ปราสาทกิฟุ
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปราสาทกิฟุ (ญี่ปุ่น: 岐阜城; โรมาจิ: Gifu-jō) หรือ ปราสาทอินาบายามะ (稲葉山城, Inabayama-jō) เป็นปราสาทประจำจังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น และถือเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญประจำจังหวัด ตัวปราสาทตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนภูเขาคิงกะ ริมแม่น้ำนางาระ หากเดินทางโดยรถไฟมาจากเมืองนาโงยะก็จะเห็นปราสาทกิฟุบนยอดเขาคิงกะ ถือการต้อนรับเข้าสู่จังหวัดกิฟุ
บทความนี้ได้รับแจ้งให้ปรับปรุงหลายข้อ กรุณาช่วยปรับปรุงบทความ หรืออภิปรายปัญหาที่หน้าอภิปราย
|
ปราสาทกิฟุ | |
---|---|
岐阜城 | |
จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น | |
ปราสาทกิฟุ | |
พิกัด | 35°26′02″N 136°46′56″E |
ประเภท | ปราสาทญี่ปุ่น |
ข้อมูล | |
สภาพ | บูรณะขึ้นใหม่ |
ประวัติศาสตร์ | |
สร้าง | ค.ศ. 1201 |
สร้างโดย | ตระกูลนิไกโด |
การใช้งาน | ค.ศ. 1200-1600 |
วัสดุ | ไม่ทราบ (ดั้งเดิม) คอนกรีตเสริมเหล็ก (ปัจจุบัน) |
รื้อถอน | ค.ศ. 1600 |
ข้อมูลสถานี | |
ผู้บัญชาการ ในอดีต | โอดะ โนบูนางะ |
ผู้เข้าถือครอง | ตระกูลไซโตและตระกูลโอดะ |
National Historic Site of Japan |
ปราสาทกิฟุสร้างขึ้นเป็นครั้งแรกโดย ตระกูลนิไกโด ยูกิมาซะ นิไกโด (Yukimasa Nikaido) ระหว่างปี ค.ศ. 1201 ถึง ค.ศ. 1204 ในช่วงยุคคามากูระ[1][2] มิตสึซาเกะ อิบานะผู้ครอบครองปราสาทในยุคต่อไปได้นำนามสกุลของตัวเองมาตั้งชื่อปราสาทเป็นปราสาทอินาบายามะ (ญี่ปุ่น: 稲葉山城; โรมาจิ: Inabayama-jō) หลังจากนั้นในยุคมูโรมาจิ (ค.ศ. 1336-1573) ตระกูลไซโตได้เข้ามาครองครอง ปราสาทกิฟุนั้นได้มีการซ่อมแซมหลายครั้งในหลายสมัย ถึงแม้ว่าจะถูกยกย่องให้เป็นปราสาทที่มีความแข็งแกร่งแต่ครั้งหนึ่งเคยถูกยึดได้ด้วยกำลังพล 16 คนเพียงเท่านั้น
ในระหว่างยุคเซ็งโงกุ (ค.ศ 1467 - 1603) ตระกูลไซโต โดย ไซโต โดซัง (Saitō Dousan) ซามูไรสมญานาม "อสรพิษแห่งแคว้นมิโนะ (美濃の蝮)" ได้พักอาศัยอยู่ที่ปราสาทอิบานายามะ ต่อมาภายหลังบุตรชายนามโยชิตัตสึ (Saitō Yoshitatsu) แอบรู้ความลับว่าพ่อจะมอบแคว้นมิโนะให้แก่บุตรชายคนใดคนหนึ่งหรือลูกเขย คือ โอดะ โนบูนางะ โยชิตัตสึจึงได้สังหารน้องชายทั้งสองคนของตนในปี ค.ศ. 1555 หลังจากนั้น 1 ปี เกิดสงครามระหว่างพ่อลูกที่แม่น้ำนางาระ หรือเรียกว่าสงครามนางารากาวะ โดยฝ่ายพ่อเป็นฝ่ายปราชัยและถูกโยชิตัตสึสังหารในสงคราม หลังจากโยชิตัตสึปกครองแคว้นมิโนะได้ 5 ปี ก็เสียชีวิตด้วยโรคร้าย
ต่อมาไซโต ทัตสึโอกิ บุตรชายของไซโต โยชิตัตสึได้ขึ้นเป็นผู้ปกครองแคว้นมิโนะและปราสาทอินาบายะมะแทน หลังจากนั้นสามปีซามูไรผู้รับใช้ตระกูลไซโต ทาเกนากะ ฮัมเบะ ได้ยึดอำนาจโดยเดินทางมายังปราสาทเพื่อเยี่ยมน้องชายที่กำลังป่วยอยู่ แต่ที่จริงแล้วเป็นการออกอุบายเพื่อกำจัดทัตสึโอกิ ครั้นเมื่อฮัมเบะเริ่มโจมตี ไดเมียวทัตสึโอกิที่ไหวตัวทันจึงหลบหนีไป ฮัมเบะก็ได้ครอบครองปราสาทอินาบายามะช่วงเวลาหนึ่งแต่ยังคงให้อำนาจแก่ทัตสึโอกิเช่นเดิม ต่อมาฮัมเบะได้กลับมาพบไดเมียวทัตสึโอกิที่ปราสาทอีกครั้ง พบว่าไดเมียวทัตสึโอคิได้สูญเสียความนับหน้าถือตาอันเนื่องมาจากการที่เขาหนีออกจากปราสาทในช่วงที่มีการโจมตีจากฮัมเบะอย่างขี้ขลาดนั่นเอง
ใน ค.ศ. 156 โอดะ โนบูนางะได้เริ่มปฏิบัติการโจมตีที่แคว้นมิโนะ จากปราสาทซูโนมาตะ โนบูนางะนำกองกำลังพลข้ามแม่น้ำคิโซะ (Kiso River) และนำทัพเข้าสู่เมืองอิโนงูจิ (ปัจจุบันคือเมืองกิฟุ) ตลอดการเดินทางได้รวบรวมกำลังพล โดยโนบูนางะได้ล้อมปราสาทอินาบายามะ (siege to Inabayama Castle) การนำทัพพร้อมด้วยธงทัพโดยโนบูนางะทำให้กองกำลังป้องกันปราสาทอินาบายามะของไดเมียวทัตสึโอกิเสียขวัญ และสามารถยืนหยัดสู้บนปราสาทอินาบายามะได้เพียง 2 สัปดาห์เท่านั้น ในระหว่างการปิดล้อมนั้น คิโนชิตะ โทกิจิโร ผู้ติดตามของโนบูนางะได้นำกำลังพลกลุ่มเล็กและทหารอีก 7 นายพร้อมด้วยนำเต้าบรรจุน้ำดื่ม ปีนขึ้นไปตามทางลาดชันของภูเขาคิงกะ ลอบโจมตีทางด้านหลังของปราสาทซึ่งไร้กองกำลังคุ้มกัน เผาคลังเก็บของและโรงเก็นดินปืน โดยอาศัยช่วงชุลมุนฝ่าด่านทหารและเข้าไปเปิดประตูด้านหน้าของปราสาท เปิดทางให้กองกำลังโจมตีเข้ามาภายในปราสาทได้ หลังจากที่ทัตสึโอกิพ่ายแพ้ โนบูนางะก็ครอบครองปราสาทอินาบายามะและใช้ปราสาทอินาบายามะเป็นฐานบัญชาการในเวลาต่อมา
ภายหลังโนบูนางะก็เปลี่ยนชื่อปราสาทอินาบายามะเป็น "ปราสาทกิฟุ"[2] โนบูนางะซ่อมแซมปราสาทใหม่ให้ยิ่งใหญ่และหรูหรากว่าเดิม ปราสาทกิฟุถือเป็นหนึ่งสถานที่ที่มีความสำคัญและสวยงาม ตามบันทึกของ หลุยส์ ฟรออิส มิชชันนารีนิกายเยซูอิตชาวโปรตุเกสที่มีชื่อเสียง ครั้งหนึ่งโนบูนางะได้เชิญเขามาเยี่ยมเยียนปราสาท และได้มาพักอยู่ที่กิฟุช่วงระยะเวลาหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็เขียนในบันทึกยกย่องว่าเป็นปราสาทกิฟุเป็นปราสาทที่มีความสวยงามเป็นอย่างมาก
หลังจากยุคสมัยของโนบูนางะ ปราสาทก็ตกเป็นของบุตรชายคือโอดะ โนบูตาดะ (Oda Nobutada) ซึ่งภายหลังได้ฆ่าตัวตายโดยการคว้านท้องพร้อมกับพ่อที่วัดฮนโนะในเกียวโต ภายหลังโนบูตากะบุตรชายคนที่ 3 เป็นผู้รับช่วงต่อ และหลัจากนั้นปราสาทก็ตกเป็นของตระกูลฮิเกดะและโทโยโตมิ ตามลำดับ ท้ายที่สุด โอดะ ฮิเดโนบุ บุตรชายของโอดะ โนบุทาดะ เป็นผู้ครอบครองปราสาท หลังจากนั้น 8 ปี ก็เกิดยุทธการศึกปราสาทกิฟุ (岐阜城の戦い) ซึ่งเป็นศึกระหว่างสองขุนพลผู้ยิ่งใหญ่ โทโยโตมิ ฮิเดโยริ กับ โทกูงาวะ อิเอยาซุ โดยฮิเดโนบุอยู่ข้างเดียวกับฮิเดโยริ และได้ถูกกองกำลังของอิเอยาซุ นำโดยไดเมียวทารูมาซะ ฮิเกดะ และไดเมียวมาซาโนริ ฟูกูชิมะ บุกเข้ามาตีก่อนที่จะยึดครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นปราสาทกิฟุได้ถูกทำลายลง ได้มีการรื้อถอนบางชิ้นส่วนไปสร้างเป็นปราสาทคาโน (Kanō Castle) เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง[1] แต่ในปัจจุบันไม่มีปราสาทนี้แล้ว
ปราสาทกิฟุในปัจจุบันเป็นโครงสร้างปูนซีเมนต์ สร้างขึ้นใหม่เมื่อประมาณ ค.ศ. 1950 หลังจากที่ปราสาทถูกทำลายโดยระเบิดจากสงครามโลกครั้งที่ 2 (World War II)[2] ภายในปราสาทมีการจัดแสดงนิทรรศการประวัตศาสตร์ของประสาทกิฟุแบ่งออกเป็น 3 ชั้น[2] นิทรรศการประกอบด้วยแผนที่ อาวุธ รูปภาพ และสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีตของปราสาทกิฟุ ชั้นบนสุดเป็นจุดชมวิวพาโนราม่า 360 องศา สามารถชมทัศนียภาพอันสวยงานของเมืองกิฟุได้โดยรอบที่มีแม่น้ำนางาระไหลผ่านระหว่างเมืองและสามารถมองเห็นเมืองนาโงยะได้ด้วย และสามารถรับชมทัศนียภาพในยามค่ำคืนได้ในระหว่างเวลาทำการช่วงกลางคืน[3]
ระหว่างทางเดินจากปราสาทประกอบไปด้วยสิ่งประดิษฐ์จากปราสาทกิฟุ รวมไปถึงรูปภาพปราสาทชื่อดังของประเทศญี่ปุ่นด้วย
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมพิพิธภัณฑ์หอจดหมายเหตุปราสาทกิฟุได้ ซึ่งตั้งอยู่ในปราสาทกิฟุ 70 m (230 ft) จากประตูทางเข้า (ค่าธรรมเนียมเข้าขมจะรวมอยู่กับค่าเข้าชมปราสาทกิฟุ) ภายในประกอบด้วยจดหมายเหตุของปราสาทกิฟุ ชั้นที่สองประกอบด้วยเครื่องดนตรีจากประเทศญี่ปุ่นทั้งในอดีตและปัจจุบัน รวมไปถึงรูปภาพปราสาทที่ตกแต่งอย่างสวยงามรายล้อมรอบพิพิธภัณฑ์
ผู้ใหญ่ - 200 เยน (อายุ 16 ปีขึ้นไป) เด็ก - 100 เยน (อายุ 4 - 15 ปี)
ราคาสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเป็นกลุ่ม (30 คนขึ้นไป) : ส่วนลดจากราคาปกติ 20%
ราคาหลังจาก 18.00 น.:
ผู้ใหญ่ - 900 เยน / ไปกลับ
เด็ก - 450 เยน / ไปกลับ
สามารถใช้บริการรถบัสจากสถานี เจอาร์ กิฟุ (JR Gifu Station) หรือ เมอิเทะซึ กิฟุ (Meitetsu Gifu Station) เดินทางไป “Gifu Park/ Gifu City Museum of History”. (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที. 210 เยน/เที่ยว) รถบัสที่ให้บริการมีดังนี้
เดินเท้าประมาณ 3 นาที จากป้ายสถานี “Gifu Park/ Gifu City Museum of History. ขึ้นไปยังประสาทกิฟุโดยกระเช้าลอยฟ้า (Mt. Kinka Ropeway), (ใช้เวลาประมาณ 3 นาที) และเดินเท้าอีกประมาณ 8 นาที หรือสามารถเดินเท้าจากตีนเขาไปยังปราสาทกิฟุ (ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
*หมายเหตุไม่อนุญาตให้นำรถยนต์ขึ้นเขาคิงกะและปราสาทกิฟุ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.