บางจาก คอร์ปอเรชั่น
บริษัทปิโตรเลียมและพลังงานในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บริษัทปิโตรเลียมและพลังงานในประเทศไทย จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SET:BCP) เดิมชื่อ บางจากปิโตรเลียม เป็นกลุ่มบริษัทปิโตรเลียมและพลังงานในประเทศไทย ก่อตั้งเป็นรัฐวิสาหกิจเมื่อ พ.ศ. 2527 และปัจจุบันจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยดําเนินธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน ตลอดจนธุรกิจพลังงานยั่งยืนผ่านบริษัทย่อยต่าง ๆ
บทความนี้คล้ายโฆษณาหรือประชาสัมพันธ์
วิกิพีเดียมิใช่ช่องทางการสื่อสารการตลาดของหน่วยธุรกิจใด ๆ กรุณาเขียนใหม่ด้วยมุมมองที่เป็นกลาง และนำแหล่งข้อมูลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องออก |
โรงกลั่นน้ำมันบางจาก เขตพระโขนง ตั้งอยู่ในที่ดินของกรมธนารักษ์ พื้นที่มากกว่า 100 ไร่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา | |
ประเภท | บริษัทมหาชนจำกัด |
---|---|
การซื้อขาย | SET:BCP |
อุตสาหกรรม | ทรัพยากร |
ก่อตั้ง | 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 |
สำนักงานใหญ่ | 2098 อาคารเอ็ม ทาวเวอร์ ชั้น 8 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนงใต้ เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร |
บุคลากรหลัก | ประสงค์ พูนธเนศ (ประธานกรรมการ) สุเทพ วงศ์วรเศรษฐ (รองประธานกรรมการ) ชัยวัฒน์ โควาวิสารัช (ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่) |
ผลิตภัณฑ์ | น้ำมัน, ก๊าซธรรมชาติ, การกลั่นน้ำมัน |
รายได้ | 385,853 ล้านบาท (2566) |
สินทรัพย์ | 340,429 ล้านบาท (2566) |
EBITDA | 41,680 ล้านบาท |
เว็บไซต์ | www |
บางจากก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2527 ในสมัยรัฐบาลพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ มีมติให้จัดตั้งและจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งบริษัทในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2527 ในชื่อ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีหน้าที่หลักคือดำเนินการกลั่นและผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศ
ในวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2536 ได้จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้ชื่อว่า บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) โดยซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2537
ต่อมากระทรวงการคลัง ได้ลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) ทำให้สิ้นสุดความเป็นรัฐวิสาหกิจตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2544[1] ต่อมาเมื่อวันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2560 ได้เปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้งเป็น บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
เมื่อต้นปี พ.ศ. 2566 (11 มกราคม) บางจากฯ ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่าคณะกรรมการบริษัทเห็นชอบให้เสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติการเข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (“เอสโซ่”) จาก ExxonMobil Asia Holdings Pte. Ltd. (“ExxonMobil”) ในสัดส่วนร้อยละ 65.99 ซึ่งได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้น ในที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี เมื่อวันที่ 11 เมษายน พ.ศ.2566[2]
เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2566 บางจากฯ ดำเนินการชำระราคาซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ร้อยละ 65.99 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและจำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เสร็จสิ้นโดยเครือข่ายสถานีบริการของเอสโซ่ ผลิตภัณฑ์และน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยาน จะเข้ามาเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์บางจาก ต่อมาจาก กลับมาเป็นรัฐวิสาหกิจอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 ถึงปัจจุบัน
บางจากได้ดำเนินกิจการหลักด้วยการประกอบด้วย ธุรกิจโรงกลั่นน้ำมันปิโตรเลียม ธุรกิจตลาด ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ รวมถึงได้ขยายกิจการสู่ธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากเซลล์แสงอาทิตย์ที่เป็นพลังงานสะอาดจากธรรมชาติ ธุรกิจสำรวจและผลิตน้ำมันปิโตรเลียม และธุรกิจเกี่ยวเนื่องด้านนวัตกรรม
โรงกลั่นน้ำมันแบบ Complex Refinery มาตรฐานระดับโลก 2 แห่ง คือโรงกลั่นน้ำมันบางจาก พระโขนงและโรงกลั่นน้ำมันบางจาก ศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยมีกำลังการผลิตรวมเกือบ 300,000 บาร์เรลต่อวัน สามารถผลิตน้ำมันกลุ่มเบนซินและดีเซลซึ่งเป็นน้ำมันที่มีมูลค่าสูงได้เป็นส่วนใหญ่ ผลิตภัณฑ์น้ำมันแก๊สโซฮอล์และน้ำมันดีเซลจากโรงกลั่นน้ำมันบางจากเป็นน้ำมันที่ได้คุณภาพตามข้อกำหนดมาตรฐานยูโร 4 ของภาครัฐ [3] มุ่งเน้นที่จะเพิ่มประสิทธิภาพด้านพลังงานในกระบวนการผลิต และเพิ่มศักยภาพในการผลิตเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและส่งเสริมกับธุรกิจที่เป็นช่องทางการจัดจำหน่ายของบริษัทฯ
จัดจำหน่ายผ่านช่องทางไปยังภาคอุตสาหกรรม และค้าปลีกน้ำมันผ่านเครือข่ายสถานีบริการกว่า 2,200 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ non-oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio EV Charger รวมทั้งความร่วมมือกับพันธมิตรด้านอาหาร
บริษัทฯ ลงทุนธุรกิจพลังงานไฟฟ้าสีเขียวผ่านการดำเนินการของบริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) ซึ่งดำเนินการผลิตไฟฟ้าทั้งในและนอกประเทศผ่านพลังงานแสงอาทิตย์ น้ำและลม
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ เช่น ธุรกิจเอทานอลและธุรกิจไบโอดีเซล ผ่านบริษัท บีบีจีไอ จำกัด(มหาชน) ซึ่งประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูงและธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีชีวภาพ
บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่าน OKEA ASA และดำเนินธุรกิจเกี่ยวข้องกับลิเทียม รวมทั้งนวัตกรรมนอกประเทศไทย
บางจากได้จัดตั้งสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ หรือมีชื่อย่อว่า BiiC โดยมีวัตถุประสงค์ในการสร้าง Green Ecosystem เพื่อผลักดันนวัตกรรมต่างๆ โดยเน้นด้านพลังงานสีเขียว (Green Energy) และด้านชีวภาพ (Bio-Based) นำมาต่อยอดขยายธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศจากการวิจัยและพัฒนา จัดการเทคโนโลยีและเครือข่าย พร้อมทั้งบ่มเพาะธุรกิจ Startup สนับสนุนเศรษฐกิจยุค 4.0 โดยมุ่งสู่กลุ่มบริษัทนวัตกรรมสีเขียวชั้นนำในเอเชีย
ลำดับที่ | รายชื่อผู้ถือหุ้น | จำนวนหุ้นสามัญ | สัดส่วนการถือหุ้น |
---|---|---|---|
1 | บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด | 240,233,093 | 17.45% |
2 | สำนักงานประกันสังคม | 198,307,697 | 14.40% |
3 | กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน) | 136,586,300 | 9.92% |
4 | กองทุนรวม วายุภักษ์หนึ่ง โดย บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) | 136,586,300 | 9.92% |
5 | กระทรวงการคลัง | 65,543,767 | 4.76% |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.