Remove ads
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก (ญี่ปุ่น: 俺の妹がこんなに可愛いわけがない; โรมาจิ: Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai[1][2] หรือเรียกโดยย่อว่า โอเรอิโมะ (ญี่ปุ่น: 俺妹; โรมาจิ: Oreimo)) [3][4] เป็นชื่อไลต์โนเวลชุดหนึ่งซึ่งสึกะซะ ฟุชิมิ เป็นผู้เขียนเรื่อง และมี ฮิโระ คันซะกิ เป็นผู้วาดภาพประกอบ ผลิตและจัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์เดงเงกิบุงโกะ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือบริษัทแอสกี้มีเดียเวิร์กส์ พิมพ์เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 10 สิงหาคม 2551
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก | |
ปกไลต์โนเวลเล่มแรกเป็นรูปคิริโนะกับเคียวซุเกะ | |
俺の妹がこんなに可愛いわけがない | |
---|---|
ชื่อภาษาอังกฤษ | Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai |
แนว | ตลก, ละคร, วีรคติ, เสี้ยวชีวิต |
มังงะ | |
เขียนโดย | สึกะซะ ฟุชิมิ |
สำนักพิมพ์ | ASCII Media Works |
มังงะ | |
เขียนโดย | สึกะซะ ฟุชิมิ |
สำนักพิมพ์ | ASCII Media Works |
กลุ่มเป้าหมาย | เซเน็น |
อนิเมะโทรทัศน์ | |
กำกับโดย | ฮิโระยุกิ คัมเบะ |
สตูดิโอ | AIC Build |
เครือข่าย | Tokyo MX, TVS, tvk, CTC, TVA, TVQ, TVh, MBS, AT-X, BS11 |
ฉาย | 3 ตุลาคม 2553 – 19 ธันวาคม 2553 |
ตอน | 12 |
เกม | |
Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Portable | |
ผู้พัฒนา | บันไดนัมโคเกมส์ (Bandai Namco Games) |
ผู้จัดจำหน่าย | บันไดนัมโคเกมส์ |
แนว | วิชวลโนเวล |
แพลตฟอร์ม | เพลย์สเตชันพอร์เทเบิล |
วางจำหน่ายเมื่อ | 27 มกราคม 2554 |
อนิเมะ | |
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก | |
กำกับโดย | ฮิโระยุกิ คัมเบะ |
สตูดิโอ | เอไอซีบิลด์ |
มังงะ | |
รุ่นน้องของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก | |
เขียนโดย | สึกะซะ ฟุชิมิ |
สำนักพิมพ์ | แอสกี้มีเดียเวิร์กส์ |
กลุ่มเป้าหมาย | เซเน็น |
เกม | |
Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai : Portable ga Tsuzuku Wake ga Nai | |
ผู้พัฒนา | บันไดนัมโคเกมส์ |
ผู้จัดจำหน่าย | บันไดนัมโคเกมส์ |
แนว | วิชวลโนเวล |
แพลตฟอร์ม | เพลย์สเตชันพอร์เทเบิล |
วางจำหน่ายเมื่อ | 17 พฤษภาคม 2555 |
อนิเมะโทรทัศน์ | |
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอ Season 2 | |
กำกับโดย | ฮิโระยุกิ คัมเบะ |
เขียนบทโดย | ฮิเดะยุกิ คุระตะ |
สตูดิโอ | เอ-1 พิกเจอส์ |
เครือข่าย | Tokyo MX, tvk, Tochigi TV, Gunma TV, TVS, CTC, TVA, TVQ, TVh, ABC, BS11, AT-X |
ฉาย | 7 เมษายน 2556 – 30 มิถุนายน 2556 |
ตอน | 13 |
อนิเมะ | |
น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนั้นหรอก | |
กำกับโดย | ฮิโระยุกิ คัมเบะ |
สตูดิโอ | เอ-1 พิกเจอส์ |
เกม | |
Ore no Imōto ga Konna ni Kawaii Wake ga Nai Happy End | |
ผู้พัฒนา | บันไดนัมโคเกมส์ |
ผู้จัดจำหน่าย | บันไดนัมโคเกมส์ |
แนว | วิชวลโนเวล |
แพลตฟอร์ม | เพลย์สเตชัน 3 |
วางจำหน่ายเมื่อ | 26 กันยายน 2556 |
ต่อมา ซะกุระ อิเกะดะ ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นมังงะลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร Dengeki G's Magazine ตั้งแต่ต้นปี 2552, บริษัทเอไอซีบิลด์ ดัดแปลงเป็นอนิเมะ หนึ่งชุดสองฤดูกาลต่อกัน ฤดูกาลแรกประกอบด้วยสิบหกตอน สิบสองตอนฉายทางโทรทัศน์ในปลายปี 2553 อีกสี่ตอนเผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตเดือนละตอนเมื่อต้นปี 2554 ก่อนจะเผยแพร่รวมกันเป็นดีวีดีและบลูเรย์ในกลางปีนั้น ส่วนฤดูกาลที่สองกำลังผลิต และบริษัทบันไดนัมโคเกมส์ ดัดแปลงเป็นเกมแนววิชวลโนเวลแผยแพร่ตั้งแต่กลางปี 2554 และในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2556 ได้มีการฉายอนิเมะภาค 2 ของเรื่อง โดย A-1 Pictures ฉายทางช่อง Tokyo MX, tvk, Tochigi TV, Gunma TV, TVS, CTC, TVA, TVQ, TVh, ABC, BS11, AT-X ในประเทศญี่ปุ่น
ไลต์โนเวลมีเนื้อหาว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่มคนหนึ่งกับน้องสาวซึ่งไม่ราบรื่นมาแต่ต้น และต้องการพิสูจน์ให้น้องสาวเห็นว่าตนเป็นพี่ชายที่ดี โดยเมื่อเขาค้นพบว่าน้องสาวชื่นชอบเกมลามกอนาจาร เขาได้สงเคราะห์ให้น้องสาวสามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ในสังคมที่น้อยคนจะยอมรับรสนิยมเช่นว่าได้ ตลอดจนได้ปรับปรุงความสัมพันธ์กับน้องสาวและกลับมารักใคร่กันดังเดิม ไลต์โนเวลนำเสนอปัญหาหลายประการทางครอบครัวและสังคมผ่านเนื้อหาแนวตลก ละคร และวีรคติ โดยทั้งไลต์โนเวลและอนิเมะซึ่งดัดแปลงมานั้นได้รับความนิยมเป็นอันมาก ถึงขนาดเป็นเหตุให้ฟุชิมิ ผู้เขียน ถูกข่มขู่มากกว่าห้าร้อยครั้งให้มอบบทเด่นแก่ตัวละครบางตัวด้วย[5]
เคียวซุเกะ โคซะกะ เป็นชายหนุ่มวัยสิบเจ็ดปีและเป็นนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายอาศัยอยู่ในเมืองชิบะ จังหวัดชิบะ[6] มีน้องสาวหนึ่งคนชื่อ คิริโนะ อายุสิบสี่ปี แต่เข้ากันมิได้มานานหลายปี เขาจดจำได้ว่า น้องสาวให้ความสนใจแก่เขาเพียงด้วยชายหางตามอง และคาดหมายว่า ความสัมพันธ์คงเป็นเช่นนี้กันตลอดไป
อย่างไรก็ดี วันหนึ่ง เขาพบกล่องดีวีดีที่น้องสาวทำหล่นไว้ ปกเป็นอนิเมะแนวสาวน้อยเวทมนตร์ แต่ข้างในบรรจุแผ่นเกมลามกอนาจาร ซึ่งทำให้เขาตื่นเต้นตกใจเป็นอันมาก แต่เขาต้องตระหนกไปยิ่งกว่านั้นเมื่อน้องสาวพาเขาไปยังห้องของเธอในกลางดึกแล้วเปิดเผยว่า เธอคลั่งไคล้และสะสมอนิเมะกับเกมที่มีเนื้อหาเร้ากำหนัด โดยเฉพาะที่ว่าด้วยการร่วมประเวณีกับน้องสาว แต่ต้องเก็บรสนิยมนี้เป็นความลับตลอดมาเกลือกคนทั้งปวงรับไม่ได้ ทว่า เคียวซุเกะได้แสดงให้น้องสาวมั่นใจว่า เขามิได้รังเกียจเธอหรือความชื่นชอบของเธอแต่ประการใด กับทั้งยินดีช่วยเหลือให้เธออยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
นับแต่นั้น คิริโนะก็ร้องขอให้พี่ชายช่วยเหลือในหลาย ๆ เรื่อง รวมถึงเรื่องอนิเมะและเกมเช่นว่า โดยเรียกขานว่าเป็น "การปรึกษาปัญหาชีวิต" และทวีความไว้วางใจในพี่ชายขึ้นโดยลำดับ คนทั้งสองจึงได้กลับมาสนิทสนมรักใคร่กันอีกครั้ง
หนังสือพิมพ์ ไมนิชิชิมบุง (Mainichi Shimbun) ว่า ในเดือนสิงหาคม 2552 ไลต์โนเวลเล่มที่สี่ขายดีที่สุดในบรรดาไลต์โนเวลที่จำหน่ายในเวลานั้น[7] และเครือข่ายข่าวอนิเมะว่า ในเดือนเมษายน 2553 ไลต์โนเวลเล่มที่หนึ่งถึงห้าขายได้ในประเทศญี่ปุ่นแล้วเป็นจำนวนเก้าแสนสองหมื่นฉบับ[8]
อนึ่ง วันที่ 7 เมษายน 2554 เจ้าพนักงานตำรวจกรุงโตเกียวแถลงว่า ได้จับกุมโนะโบะรุ อะโอะอิ (Noboru Aoi) ชายตกงานชาวจังหวัดโทะกุชิมะ อายุสามสิบสองปี ซึ่งต้องสงสัยว่าได้ส่งไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์มากกว่าห้าร้อยฉบับไปหาฟุชิมิ ผู้เขียนไลต์โนเวลนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2553 แสดงความโกรธเคืองด้วยถ้อยคำหยาบคายว่า บทบาทของคุโระเนะโกะน้อยกว่าเพื่อน และข่มขู่จะฆ่าเขาด้วยการตัดศีรษะถ้ายังไม่ส่งเสริมให้ตัวละครนั้นมีบทบาทโดดเด่นยิ่งขึ้น ในการนี้ อะโอะอิให้การรับสารภาพ[5]
ซะกุระ อิเกะดะ ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นมังงะ และลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสาร เด็งเงะกิจีส์แมกาซีน ของบริษัทแอสกีมีเดียเวิกส์ตั้งแต่ฉบับเดือนมีนาคม 2552 ถึงพฤษภาคม 2553 ต่อมา สำนักพิมพ์เด็งเงะกิคอมิกส์ (Dengeki Comics) ในเครือบริษัทเดียวกัน ได้รวมมังงะดังกล่าวเป็นเล่มใหญ่สี่เล่มจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 27 ตุลาคม 2552 และสำนักพิมพ์ดาร์กฮอร์สคอมิกส์ (Dark Horse Comics) ได้รับอนุญาตให้แปลออกเผยแพร่ในทวีปอเมริกาเหนือ[9]
อนึ่ง จิตรกรอิเกะดะยังดัดแปลงไลต์โนเวลส่วนที่ว่าด้วยชีวิตของคุโระเนะโกะในโรงเรียนเดียวกับเคียวซุเกะเป็นมังงะอีกชุดเรียก โอะเระโนะโคไฮกะคนนะไนคะวะอีวะเกะกะไน (の後輩がこんなに可愛いわけがない; "รุ่นน้องของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอก") ลงพิมพ์เป็นตอน ๆ ในนิตยสารข้างต้นตั้งแต่ฉบับเดือนกรกฎาคม 2554[10]
บริษัทแอสกีมีเดียเวิกส์ได้ดัดแปลงไลท์ไนเวลเล่มหนึ่งถึงสามเป็นละครเสียงหนึ่งเรื่อง จำหน่ายเป็นซีดีละครตั้งแต่วันที่ 31 มีนาคม 2553 ละครเสียงนี้ฟุชิมิ ผู้แต่งไลต์โนเวล เขียนบทเอง และใช้นักพากย์บรรดาซึ่งต่อมาได้พากย์อนิเมะด้วย[4]
บริษัทเอไอซีบิลด์ได้ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นอนิเมะหนึ่งชุด ฮิโระยุกิ คัมเบะ (Hiroyuki Kanbe) กำกับ มีสิบหกตอน สิบสองตอนแรกออกอากาศทางโทรทัศน์ญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2553 ถึงวันที่ 19 ธันวาคม ปีนั้น สี่ตอนที่เหลือนั้นมีเนื้อหาแตกแขนงมาจากสิบสองตอนแรกเพื่อนำเสนอตอนจบอีกแนวหนึ่ง ได้เผยแพร่ทางอินเทอร์เน็ตผ่านเว็บไซต์หลายแห่ง เป็นต้นว่า นิโกะนิโกะโดงะ (Nico Nico Douga), ไชว์ไทม์เจแปน (Showtime Japan) และมูวีเกต (MovieGate) เดือนละตอน ตั้งแต่วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2554[11][12][13]
อนึ่ง อนิเมะนี้ใช้นักพากย์คณะเดียวกับที่พากย์ละครเสียงข้างต้น[8] และเพื่อประชาสัมพันธ์ เอไอซีบิลด์ยังผลิตรายการวิทยุรายการหนึ่งเรียก โอะเระโนะอิโมโตะกะ (เรดิโอเดะโมะ) คนนะนิคะวะอีวะเกะกะไน (俺の妹が (ラジオでも) こんなに可愛いわけがない) มียี่สิบสี่ตอน ออกอากาศทางเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของอนิเมะตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2553 ถึงวันที่ 22 กรกฎาคม 2554 โดยมีนักพากย์อนิเมะดำเนินรายการด้วย[14][15]
ต่อมาวันที่ 1 เมษายน 2555 เอไอซีบิลด์แถลงว่า กำลังผลิตฤดูกาลที่สองของอนิเมะนี้อยู่[16]
อนิเมะนี้ ซะโตะรุ โคซะกิ (Satoru Kōsaki) ประพันธ์เพลงประกอบซึ่งจำหน่ายเป็นอัลบัมตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2554[17] อนึ่ง อนิเมะยังใช้เพลงหลักอีกสิบเจ็ดเพลง เป็นเพลงเปิดหนึ่งชื่อ "ไอรอนี" (Irony; "กระทบกระเทียบ") วงแคลริส (ClariS) ร้อง[18] ส่วนอีกสิบหกเพลงนั้นเป็นเพลงปิดทั้งสิบหกตอนตอนละเพลงตามลำดับไปดังนี้[18]
# | ชื่อ | ร้อง | |
---|---|---|---|
ผู้ร้อง | บทบาทที่ร้อง | ||
1 |
|
อะยะนะ ทะเกะตะสึ | คิริโนะ โคซะกะ |
2 |
| ||
3 |
| ||
4 |
|
ซะโอะริ ฮะยะมิ | อะยะเซะ อะระงะกิ |
5 |
|
อะยะนะ ทะเกะตะสึ | คิริโนะ โคซะกะ |
6 |
|
ซะโตะมิ ซะโต | มะนะมิ ทะมุระ |
7 |
|
คะนะ ฮะนะซะวะ | รุริ โกะโก |
8 |
|
ฮิโตะมิ นะบะตะเมะ | ซะโอะริ มะกิชิมะ |
9 |
|
อะยะนะ ทะเกะตะสึ | คิริโนะ โคซะกะ |
10 |
|
อะยะนะ ทะเกะตะสึ | คิริโนะ โคซะกะ |
11 |
|
|
|
12 |
|
อะยะนะ ทะเกะตะสึ | คิริโนะ โคซะกะ |
13 |
| ||
14 |
|
คะนะ ฮะนะซะวะ | รุริ โกะโก |
15 |
|
|
|
16 |
|
อะยะนะ ทะเกะตะสึ | คิริโนะ โคซะกะ |
อนิเมะทั้งสิบหกตอนได้รับการผลิตเป็นแบบดีวีดีและบลูเรย์จำนวนแปดชุด ชุดหนึ่งประกอบด้วยสองตอน ฉบับดีวีดีจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคม 2553 และบลูเรย์ตั้งแต่วันที่ 27 กรกฎาคม ปีถัดมา[12][19][20]
บริษัทแอนิเพล็กซ์ยูเอสเอ (Aniplex USA) ได้รับอนุญาตให้นำอนิเมะเผยแพร่ในท้องที่อเมริกาเหนือผ่านทางเว็บไซต์เครือข่ายข่าวอนิเมะ (Anime News Network) โดยบรรยายภาษาอังกฤษ การเผยแพร่ดำเนินในเวลาเดียวกับที่ฉายทางโทรทัศน์ในญี่ปุ่น แต่ไปได้เพียงสองตอนก็ถูกระงับ เพราะถูกลักนำออกเผยแพร่ทางเว็บไซต์อื่น[21][22] ครั้นวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 จึงเริ่มนำกลับมาเผยแพร่ใหม่ แต่ดำเนินได้เพียงสี่ตอน แอนิเพล็กซ์ยูเอสเอก็งดไป แล้วเผยแพร่ในรูปแบบดีวีดีบรรยายภาษาอังกฤษตั้งแต่เดือนตุลาคม 2554 แทน[23][24]
บริษัทบันไดนัมโคเกมส์ได้ดัดแปลงไลต์โนเวลนี้เป็นเกมแนววิชวลโนเวลสองชุด ชุดแรกเรียก โอะเระโนะอิโมโตะกะคนนะนิคะวะอีกะไนพอร์เทเบิล (俺の妹がこんなに可愛いわけがない ポータブル; "น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอกแบบพกพา") สำหรับเล่นกับเครื่องเพลย์สเตชันแบบพกพา เผยแพร่ตั้งแต่วันที่ 27 มกราคม 2554[25] ส่วนชุดที่สองเรียก โอะเระโนะอิโมโตะกะคนนะนิคะวะอีวะเกะกะไนพอร์เทเบิลกะสึซุกุวะเกะกะไน (俺の妹がこんなに可愛いわけがない ポータブルが続くわけがない; "ไม่มีทางที่ 'น้องสาวของผมไม่น่ารักขนาดนี้หรอกแบบพกพา' จะมีภาคต่อ") จำหน่ายตั้งแต่วันที่ 17 พฤษภาคม 2555[26][27] เพลงเปิดเกมทั้งสองชุดนั้นชื่อ "เน็กซัส" (Nexus) วงแคลริสร้อง[28]
บริษัทคะโดะกะวะคอนเทนส์เกต (Kadokawa Contents Gate) ยังดัดแปลงเกม ซิสคาลิปส์ (Siscalypse) อันเป็นเกมที่ปรากฏในไลต์โนเวล เป็นเกมแนวต่อสู้ประจัญบานเรียก ชิงอิโมโตะไทเซ็งซิสคาลิปส์ (真妹大戦シスカリプス; "ซิสคาลิปส์ สงครามน้องสาวขนานแท้") สำหรับเล่นบนโทรศัพท์มือถือผ่านระบบบริการของยาฮู! (Yahoo!) ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2554 ด้วย[29]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.