Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน, พระใหญ่กุยชาน[1] หรือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตาแห่งเขากุย (จีนตัวย่อ: 沩山千手千眼观音圣像 หรือ 沩山大佛; จีนตัวเต็ม: 溈山千手千眼觀音聖像 หรือ 溈山大佛; พินอิน: Guīshān qiānshǒu qiānyǎn Guānyīn shèngxiàng หรือ Guīshān dàfó) เป็นประติมากรรมแบบจีนรูปพระโพธิสัตว์กวนอิม ตั้งอยู่ใกล้วัดมี่ยิ่น (密印寺) บริเวณยอดเขาผีหลู (毗庐峰) บนไหล่เขาของเขากุย (沩山 มักเรียก ต้ากุยชาน หรือเขากุยใหญ่; 大沩山) ตั้งอยู่ในเมืองฉางชา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน
พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชาน 沩山千手千眼观音圣像 | |
---|---|
ชื่อสามัญ | พระใหญ่กุยชาน หรือ รูปปั้นเจ้าแม่กวนอิมพันมือพันตาแห่งเขากุย |
ประเภท | รูปปั้นพระโพธิสัตว์ |
ศิลปะ | ศิลปะจีน หมวดพระโพธิสัตว์กวนอิม พันมือ ท่ายืน |
ความสูง | 99.19 เมตร |
วัสดุ | สัมฤทธิ์ |
สถานที่ประดิษฐาน | ฉางชา มณฑลหูหนาน ประเทศจีน |
ความสำคัญ | รูปปั้นพระอวโลกิเตศวร (พระโพธิสัตว์กวนอิม) ที่มีพันแขนและพันตาใหญ่ที่สุดในโลก |
ส่วนหนึ่งของสารานุกรมพระพุทธศาสนา |
เป็นส่วนหนึ่งของศาลบรรพบุรุษของนิกายเซนสำนักกุยหย่าง (沩仰宗) ที่มีประวัติยาวนานถึง 1,200 ปี ประติมากรรมพระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือนี้สูง 99.19 เมตร[1] ซึ่งจัดเป็นรูปปั้นที่สูงเป็นอันดับ 4 ในสาธารณรัฐประชาชนจีน[2] และสูงเป็นอันดับ 8 ของโลก[3][4]
พระโพธิสัตว์กวนอิมพันมือแห่งกุยชานเป็นรูปปั้นพระอวโลกิเตศวรที่มีพันแขนและพันตาใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูง 99.19 เมตร (325.4 ฟุต)[5] สร้างเป็นอนุสรณ์ของวันอุปสมบทของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรในวันที่ 19 กันยายน องค์ประติมากรรมมีน้ำหนักมากกว่า 600 ตัน เชื่อมประกอบจากชิ้นส่วนที่เป็นด้วยสัมฤทธิ์และสัมฤทธิ์ชุบทอง 1,440 ชิ้น ระหว่างคิ้วของประติมากรรมเป็นทับทิมเจียรไนที่ออสเตรเลียและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 25 เซนติเมตร[6][7]
ประติมากรรมทั้งองค์มีทั้งหมด 11 เศียร ซ้ายขวาข้างละ 18 มือ กลางองค์ 4 มือ รวม 40 มือ บนฝ่ามือแต่ละมือมีตาหนึ่งดวง ตาแต่ละดวงมี 25 สัญญะแทนพันตา เรียกว่า "พระอวโลกิเตศวรมีพันตา"[8]
อาคารสามชั้นด้านล่าง (ฐาน) รูปปั้นคือ พระสุเมรุ (须弥座; xūmízuò) ซึ่งมีพื้นที่ก่อสร้างทั้งหมด 3,999 ตารางเมตร บนเนินดินสูง 21.9 เมตร (72 ฟุต) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของวันเกิดของพระโพธิสัตว์กวนอิม
เทศบาลประชาชนเทศมณฑลหนิงเซียง (宁乡市人民政府) ใช้งบประมาณ 260 ล้านหยวนในการสร้างรูปปั้นและได้รับการสนับสนุนจากนักธุรกิจท้องถิ่นและกลุ่มชาวพุทธ แล้วเสร็จสมบูรณ์ในเดือนมิถุนายน 2552[6][7] เปิดให้สาธารณชนเข้าชมอย่างเป็นทางการในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2558
เป็นวัดที่สร้างตั้งแต่สมัยถัง ในปีที่สองของรัชสมัยหยวนเหอ (元和) ของจักรพรรดิถังเสี้ยนจงแห่งราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 807) พระเถระนิกายเซน หลิง โย่ว (灵祐禅师) มาที่เขากุยเพื่อสร้างกระท่อมเพื่อเป็นสำนักชีและสร้างวัดยิงฉาน (应禅寺) และก่อตั้งสำนักศึกษา "กุยหย่าง" (沩仰宗) ต่อมาวัดนี้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดสามเจดีย์ (三塔寺; ซานถ่าซื่อ) และสุดท้ายในปี 849 จักรพรรดิถังเสฺวียนจงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น วัดมี่ยิ่น
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.