ปฏิทินฮิจเราะห์ ปฏิทินอิสลาม หรือ ปฏิทินมุสลิม (อังกฤษ: Islamic calendar; อาหรับ: ٱلتَّقْوِيم ٱلْهِجْرِيّ at-taqwīm al-hijrī) เป็นระบบปฏิทินจันทรคติซึ่งประกอบด้วย 12 เดือน และใน 1 ปีจะมี 354 หรือ 355 วัน ใช้กำหนดวันเหตุการณ์ในหลายประเทศมุสลิม (ควบคู่ไปกับปฏิทินกริกอเรียน) และใช้โดยมุสลิมทั่วโลกเพื่อกำหนดวันที่เหมาะสมในการเฉลิมฉลองวันสำคัญและเทศกาลในศาสนาอิสลาม ปฏิทินฮิจเราะห์เริ่มนับเมื่อศาสดาแห่งอิสลาม นบีมุฮัมมัดอพยพจากมักกะฮ์ไปยังมะดีนะฮ์ หรือที่รู้จักกันว่า hijra, hijrah ในภาษาอังกฤษ ฮิจเราะห์ศักราชจะถูกระบุโดยใช้ตัวย่อ H หรือ AH อันเป็นตัวย่อของวลีภาษาละติน anno Hegirae (ในปีแห่งฮิจเราะห์)[1] ปัจจุบันอยู่ในฮิจเราะห์ศักราช 1445
เนื่องจากปฏิทินฮิจเราะห์เป็นปฏิทินจันทรคติ จึงไม่เกิดขึ้นพร้อมกับฤดูกาล โดยในแต่ละปีมีวันคาดเคลื่อนไปจากปฏิทินกริกอเรียนอยู่ 11 หรือ 12 วัน ทำให้ฤดูกาลจะกลับมาซ้ำเดิมทุก 33 ปีอิสลาม
เดือนตามระบบปฏิทินฮิจเราะห์
ในหนึ่งปีฮิจเราะห์มี 12 เดือน คือ[2]
- มุฮัรร็อม (مُحَرَّم, "ต้องห้าม") ได้ชื่อนี้มาเพราะเป็นการผิดกฎหมายหากสู้รบกันในเดือนนี้ เป็นเดือนที่มีความศักดิ์สิทธิ์ที่สุดเป็นอันดับสองในปฏิทินฮิจเราะห์ และมีวันอาชูรออ์
- เศาะฟัร (صَفَر, "ว่างเปล่า") คาดว่าได้ชื่อนี้มาเพราะชาวอาหรับนอกศาสนาปล้นสะดมในเดือนนี้และทิ้งให้บ้านว่างเปล่า บ้างก็ว่าชาวเมืองมักกะฮ์เดินทางออกจากเมืองในเดือนนี้จนเมืองว่างเปล่า
- เราะบีอุลเอาวัล (رَبِيع ٱلْأَوَّل, "ฤดูใบไม้ผลิแรก")
- เราะบีอุษษานี (رَبِيع ٱلثَّانِي, "ฤดูใบไม้ผลิที่สอง (หรือหลัง)")
- ญุมาดัลอูลา (جُمَادَىٰ ٱلْأُولَىٰ, "เดือนแรกที่ผืนดินแห้งแล้ง")
- ญุมาดัษษานี (جُمَادَىٰ ٱلثَّانِي, "เดือนที่สอง (หรือหลัง) ที่ผืนดินแห้งแล้ง")
- เราะญับ (رَجَب, "เคารพ" หรือ "ให้เกียรติ") เป็นเดือนต้องห้ามอีกเดือนหนึ่งซึ่งแต่โบราณแล้วห้ามสู้รบกันในเดือนนี้
- ชะอ์บาน (شَعْبَان, "กระจาย) ตรงกับช่วงที่เผ่าอาหรับกระจายกันไปหาน้ำ
- เราะมะฎอน (رَمَضَان, "ร้อนจัด") เป็นเดือนที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในปฏิทินฮิจเราะห์ ชาวมุสลิมจะถือศีลอดในช่วงเช้าจนถึงตะวันตกดิน
- เชาวาล (شَوَّال, "ยก") เป็นช่วงของปีที่อูฐตัวเมียยกหางขึ้นหลังจากเกิดลูกแล้ว
- ษุลเกาะอ์ดะฮ์ (ذُو ٱلْقَعْدَة, "เดือนแห่งการพักรบ") เป็นอีกเดือนหนึ่งที่สงครามถูกห้าม
- ษุลฮิจญ์ญะฮ์ (ذُو ٱلْحِجَّة, "เดือนแห่งการแสวงบุญ") หมายถึงการแสวงบุญไปยังมักกะฮ์ประจำปีของมุสลิม ที่เรียกว่า ฮัจญ์
วันในสัปดาห์
ในภาษาอาหรับ เช่นเดียวกับในภาษาฮีบรู "วันแรก" ของสัปดาห์เสมือนกับเป็นวันอาทิตย์แบบสากล วันในศาสนาอิสลามและศาสนายูดาห์เริ่มเมื่อดวงอาทิตย์ตก ขณะที่ศาสนาคริสต์สมัยกลางและวันแบบสากลเริ่มเมื่อเวลาเที่ยงคืน[3] แต่วันพิธีสวดในศาสนาคริสต์ ซึ่งใช้กันในอารามต่าง ๆ นั้น เริ่มด้วยพิธีทางศาสนาในตอนเย็น (Vespers) ซึ่งเป็นไปตามประเพณีของกลุ่มศาสนาอับราฮัมอื่น ๆ มุสลิมชุมนุมกันเพื่อสักการะที่มัสยิดเมื่อเวลาเที่ยงวันศุกร์ ดังนั้น วันศุกร์จึงมักถือว่าเป็นวันหยุดประจำสัปดาห์ ดังนั้นวันรุ่งขึ้น ซึ่งเป็นวันเสาร์ จึงเป็นวันแรกของสัปดาห์ทำงาน
ลำดับที่ | ภาษาอาหรับ | ภาษาไทย | ภาษาฮินดี | ภาษาเบงกอล | ภาษาฮีบรู | ภาษาอินโดนีเซีย | ภาษามลายู | ภาษาอูรดู | ภาษาเปอร์เซีย |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | เยามุลอะฮัด يَوْم الْأَحَد (วันแรก) | วันอาทิตย์ | รวิวาร रविवार | রবিবার | Yom Rishon יום ראשון | มิงกู Minggu | อาฮัด Ahad | Itwaar اتوار | Yek-Shanbeh یکشنبه |
2 | เยามุลอิษนัยน์ يَوْم الاِثْنَيْن (วันที่สอง) | วันจันทร์ | โสมวาร सोमवार | সোমবার | Yom Sheni יום שני | เซอนิน Senin | อิซนิน Isnin | Pîr پير | Do-Shanbeh دوشنبه |
3 | เยามุษษุลาษาอ์ يَوْم الثُّلَاثَاء (วันที่สาม) | วันอังคาร | มงคลวาร मंगलवार | মঙ্গলবার | Yom Shlishi יום שלישי | เซอลาซา Selasa | เซอลาซา Selasa | Mangl منگل | Seh-Shanbeh سه شنبه |
4 | เยามุลอัรบะอาอ์ يَوْم الْأَرْبَعَاء (วันที่สี่) | วันพุธ | พุธวาร बुधवार | বুধবার | Yom Revi'i יום רבעי | ราบู Rabu | ราบู Rabu | Budh بدھ | Chahar-Shanbeh چهارشنبه |
5 | เยามุลเคาะมีส يَوْم الْخَمِيس (วันที่ห้า) | วันพฤหัสบดี | คุรุวาร गुरुवार | বৃহস্পতিবার | Yom Khamishi יום חמישי | กามิซ Kamis | คามิซ Khamis | Jumahraat جمعرات | Panj-Shanbeh پنجشنبه |
6 | เยามุลญุมอะฮ์ يَوْم الْجُمْعَة (gathering day) | วันศุกร์ | ศุกรวาร शुक्रवार | শুক্রবার | Yom Shishi יום ששי | จุมอัต Jumat | จูมาอัต Jumaat | Jumah جمعہ | Jom'e หรือ Adineh جمعه หรือ آدينه |
7 | เยามุสซับต์ يَوْم ٱلسَّبْت (วันสะบาโต) | วันเสาร์ | ศนิวาร शनिवार | শনিবার | Yom Shabbat יום שבת | ซับตู Sabtu | ซับตู Sabtu | Hafta ہفتہ | Shanbeh شنبه |
ประวัติศาสตร์
ก่อนปฏิทินฮิจเราะห์
นักวิชาการบางคน ทั้งมุสลิมและตะวันตก คิดว่าปฏิทินก่อนปฏิทินฮิจเราะห์ในอาระเบียกลางเป็นปฏิทินจันทรคติคล้ายกับปฏิทินฮิจเราะห์สมัยใหม่[4][5] ส่วนนักวิชาการอื่น ๆ ทั้งมุสลิมและตะวันตก เห็นด้วยว่าเดิมปฏิทินฮิจเราะห์เป็นปฏิทินจันทรคติ ที่ราว 200 ปีก่อนการฮิจเราะห์ ได้แปลงไปเป็นปฏิทินสุริยจันทรคติ ซึ่งมีการเพิ่มอธิกมาสเป็นบางครั้งเพื่อรักษาเวลาในฤดูกาลของปีเมื่อสินค้ามีมากที่สุดสำหรับผู้ซื้อเบดูอิน การแทรกอธิกมาสมีขึ้นทุกสามปี โดยจะเลื่อนเดือนแรกของปีไปหนึ่งเดือน การแทรกอธิกมาสเพิ่มเดือนแสวงบุญอีกหนึ่งเดือน และเดือนที่ตามมานั้นจะมีชื่อเหมือนกัน และเดือนที่เหลือและความศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายของเดือนที่ตามมานั้นจะเลื่อนออกไปหนึ่งเดือนทั้งหมด[6][7][8][9]
การห้ามเลื่อนเดือน
ในปีฮิจเราะห์ที่สิบ ตามที่ปรากฏในอัลกุรอาน (อัลกุรอาน 9:36-37) มุสลิมเชื่อว่าพระเจ้า (อัลลอฮ์) ห้ามการเลื่อนเดือน:
- แท้จริงจำนวนเดือน ณ อัลลอฮ์นั้นมีสิบสองเดือนในคัมภีร์ของอัลลอฮ์ตั้งแต่วันที่พระองค์ทรงสร้างบรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน จากเดือนเหล่านั้นมีสี่เดือน ซึ่งเป็นเดือนที่ต้องห้ามนั่นคือบัญญัติอันเที่ยงตรง ดังนั้นพวกเธอจงอย่าอธรรมแก่ตัวของพวกเธอเองในเดือนเหล่านั้นและจงต่อสู้บรรดามุชริกทั้งหมด เช่นเดียวกับที่พวกเขากำลังต่อสู้พวกเธอทั้งหมด และพึงรู้เถิดว่า แท้จริงอัลลอฮ์นั้นร่วมกับบรรดาผู้ที่ยำเกรง
- แท้จริงการเลื่อนเดือนที่ต้องห้ามให้ล่าช้า ไปนั้นเป็นการเพิ่มในการปฏิเสธศรัทธา ยิ่งขึ้นโดยที่ผู้ปฏิเสธศรัทธาเหล่านั้นถูกทำให้หลงผิดไป เนื่องด้วยการเลื่อนเดือนต้องห้ามนั้น พวกเขาได้ให้มันเป็นที่อนุมัติปีหนึ่ง และให้มันเป็นที่ต้องห้ามปีหนึ่ง เพื่อพวกเขาจะให้พ้องกับจำนวนเดือนที่อัลลอฮ์ได้ทรงห้ามไว้ (มิเช่นนั้นแล้ว) พวกเขาก็จะทำให้เป็นที่อนุมัติสิ่งทีอัลลอฮ์ได้ทรงให้เป็นที่ต้องห้ามไป โดยที่ความชั่วแห่งบรรดาการงานของพวกเขาได้ถูกประดับประดาให้สวยงามแก่พวกเขา และอัลลอฮ์นั้นจะไม่ทรงนำทางแก่กลุ่มชนที่ปฏิเสธศรัทธา[10]
การเปลี่ยนระหว่าง ฮ.ศ. กับ ค.ศ.
หากต้องการทราบว่าวันเดือนปีใน ค.ศ. xxxx ตรงกับวันเดือนปีใดใน ฮ.ศ. ให้ทำดังนี้
วิธีที่ 1
- เปลี่ยนค่า ปี เดือน และวัน ที่ต้องการนั้นให้มีจำนวนเป็นวัน โดยการนำเอาปีนั้นมาลบด้วย 1 แล้วคูณด้วย 365.25 แล้วเอาจำนวนเดือนและวันที่เหลือมาบวก
- เอาผลลัพธ์นั้นลบด้วยค่าความแตกต่างระหว่าง ค.ศ. กับ ฮ.ศ. คือ 227015 วัน
- เอาผลลัพธ์หารด้วย 10631 (อันเป็นเวลา 1 รอบน้อย)
- เอาผลลัพธ์คูณด้วย 30 และเอาเศษที่เป็นวันนั้น ทำเป็นปีและเดือน ตามกฎของปีปกติและอธิกสุรทิน และบวกเข้ากับผลลัพธ์
- เอาหนึ่งบวกกับผลลัพธ์ที่เป็นปีและเอาเศษผลลัพธ์ที่เป็นนั้นนั้นทำเป็นเดือน
ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 มกราคม 1992
1992 – 1 = 1991
1991 x 365.25 = 727212.75 + 11 = 727223
727223 – 227015 = 500208
10631 = 47 รอบ เศษ 551 x 30 = 1410 + 1 + 1 ปีเศษ 197 วัน = 2523 ปี 197 วัน
1411 + 1 ปี = 1412 ปี 197 วัน
197 30 + 29 + 30 + 29 + 30 + 30 + 19 = Rajab 1412
วิธีที่ 2
โดยใช้ข้อมูลต่อไปนี้เป็นหลัก
- วันที่ 1 มุฮัรร็อม 01 ตรงกับ 16 กรกฎาคม 622
- ปีจันทรคติ ฮ.ศ. มี 354.36666 วัน
- ปีสุริยคติกริกอเรียนมี 365.2425 วันจูเลียน = 365.25
- 1 ปี จันทรคติมีค่า = 0.070223 = 0.97
- 1 ปี สุริยคติมีค่า = 1.0306909 = 1.0307121
ตัวอย่างเช่น วันที่ 1 มค. 1992
- ลบปีที่ต้องการซึ่งยังไม่บริบูรณ์นั้นด้วย 1992 – 1 = 1991
- ความแตกต่างระหว่าง ค.ศ. กับ ฮ.ศ. ด้วย 1991 – 622 = 1369 ด้วยการหาผลลัพธ์นั้นด้วย 622
- ระหว่าง 16 กรกฎาคม ถึง 11 มกราคม เป็นเวลา = 179 วัน
- เอาผลลัพธ์จากข้อ 2 ซึ่งเป็นปีนั้นคูณด้วย 1.0306909 = 1411.0158
- ทศนิยมจากเศษนั้นเปลี่ยนเป็นโดยการคูณกับ 354.3666 1.0307121 = 1411.0448 = 1411 ปี 5.59 วัน
- เอาผลลัพธ์จากข้อ 3 และ 4 รวมกัน ปี 1412 ปี 15.87 วัน +
- บวกค่าความแตกต่างระหว่างกรกฎาคมถึงเดือนที่ต้องการ 179 วัน ปี 1412 วัน
- บวกค่าความแตกต่างระหว่าง J และ G = 13 วัน = 19 Rajab 1442
- เปลี่ยนผลลัพธ์จากวันเป็นเดือนและวัน
ถ้าจะหา ค.ศ. จาก ฮ.ศ. ทำได้ดังนี้
- เอา ฮ.ศ. ปีที่ต้องการนั้นลบด้วย 1
- เอาผลลัพธ์ที่ได้คูณด้วย ผลลัพธ์ที่ได้เป็นปีและทศนิยมของปี
- เปลี่ยนทศนิยมของผลลัพธ์เป็นวันด้วยการคูณกับ 365.25
- เอาระยะเวลาห่างจาก 1 มกราคม ถึง 16 ตุลาคม (200 วัน) บวกกับผลลัพธ์
- เอาค่าความแตกต่างระหว่าง ค.ศ. กับ ฮ.ศ. มาบวก
- เอาระยะเวลาจาก 1 มุฮัรร็อม ถึงวันที่และเดือนที่ต้องการ
- เปลี่ยนค่าของผลลัพธ์เป็นปี – เดือน – และวันที่
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
Wikiwand in your browser!
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.