ราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์ค

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์ค

ราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์ค (เยอรมัน: Haus Württemberg) เป็นราชวงศ์เก่าแก่เยอรมันและเคยเป็นราชวงศ์ของราชอาณาจักรเวือร์ทเทิมแบร์ค

ข้อมูลเบื้องต้น พระราชอิสริยยศ, ปกครอง ...
ราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์ค
Thumb
พระราชอิสริยยศเคานต์แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
ดยุกแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
ผู้คัดเลือกแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
พระมหากษัตริย์แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
พระมหากษัตริย์ลิทัวเนีย
เคานต์แห่งมงเบลียาร์
ปกครองเวือร์ทเทิมแบร์ค
สาขาเทค (สิ้นสาย)
อูรัค
ประมุขพระองค์แรกค็อนราทที่ 1 เคานต์แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
ผู้นำสกุลองค์ปัจจุบันวิลเฮ็ล์ม ดยุกแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
ประมุขพระองค์สุดท้ายพระเจ้าวิลเฮ็ล์มที่ 2 แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค
สถาปนาค.ศ. 1081
ล่มสลายค.ศ. 1918
ปิด

ประวัติศาสตร์

สรุป
มุมมอง

เคาน์ตี

ประมาณ ค.ศ. 1080 บรรพบุรุษของราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์ค ซึ่งขณะนั้นเรียกว่า "วิร์เทิมแบร์ค" ได้ตั้งถิ่นฐานในเขตชตุทการ์ท[1] ค็อนราทแห่งเวือร์ทเทิมแบร์คได้สืบทอดตำแหน่งจากราชวงศ์เบวเทลสบัคและสร้างปราสาทวิร์เทิมแบร์คขึ้นมา ประมาณปี ค.ศ. 1089 พระองค์ได้รับตำแหน่งเป็นเคานต์ โดยดินแดนของพระองค์ซึ่งเดิมมีเพียงบริเวณรอบ ๆ ปราสาท ได้ขยายเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะจากการได้มาซึ่งดินแดนของราชวงศ์ที่ยากจน เช่น ราชวงศ์ทือบิงเงิน [2]

ดัชชี

ในการประชุมสภาเมืองวอร์มส์ใน ค.ศ. 1495 เคานต์เอแบร์ฮาร์ดที่ 5 ได้รับการแต่งตั้งเป็นดยุก (Herzog) โดยจักรพรรดิมัคซีมีลีอานที่ 1 ซึ่งต่อมาได้เป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่างปี ค.ศ. 1534–1537 ดยุกอูลริชได้ประกาศรับการปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ ทำให้เวือร์ทเทิมแบร์คกลายเป็นรัฐโปรเตสแตนต์ โดยที่ดยุกอูลริชได้กลายเป็นประมุขของศาสนจักรโปรเตสแตนต์ท้องถิ่น

ในศตวรรษที่ 18 สายราชวงศ์โปรเตสแตนต์ในฝ่ายชายได้สิ้นสุดลง ทำให้ตำแหน่งประมุขของราชวงศ์ตกเป็นของดยุกคาร์ล อเล็คซันเดอร์ซึ่งเป็นคาทอลิก อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราชวงศ์จะเป็นคาทอลิก แต่นิกายโปรเตสแตนต์ยังคงเป็นศาสนาประจำรัฐ โดยมีสภาคณะสงฆ์ที่ประกอบด้วยขุนนางแห่งเวือร์ทเทิมแบร์คบริหารงาน ต่อมาในปี ค.ศ. 1797 ดยุกเฟรเดอริกที่ 2 ซึ่งเป็นโปรเตสแตนต์ได้ขึ้นครองตำแหน่ง ทำให้ราชวงศ์กลับมาเป็นโปรเตสแตนต์อีกครั้ง[3]

ราชอาณาจักร

จากความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงการปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1 และจากการที่เวือร์ทเทิมแบร์คเป็นพันธมิตรของนโปเลียน ดยุกเฟรเดอริกที่ 2 ได้รับการแต่งตั้งเป็นจ้าผู้คัดเลือกแห่งเวือร์ทเทิมแบร์คในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1803 และได้รับดินแดนเพิ่มขึ้นจากการยึดครองและการปรับเปลี่ยนเขตแดน ต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1806 พระองค์ได้รับการสถาปนาเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค

ใน ค.ศ. 1828 พระเจ้าวิลเฮ็ล์มที่ 1 แห่งเวือร์ทเทิมแบร์คได้ประกาศกฎหมายราชวงศ์ฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดสิทธิและหน้าที่ของราชวงศ์รวมถึงกฎการสืบทอดบัลลังก์แบบลูกชายคนโต (สิทธิของบุตรหัวปี) ฉพาะในสายชาย และข้อจำกัดเกี่ยวกับการแต่งงานที่ต้องเป็นสมรสที่เท่าเทียมกันทางชนชั้น

ใน ค.ศ. 1867 ราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์คได้สถาปนาตำแหน่งดยุกแห่งอูรัคสำหรับเจ้าชายวิลเฮ็ล์มโดยเป็นพระโอรสจากการการแต่งงานต่างฐานันดรใน ค.ศ. 1800 ซึ่งทำให้พระองค์และทายาทถูกตัดสิทธิ์ในการปกครองอาณาจักร ต่อมาใน ค.ศ. 1871 ตำแหน่งดยุกแห่งเทค ก็ถูกสร้างขึ้นเพื่อเจ้าชายฟรันทซ์ ดยุกแห่งเทค ด้วยเหตุผลทางราชวงศ์เช่นเดียวกัน

ในช่วงท้ายของสงครามโลกครั้งที่ 1 การปฏิวัติเยอรมันได้นำไปสู่การล่มสลายของระบอบกษัตริย์ทั้งหมดในจักรวรรดิเยอรมัน โดยพระเจ้าวิลเฮ็ล์มที่ 2 ทรงสละราชบัลลังก์เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ค.ศ. 1918 เมื่ออดีตกษัตริย์วิลเฮ็ล์มที่ 2 สวรรคตใน ค.ศ. 1921 สายหลักของราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์คได้สิ้นสุดลง ตำแหน่งประมุขของราชวงศ์ตกเป็นของพระญาติห่าง ๆ คือ อัลเบร็คท์ ดยุกแห่งเวือร์ทเทิมแบร์ค

ราชวงศ์

การสืบสายราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์คยังคงมีต่อมาจนถึงปัจจุบันถึงแม้ว่าราชวงส์จะไม่มีบทบาททางการเมืองใดๆ

ราชวงศ์เวือร์ทเทิมแบร์คตั้งแต่ ค.ศ. 1918

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.