Loading AI tools
รางวัลประจำปี จัดโดยสถาบันศิลปะและวิทยาการ สหรัฐอเมริกา จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
อะแคเดมีอะวอดส์ (อังกฤษ: Academy Award; "รางวัลสถาบัน") หรือรู้จักกันในชื่อ รางวัลออสการ์ (อังกฤษ: Oscar)[1] เป็นรางวัลสำหรับความสำเร็จในด้านศิลปะและด้านเทคนิคในอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จัดเป็นประจำทุกปีโดยสถาบันแห่งศิลปะและวิทยาการภาพยนตร์ (AMPAS) เพื่อยกย่องความเป็นเลิศในด้านความสำเร็จของภาพยนตร์ ซึ่งประเมินโดยการลงคะแนนเสียงจากสมาชิกของสถาบัน[2] รางวัลออสการ์ได้รับการยกย่องว่าเป็นรางวัลอันทรงเกียรติและมีความสำคัญมากที่สุดในอุตสาหกรรมบันเทิงของสหรัฐและทั่วโลก[3][4][5] รูปปั้นออสการ์มีลักษณะเป็นอัศวินในรูปแบบอาร์ตเดโค[6]
อะแคเดมีอะวอดส์ | |
---|---|
ปัจจุบัน: งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 | |
รูปปั้นรางวัลอะแคเดมี ("ออสการ์") | |
รางวัลสำหรับ | รางวัลแห่งความเป็นเลิศในอเมริกันและนานาชาติต่ออุตสาหกรรมภาพยนตร์ |
ประเทศ | สหรัฐอเมริกา |
จัดโดย | สถาบันศิลปะภาพยนตร์และวิทยาการ |
รางวัลแรก | 16 พฤษภาคม 1929 |
เว็บไซต์ | oscar |
| |||
|
สำหรับรางวัลหลักจะถูกนำเสนอในระหว่างการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ของฮอลลีวูด ซึ่งโดยทั่วไปมักจัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์หรือมีนาคม รางวัลออสการ์นับเป็นงานประกาศผลรางวัลความบันเทิงระดับโลกที่เก่าแก่ที่สุด[7] งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 1 จัดขึ้นในปี 1929[8] ส่วนครั้งที่ 2 ในปี 1930 เป็นการออกอากาศครั้งแรกทางวิทยุ และครั้งที่ 25 ในปี 1953 เป็นการออกอากาศครั้งแรกทางโทรทัศน์[7] รางวัลออสการ์อยู่ในสี่รางวัลหลักด้านความบันเทิงอเมริกันที่เก่าแก่ที่สุด เทียบเท่ากับรางวัลเอมมีทางโทรทัศน์, รางวัลโทนีทางละครเวที และรางวัลแกรมมีทางดนตรี ซึ่งล้วนได้ต้นแบบมาจากรางวัลออสการ์[9]
พีธีมอบรางวัลออสการ์ครั้งแรกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 1929 ในงานเลี้ยงอาหารค่ำส่วนตัวที่โรงแรมเดอะฮอลลีวูดโรสเวลต์ ซึ่งมีผู้ชมโดยประมาณ 270 คน ค่าบัตรเข้าชมอยู่ที่ 5 ดอลลาร์ (85 ดอลลาร์ในราคาปี 2020) [10]
งานเลี้ยงหลังมอบรางวัลจัดขึ้นที่โรงแรมเมย์แฟร์[11][7] มีการมอบรูปปั้นจำนวนสิบห้ารางวัลเพื่อยกย่องศิลปิน ผู้กำกับ และผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมการสร้างภาพยนตร์ในยุคนั้น สำหรับผลงานในช่วงปี 1927–28 โดยพิธีมอบรางวัลดำเนินเป็นเวลา 15 นาที
สำหรับพีธีมอบรางวัลครั้งแรกนี้ ผู้ชนะได้รับการประกาศผ่านสื่อมวลชนก่อนหน้านั้นสามเดือน สำหรับพีธีมอบรางวัลครั้งที่สองในปี 1930 และตลอดทศวรรษแรกได้รับการประกาศผ่านหนังสือพิมพ์ในเวลา 23.00 น. ของคืนวันมอบรางวัล[7] ต่อมาในปี 1940 หนังสือพิมพ์ ลอสแอนเจลิสไทมส์ ได้ประกาศผู้ชนะก่อนเริ่มต้นพิธี เป็นผลให้ในปีต่อมารางวัลจึงเริ่มใช้ซองปิดผนึกเพื่อเปิดเผยรายชื่อผู้ชนะแทน[7]
คำว่า "ออสการ์" เป็นเครื่องหมายการค้าของ AMPAS อย่างไรก็ตามในภาษาอิตาลี โดยทั่วไปใช้กล่าวถึงรางวัลหรือพิธีมอบรางวัล โดยไม่คำนึงถึงสาขาใดสาขาหนึ่ง[12][13]
รูปปั้นมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า Academy Award of Merit เป็นรูปอัศวินถือดาบครูเสดเอาปลายแหลมลงดิน ยืนบนม้วนแผ่นฟิล์ม สูง 13 นิ้วครึ่ง (34 เซนติเมตร) หนัก 8 ปอนด์ครึ่ง (3.85 กิโลกรัม) ทำจากบริทานเนียมชุบด้วยทองคำบนฐานโลหะสีดำ ออกแบบโดย Cedric Gibbons ตรงส่วนฐานที่เป็นม้วนแผ่นฟิล์มนั่นจะเป็นที่จารึก 5 สาขาดั้งเดิมของรางวัลออสการ์ อันประกอบไปด้วย นักแสดง เขียนบท กำกับการแสดง อำนวยการสร้าง และด้านเทคนิค
Cedric Gibbons ซึ่งเป็นผู้กำกับศิลป์ของเอ็มจีเอ็มและเป็นหนึ่งในสมาชิกเก่าแก่ของออสการ์ เป็นผู้ออกแบบรูปปั้นรางวัลออสการ์ Cedric ได้ใช้เรือนร่างเปลือยของนักแสดงเม็กซิโกคนหนึ่งที่ Dolores del Río ผู้เป็นภรรยาของเขาได้แนะนำให้รู้จัก ชื่อว่า Emilio Fernández เป็นแบบในการทำรูปปั้น โดยมี George Stanley เป็นผู้ร่างแบบบนดินเหนียว และมี Sachin Smith เป็นผู้หล่อรูปปั้นโดยใช้ส่วนประกอบ ดีบุก 92.5% ทองแดง 7.5% และชุบด้วยทองคำ โดยในส่วนฐานของรูปปั้นได้เพิ่มเข้ามาในภายหลัง แต่เดิมฐานจะทำจากหินอ่อน ในปีค.ศ. 1945 จึงเปลี่ยนเป็นโลหะ
แม่พิมพ์ต้นฉบับของรูปปั้นออสการ์ทำขึ้นในปีค.ศ. 1928 ที่ C.W. Shumway & Sons Foundry ในบาทาเวีย รัฐอิลลินอย ซึ่งแม่พิมพ์ของถ้วยรางวัลเอมมีและรางวัล Vince Lombardi Trophy ก็ทำขึ้นจากที่นี่เช่นเดียวกัน ในแต่ละปีรูปปั้นรางวัลออสการ์จำนวนประมาณ 40 อัน จะทำขึ้นที่ชิคาโก โดยบริษัท R.S. Owens หากมีรูปปั้นใดทำออกมาแล้วไม่มีคุณภาพ รูปปั้นนั้นจะถูกตัดเป็นสองท่อนแล้วนำไปหลอมละลาย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 รูปปั้นรางวัลออสการ์ที่มอบให้กับผู้รับรางวัลจะทำจากปูนปลาสเตอร์ โดยจะให้รูปปั้นที่ทำจากทองคำหลังสงครามสิ้นสุด
ที่มาของคำว่า ออสการ์ นั้นยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ กรณีแรก ในชีวประวัติของนักแสดงหญิงรางวัลออสการ์ชื่อ Bette Davis ได้อ้างว่าเธอเป็นผู้ตั้งชื่อให้กับรูปปั้นนี้ เนื่องจากด้านหลังของรูปปั้นนั้นดูคล้ายของสามีคนแรกของเธอที่ชื่อ Harmon Oscar Nelson เธอจึงใช้ชื่อกลางของเขาตั้งชื่อรูปปั้นว่า ออสการ์[14] ทางด้านนิตยสารไทม์ได้มีการกล่าวถึงคำว่า ออสการ์ ในบทความที่เกี่ยวกับงานประกาศผลอคาเดมีอวอร์ดสครั้งที่ 6 ในปี ค.ศ. 1934[15] และกล่าวถึงการรับรางวัลของ Bette Davis ในปี ค.ศ. 1936[16] นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงวอลต์ ดิสนีย์ ว่าเขาได้ขอบคุณอคาเดมีสำหรับรางวัลออสการ์ของเขาในต้นปี ค.ศ. 1932
กรณีที่สอง ได้มีการอ้างว่า Margaret Herrick เลขานุการผู้บริหารของอคาเดมี เป็นผู้ตั้งชื่อให้กับรูปปั้นนี้[17] ในปี ค.ศ. 1931 เธอเป็นคนแรกที่ได้เห็นถ้วยรางวัล เนื่องจากรูปปั้นนี้มีลักษณะคล้ายลุงของเธอ เธอจึงตั้งชื่อรูปปั้นนี้ตามชื่อลุงของเธอว่า ออสการ์ อย่างไรก็ตามทั้งคำว่า ออสการ์ และ อคาเดมีอวอร์ดส ต่างก็เป็นเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของสถาบันนี้
เป็นการถ่ายทอดสด โดยมากจะจัดหลังจากประกาศผู้เข้าชิงรางวัล 6 สัปดาห์ ดารานักร้องที่เข้าร่วมงานมักจะเดินบนพรมแดง แต่งชุดอย่างสวยงาม ถือเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของงาน นอกจากมีการมอบรางวัลต่าง ๆ ยังมีการแสดงเพลงจากผู้เข้าชิงรางวัลในสาขาเพลง มีการประมาณการว่า มีผู้ชมกว่า 1,000 ล้านคนทั่วโลก(ในปี 2546) ตัวงานได้แพร่ภาพออกทางโทรทัศน์ ในปี พ.ศ. 2496 ทางสถานี NBC จากนั้นจึงเปลี่ยนมือเป็นสถานี ABC ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2519
ในปีค.ศ. 1949 ทางสถาบันได้เริ่มนับจำนวนรางวัลที่ได้มอบไป โดยเริ่มนับอย่างเป็นทางการที่รางวัลที่ 501[17] ตั้งแต่งานประกาศผลรางวัลออสการ์ ครั้งที่ 1 จนถึงครั้งที่ 80 ได้มีการมอบรางวัลออสการ์ไปแล้ว 2,701 รางวัล[18] และมีนักแสดงที่ได้รับรางวัล รวมทั้งผู้ที่ได้รับรางวัลเกียรติยศและรางวัลนักแสดงเยาวชน เป็นจำนวนทั้งสิ้น 293 คน
รางวัลต่าง ๆ ในปัจจุบันมีทั้งสิ้น 23 สาขา รางวัลใหญ่มี 5 รางวัล (Big Five) ได้แก่ รางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture), รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director), รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (Best Actor), รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม (Best Actress) และ รางวัลบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2476 ถึงพ.ศ. 2480 ในปีแรกของการให้รางวัล (พ.ศ. 2476) มีผู้ได้รับรางวัล 7 คน จากผู้เข้าชิง 18 คน โดยไม่มีการอ้างถึงภาพยนตร์ที่กำกับโดยผู้เข้าชิงนั้น ๆ แต่ในปีต่อ ๆ มาก็ได้อ้างถึงภาพยนตร์ของผู้เข้าชิงด้วย จนกระทั่งปีพ.ศ. 2480 รางวัลนี้ก็ถูกยกเลิกไป
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2478 ถึงพ.ศ. 2480
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2471 รางวัลนี้มอบเพียงสองปีเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีการมอบรางวัลบันทึกเสียงยอดเยี่ยม (Best Sound Recording) แทน
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ถึงพ.ศ. 2546
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึงพ.ศ. 2480
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 ถึงพ.ศ. 2499
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2475 ถึงพ.ศ. 2478
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2499 รางวัลนี้ถูกยกเลิกไปเนื่องจากเห็นว่าซ้ำซ้อนกับรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมที่มีการมอบตั้งแต่พ.ศ. 2483
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2471 รางวัลนี้มีการมอบเฉพาะในครั้งแรกเท่านั้น แล้วถูกยกเลิกในครั้งต่อมา เนื่องจากเห็นว่าซ้ำซ้อนกับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม
มีการมอบรางวัลตั้งแต่ปี พ.ศ. 2470 ถึงพ.ศ. 2471 รางวัลนี้มอบสำหรับภาพยนตร์ใบ้ที่มีการเขียนบทได้ยอดเยี่ยม เนื่องจากในสมัยดังกล่าวภาพยนตร์ยังไม่มีเสียง การอธิบายบทสนทนาของตัวละครจึงใช้วิธีแทรกไว้ระหว่างฉากการแสดง
ในช่วงแรกของการให้รางวัล รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทภาพยนตร์ดรามาและภาพยนตร์ตลก ส่วนรางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยมจะถูกแบ่งออกเป็นประเภทภาพยนตร์ดรามาและภาพยนตร์เพลงหรือตลก ซึ่งปัจจุบันได้รวมเหลือรางวัลเดียว คือ รางวัลบทภาพยนตร์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม
นอกจากนี้ ช่วงปีพ.ศ. 2473 - 2503 รางวัลกำกับภาพยอดเยี่ยม รางวัลกำกับศิลป์ยอดเยี่ยม และรางวัลออกแบบเครื่องแต่งกายยอดเยี่ยม ยังถูกแบ่งออกเป็นประเภทภาพยนตร์สีและภาพยนตร์ขาวดำ
ในแต่ละปีคณะกรรมการออสการ์จะพิจารณารางวัลสาขาใหม่ที่เสนอเข้ามา จวบจนปัจจุบัน มีรางวัลดังต่อไปนี้ที่ไม่ผ่านการพิจารณา
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.