโยมารุ และ อิซูซุได้รับเลือกให้เข้าร่วมกับ ชูเก็น และ จิกกะ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่สองที่ส่งไปหายาอมตะ นอกจากนี้กลุ่มยังได้รับคำสั่งจากชูเก็นให้กำจัดอาชญากรของทีมแรก เช่นเดียวกับสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนเกาะ และปกป้องยามาดะ อาซาเอมอนที่เฝ้าติดตาม
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 7 ของตระกูลยามาดะและเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้รับภารกิจบนเกาะสุขาวดี
เป็นอาซาเอมอนอันดับที่ 6 ของตระกูลยามาดะและเป็นหนึ่งในคนที่ไม่ได้รับภารกิจบนเกาะสุขาวดี
สิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังที่อาศัยอยู่ในโฮไร ที่ใจกลางเกาะซึ่งเชี่ยวชาญในห้าระดับของเต๋า ถึงจุดสุดยอดในการใช้พลังฉีเพื่อเปลี่ยนระหว่างหยินและหยาง ร่างมนุษย์หญิงและชาย ด้วยการใช้ยาอมตะที่พวกเขาเรียกว่า "ทัน" ร่างกายที่เหมือนพืชของพวกมันสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ ทำให้พวกมันแทบจะเป็นอมตะ พวกเขารับใช้โดย โดชิ สิ่งมีชีวิตครึ่งมนุษย์ที่อยู่บนเส้นทางสู่การควบคุมเต๋า และเป็นระดับที่เหนือกว่า โซชิน ที่ไร้ความคิดซึ่งเป็นสัตว์ประหลาดที่มีรูปลักษณ์ของเทพต่าง ๆ และโจมตีใครก็ตามที่มาถึงเกาะ
เป็นเซ็นนิน ระดับเท็นเซ็น ซึ่งเคยเป็นพันธมิตรกับเหล่าเท็นเซ็นซึ่งถูก "ริเอ็น" เนรเทศ เนื่องจากทำตัวท้าทาย หลังจากถูกพบโดยโฮโก เมย์ก็หลบซ่อนตัวและเลือกที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่บนโคทาคุ โดยเขาเลี้ยงดูในฐานะลูกสาวของเขา หลายปีต่อมา เธอกลายเป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ ที่รอดชีวิตในความพยายามที่จะดึงยาอมตะที่เรียกว่า"ทัน" จากเหล่าเท็นเซ็นและหลบหนีออกจากเกาะ
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็นและผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "มหาเทพผู้มุ่งหมายรู้แจ้ง" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "ปราชญ์ผู้เป็นรตนะ" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
รู้จักกันในชื่อเล่นว่า "มหาเทพสูงสุดผู้มีสติปัญญากว้างไกล" เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็นซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ปกครองที่แท้จริงของ โคทาคุ บรรพบุรุษของเท็นเซ็นและเป็นผู้นำของเหล่าเท็นเซ็น ตลอดชีวิตของเธอบนโคทาคุ ริเอ็นได้วางแผนและทดลองตามแนวทางของเต๋า เพื่อพยายามชุบชีวิตโจฟุคุ สามีอันเป็นที่รักของเธอผู้ล่วงลับ และมีเป้าหมายที่จะกำจัดทุกชีวิตในญี่ปุ่นเพื่อเติมเต็มความทะเยอทะยานนี้
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "ท่านขุนผู้อุดมพูลผล" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "เทพผู้มีจิตเสรี" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "นายเหนือผู้งดงาม" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
เป็นเซ็นนิน ชั้นเท็นเซ็น ซึ่งเป็นสมาชิกของเหล่าเท็นเซ็น และผู้ปกครองส่วนหนึ่งของ โคทาคุ โดยมีชื่อเล่นว่า "เทพผู้บรรดาลความปรารถนา" เขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของกาบิมารุและมนุษย์คนอื่นๆ
หมู่บ้านนินจาที่ฝึกฝนเด็กให้เป็นนักฆ่า ที่รับงานตั้งแต่จิปาถะธรรมดาจนถึงงานสกปรก เช่นการลอบสังหาร
เป็นลูกสาวคนที่แปดของหัวหน้าอิวะคางุเระ และภรรยาของกาบิมารุ ยุยเป็นเด็กสาวจิตใจดีที่ถูกบังคับให้แต่งงานกับกาบิมารุเพื่อทำให้กาบิมารุเป็นเครื่องมือที่เชื่อฟังคำสั่งของหมู่บ้าน แต่ผลที่ได้กลับตรงกันข้ามยุยกลับทำให้กาบิมารุอยากเลิกเป็นนินจาแล้วมาใช้ชีวิตแบบธรรมดาปกติ
เขียนและวาดภาพโดย Yuji Kaku สุขาวดีอเวจี : Jigokuraku เริ่มการตีพิมพ์รายสัปดาห์บน แอปพลิเคชันและเว็บไซต์ Shōnen Jump+เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2018[8][9] ซีรีส์นี้จบลงด้วยตอนที่ 127 ในวันที่ 25 มกราคม 2021[10] มีการรวบรวมบทและจัดพิมพ์เป็น เล่ม tankōbon 13 เล่มโดย Shueisha ระหว่างวันที่ 4 ธันวาคม 2020 ถึง 30 เมษายน 2021 นอกจากนี้ Shueisha ยังเผยแพร่ซีรีส์นี้เป็นภาษาอังกฤษฟรีพร้อมกันบนแอปและเว็บไซต์ Manga Plus[11] ตอนพิเศษได้รับการตีพิมพ์ในโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในฉบับที่ 27/28 ของวันที่ 6 สิงหาคม 2018 และฉบับที่ 28 ของวันที่ 10 มิถุนายน 2019[12][13] One-shot ตอนพิเศษหัวข้อ "Forest of Misfortune" (勿怪の森, Mokke no Mori ) เผยแพร่ทางโชเน็นจัมป์+เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2566[14]
Jigokuraku ~Saikyō no Nukenin Gaman no Gabimaru~ (じごくらく 〜最強の抜け忍 がまんの画眉丸〜 ) มังงะแนวคอมเมดี้ที่แยกออกมาสร้างโดย Ōhashi เริ่มสร้างซีรีส์ใน Shōnen Jump+เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2020[15] จบลงด้วยตอนที่ 21 ในวันที่ 29 มิถุนายน 2020 บทเหล่านี้ได้รับการรวบรวมและเผยแพร่เป็นหนึ่ง tankōbon ในวันที่ 4 กันยายน 2020[16]
Viz Media เริ่มเผยแพร่ สุขาวดีอเวจี : Jigokuraku เป็นภาษาอังกฤษแบบดิจิทัลบนเว็บไซต์ของพวกเขาฟรีในวันที่ 17 พฤษภาคม 2018[17] พวกเขาวางจำหน่ายฉบับพิมพ์ทั้ง 13 เล่มตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม 2020[18] ถึง 15 มีนาคม 2022[19]
# | วันที่ออกจำหน่ายต้นฉบับ | ISBN ต้นฉบับ | วันที่ออกจำหน่ายภาษาไทย | ISBN ภาษาไทย | |
---|---|---|---|---|---|
1 | 4 เมษายน 2561[20] | 978-4-08-881471-1 | 17 มีนาคม 2563[18] | 978-1-9747-1320-2 | |
| |||||
2 | 4 มิถุนายน 2561[21] | 978-4-08-881502-2 | 19 พฤษภาคม 2563[22] | 978-1-9747-1321-9 | |
| |||||
3 | 3 สิงหาคม 2561[23] | 978-4-08-881546-6 | 21 กรกฎาคม 2563[24] | 978-1-9747-1322-6 | |
| |||||
4 | 2 พฤศจิกายน 2561[25] | 978-4-08-881601-2 | 15 กันยายน 2563[26] | 978-1-9747-1323-3 | |
| |||||
5 | 4 มีนาคม 2562[27] | 978-4-08-881697-5 | 17 พฤศจิกายน 2563[28] | 978-1-9747-1324-0 | |
| |||||
6 | 4 มิถุนายน 2562[29] | 978-4-08-881803-0 | 19 มกราคม 2564[30] | 978-1-9747-1325-7 | |
| |||||
7 | 4 กันยายน 2562[31] | 978-4-08-882056-9 | 16 มีนาคม 2564[32] | 978-1-9747-1877-1 | |
| |||||
8 | 4 ธันวาคม 2562[33] | 978-4-08-882148-1 | 18 พฤษภาคม 2564[34] | 978-1-9747-1878-8 | |
| |||||
9 | 4 มีนาคม 2563[35] | 978-4-08-882230-3 | 20 กรกฎาคม 2564[36] | 978-1-97-471530-5 | |
| |||||
10 | 4 มิถุนายน 2563[37] | 978-4-08-882338-6 | 21 กันยายน 2564[38] | 978-1-9747-2099-6 | |
| |||||
11 | 4 กันยายน 2563[39] | 978-4-08-882407-9 | 16 พฤศจิกายน 2564[40] | 978-1-9747-2282-2 | |
| |||||
12 | 4 ธันวาคม 2563[41] | 978-4-08-882523-6 | 18 มกราคม 2565[42] | 978-1-9747-2464-2 | |
| |||||
13 | 30 เมษายน 2564[43] | 978-4-08-882583-0 | 15 มีนาคม 2565[19] | 978-1-9747-2851-0 | |
|
อนิเมะทีวีซีรีส์ดัดแปลงได้รับการประกาศโดยโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2564[44] ผลิตโดย MAPPA และกำกับโดย คาโอริ มาคิตะ โดยมีอากิระ คินดะอิจิเขียนบท โคจิ ฮิซากิออกแบบตัวละคร และโยชิอากิ เดวะแต่งเพลง[45] ซีรีส์นี้ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนถึง 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 ทาง TV Tokyo และเครือข่ายอื่น ๆ[4] เพลงเปิดคือ "Work" โดย Ringo Sheena และ Millennium Parade ในขณะที่เพลงปิดคือ "Kamihitoe" โดย Uru ครันชี่โรลได้รับลิขสิทธิ์ซีรีส์สำหรับการสตรีมในอเมริกา ยุโรป แอฟริกา โอเชียเนีย ตะวันออกกลาง และ CIS ในขณะที่ Netflix ได้รับลิขสิทธิ์ซีรีส์ในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีนแผ่นดินใหญ่ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) มีการประกาศฤดูกาลที่สองหลังจากการออกอากาศตอนที่สิบสาม
ตอน | ชื่อ [46] | กำกับโดย [a] | เขียนโดย [a] | สตอรีบอร์ดโดย [a] | วันฉายเดิม [47] |
---|---|---|---|---|---|
1 | "อาชญากรและมือสังหาร" ถอดเสียง: "Shizaijin to Shikkōnin" (ญี่ปุ่น: 死罪人と執行人) | คาโอริ มากิตะ | อากิระ คินดาอิจิ | คาโอริ มากิตะ | 1 เมษายน 2566 |
2 | "จัดลำดับและคัดเลือก" ถอดเสียง: "Senbetsu to Sentaku" (ญี่ปุ่น: 選別と選択) | ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | คาซูกิ อากาเนะ | 8 เมษายน 2566 |
3 | "จุดอ่อนและจุดแข็ง" ถอดเสียง: "Yowasa to Tsuyosa" (ญี่ปุ่น: 弱さと強さ) | คาโยนะ ยามาดะ | อากิระ คินดาอิจิ | โซจิ นิโนมิยะ | 15 เมษายน 2566 |
4 | "นรกกับสวรรค์" ถอดเสียง: "Jigoku to Gokuraku" (ญี่ปุ่น: 地獄と極楽) | เท็ตสึยะ วากาโนะ | อากิระ คินดาอิจิ | เท็ตสึยะ วากาโนะ | 22 เมษายน 2566 |
5 | "ซามูไรกับสตรี" ถอดเสียง: "Samurai to Onna" (ญี่ปุ่น: 侍と女) | ชู วาตานาเบะ | อากิระ คินดาอิจิ | ชิเงยูกิ มิยะ | 29 เมษายน 2566 |
6 | "อารมณ์และเหตุผล" ถอดเสียง: "Kokoro to Kotowari" (ญี่ปุ่น: 心と理) | ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | ยาซูฮิโระ เกชิ | 6 พฤษภาคม 2566 |
7 | "ดอกไม้และการเสียสละ" ถอดเสียง: "Hana to Nie" (ญี่ปุ่น: 花と贄) | เค็นโตะ ชินตานิ | อากิระ คินดาอิจิ | ริซาโกะ โยชิดะ | 13 พฤษภาคม 2566 |
8 | "สาวกและเจ้านาย" ถอดเสียง: "Deshi to Shi" (ญี่ปุ่น: 弟子と師) | ฟูมิโตะ ยามาดะ | อากิระ คินดาอิจิ | คาโอริ มากิตะ | 20 พฤษภาคม 2566 |
9 | "พระเจ้ากับมนุษย์" ถอดเสียง: "Kami to Hito" (ญี่ปุ่น: 神と人) | รีวตะ ยามาโมโตะ | อากิระ คินดาอิจิ | จุง ชิชิโดะ | 3 มิถุนายน 2566 |
10 | "เงาและแสงสว่าง" ถอดเสียง: "In to Yō" (ญี่ปุ่น: 陰と陽) | ทาโร คูโบะ ยูกิ นิชิฮาตะ | อากิระ คินดาอิจิ | เท็ตสึยะ วากาโนะ | 10 มิถุนายน 2566 |
11 | "อ่อนแอและแข็งแกร่ง" ถอดเสียง: "Yowai to Tsuyoi" (ญี่ปุ่น: 弱イと強イ) | ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | ชิเงยูกิ มิยะ | 17 มิถุนายน 2566 |
12 | "ร่มกับหมึก" ถอดเสียง: "Kasa to Sumi" (ญี่ปุ่น: 傘と墨) | เทรูยูกิ โอมิเนะ | อากิระ คินดาอิจิ | จุง ชิชิโดะ | 24 มิถุนายน 2566 |
13 | "ความฝันกับความจริง" ถอดเสียง: "Yume to Utsutsu" (ญี่ปุ่น: 夢と現) | คาโอริ มากิตะ ยาซูฮิโระ เกชิ | อากิระ คินดาอิจิ | จุง ชิชิโดะ เทรูยูกิ โอมิเนะ | 1 กรกฎาคม 2566 |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.