สงครามเก้าปี

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

สงครามเก้าปี

สงครามเก้าปี (อังกฤษ: Nine Years' War) หรือ สงครามมหาพันธมิตร (อังกฤษ: War of the Grand Alliance) หรือ สงครามสันนิบาตเอาคส์บวร์ค (อังกฤษ: War of the League of Augsburg) หรือที่เคยเรียกว่า สงครามสืบบัลลังก์พาลาทิเนต (อังกฤษ: War of the Palatine Succession) หรือ สงครามสืบราชบัลลังก์อังกฤษ (อังกฤษ: War of the English Succession) หรือบางครั้งก็เรียกว่า สงครามวิลเลียมไมท์ (อังกฤษ: Williamite War) ในไอร์แลนด์ หรือ สงครามพระเจ้าวิลเลียม (อังกฤษ: King William's War) ในทวีปอเมริกาเหนือ เป็นสงครามที่เกิดขึ้นระหว่างปี ค.ศ. 1688 จนถึงปี ค.ศ. 1697 ที่การต่อสู่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นบนแผ่นดินใหญ่ยุโรป แต่ก็มีบ้างที่เกิดขึ้นในไอร์แลนด์ และ ทวีปอเมริกาเหนือ สงครามเป็นความขัดแย้งระหว่างราชอาณาจักรฝรั่งเศสภายใต้การนำของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และจาโคไบต์ไอริชฝ่ายหนึ่ง กับมหาพันธมิตร (Grand Alliance) อีกฝ่ายหนึ่งที่นำโดยพระเจ้าวิลเลียมที่ 3 แห่งอังกฤษ, สมเด็จพระจักรพรรดิลีโอโพลด์ที่ 1 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์, พระเจ้าคาร์โลสที่ 2 แห่งสเปน และ พระเจ้าวิคเตอร์ อมาเดอุสที่ 2 แห่งซาร์ดิเนีย

ข้อมูลเบื้องต้น สงครามเก้าปี, วันที่ ...
สงครามเก้าปี
Thumb
การล้อมนาเมอร์, มิถุนายน ค.ศ. 1692
โดย มาร์แต็ง ฌ็อง-แบ็ปติสต์ เลอ วิเยอร์
วันที่24 กันยายน ค.ศ. 168820 กันยายน ค.ศ. 1697[1]
สถานที่
ผล สนธิสัญญาริสวิค
คู่สงคราม

 จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
 สาธารณรัฐดัตช์
อังกฤษ
 สเปน
อาณาจักรดยุคแห่งซาวอย
ราชอาณาจักรโปรตุเกส

 สวีเดน
อื่น ๆ
[2] ฝรั่งเศส
จาโคไบต์ไอริช
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ

พระเจ้าวิลเลียมที่ 3
เจ้าชายแห่งวัลเด็ค
พระเจ้าฟรีดริชที่ 1 แห่งปรัสเซีย
ดยุคแห่งลอร์แรน
เจ้าชายแห่งบาเดิน
เจ้านครรัฐแห่งบาวาเรีย

สมเด็จพระเจ้าเปโดรที่ 2
ดยุคแห่งซาวอย
สมเด็จพระราชาธิบดีคาร์ลที่ 11
พระเจ้าหลุยส์ที่ 14
มาร์ควิสแห่งโวบ็อง
ดยุคแห่งลักเซมเบิร์ก
ดยุคแห่งวิเยอรัว
ดยุคแห่งดูรัส
ดยุคแห่งลอร์ดจ์
ดยุคแห่งบูแฟล์รส์
นิโคลัส กาตินาต
ดยุคแห่งนออายส์
พระเจ้าเจมส์ที่ 2 แห่งอังกฤษ
กำลัง
~350,000,[3]
เรือ 189 ลำ[4]
~420,000,[5]
เรือ 119 ลำ[4]
ปิด

ในปี ค.ศ. 1678 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 กลายมาเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ทรงอำนาจมากที่สุดในยุโรปตะวันตกหลังจากเสร็จสิ้นจากสงครามฝรั่งเศส-ดัตช์ แม้ว่าจะทรงขยายดินแดนเพิ่มเติมมาได้แต่พระองค์ก็ยังทรงไม่พอพระทัย พระองค์ทรงใช้ทั้งกำลังทหาร, การผนวกดินแดน และ กระบวนการทางกฎหมายในการได้มาซึ่งดินแดนต่างๆ ที่ทรงต้องการ สงครามการรวมตัว (War of the Reunions) ระหว่าง ค.ศ. 1683 ถึง ค.ศ. 1684 เพิ่มดินแดนให้พระเจ้าหลุยส์เพิ่มขึ้นอีก แต่การเพิกถอนพระราชกฤษฎีกาแห่งนองซ์ (Edict of Nantes) ในปี ค.ศ. 1685 เป็นจุดที่เริ่มให้อำนาจทางการทหารและทางการเป็นผู้นำทางอำนาจทางการเมืองในยุโรปของฝรั่งเศสเสื่อมลง ความก้าวร้าวของพระองค์ในที่สุดก็ทำให้ประเทศอื่นๆ ในยุโรปรวมตัวกันเป็นมหาพันธมิตรในการหยุดยั้งการขยายอำนาจของฝรั่งเศส

สงครามส่วนใหญ่เป็นปฏิบัติการล้อมเมือง ที่สำคัญก็ได้แก่การล้อมเมือง มองส์, นาเมอร์, ชาร์เลอรัว และ บาร์เซโลนา การต่อสู้กลางสนามรบเช่นในยุทธการเฟลรูส์ และ ยุทธการเฟลรูส์มาร์ซาเกลียไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก การต่อสู้ลักษณะนี้เป็นการต่อสู้ที่ฝ่ายฝรั่งเศสได้เปรียบแต่ในปี ค.ศ. 1696 ก็อยู่ในช่วงที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างหนัก ทางฝ่ายอังกฤษและเนเธอร์แลนด์ต่างก็สูญเสียเงินไปกับสงครามจำนวนมาก และเมื่อซาวอยถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรในปี ค.ศ. 1696 ผู้ร่วมในสงครามทุกฝ่ายต่างก็พร้อมที่จะเจรจาสงบศึก

การลงนามในสนธิสัญญาริสวิคในเดือนกันยายน ค.ศ. 1697 เป็นการยุติสงครามที่ดำเนินมาเป็นเวลาเก้าปี แต่เมื่อพระเจ้าคาร์โลสที่ 2 แห่งสเปน เสด็จสวรรคตโดยไม่มีรัชทายาท ความขัดแย้งเกี่ยวกับการสืบราชบัลลังก์ของจักรวรรดิสเปนก็เริ่มขึ้น และในที่สุดก็นำไปสู่สงครามสืบราชบัลลังก์สเปน

อ้างอิง

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.