ความไวแสง ISO

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ความไวแสง ISO หรือนิยมเรียกว่า ค่า ISO เป็นมาตรฐานสำหรับฟิล์มถ่ายภาพที่กำหนดขึ้นโดยองค์การระหว่างประเทศว่าด้วยการมาตรฐาน (ISO) โดยระบุว่าฟิล์มสามารถบันทึกแสงที่อ่อนได้เพียงใด โดยเป็นการเขียนรวมค่าความไวแสง ASA และความไวแสง DIN เดิม

ภาพรวม

ค่าความไวแสง ISO ได้แก่ ISO100/21°, ISO200/24°, ISO400/27°, ISO800/30 และอื่น ๆ หากใช้ค่าความไวแสงที่สูงขึ้นหนึ่งขั้น จะได้ค่าแสงที่เหมาะสมเมื่อเพิ่มความเร็วชัตเตอร์ขึ้นหนึ่งขั้นหรือลดขนาดรูรับแสงลงหนึ่งขั้น ตัวอย่างเช่น ISO200/24° มีความสามารถในการรับแสงเป็นสองเท่าของ ISO100/21° ดังนั้นจึงสามารถบันทึกความเข้มแสงได้จนถึงครึ่งหนึ่งของ ISO100/21°

ยิ่งค่าความไวแสงสูงก็ยิ่งทำให้สามารถถ่ายภาพฉากมืด ๆ และวัตถุที่เคลื่อนไหวเร็วด้วยความเร็วชัตเตอร์ที่เร็วขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเกรนของฟิล์มโดยทั่วไปจะหยาบกว่า จึงมักใช้ฟิล์มความไวแสงต่ำเมื่อต้องการคุณภาพของภาพสูง

มาตรฐานความเร็วแสงฟิล์ม

สรุป
มุมมอง

มาตรฐานความไวแสง ISO ปัจจุบัน

มาตรฐานปัจจุบันสำหรับค่าความไวแสง ISO คือ 'ISO 5800:1987 สำหรับฟิล์มเนกาทีฟสี[1] และ ISO 6:1993 สำหรับฟิล์มเนกาทีฟขาวดำ[2] และ ISO 2240:2003 สำหรับฟิล์มสไลด์สี[3] มาตรฐานเหล่านี้กำหนดให้แสดงโดยใช้ทั้งค่าแบบเลขคณิต (ความไวแสง ASA เดิม) และแบบ ลอการิทึม (ความไวแสง DIN เดิม)[4]

สำหรับทุก ๆ สองเท่าของความเร็วแสงฟิล์ม ค่าเลขคณิตจะเพิ่มเป็นสองเท่า และค่าลอการิทึมจะเพิ่มขึ้น 3° ตัวอย่างเช่น ฟิล์ม ISO 200/24° มีความไวต่อแสงเป็นสองเท่าของฟิล์ม ISO 100/21° [4]

ในกรณีทั่วไป ค่าลอการิทึมจะถูกละไว้แล้วแสดงแค่ค่าเลขคณิตเท่านั้น เช่นเขียนเป็น "ISO 100"[5]

การแปลงระหว่างค่า

การแปลงค่าความไวแสงลอการิทึม S° เป็นค่าเลขคณิต S ทำได้โดยสูตรต่อไปนี้[6]

หลังจากนั้นให้ปัดเศษเป็นจำนวนเต็มค่าความไวแสงมาตรฐานที่ใกล้ที่สุดโดยใช้ตารางที่แสดงในส่วนถัดไป

และในทำนองเดียวกัน อาจแปลงกลับเป็นค่าลอการิทึมดังนี้

แล้วปัดเศษเป็นจำนวนเต็ม

ตารางเทียบค่า

ตารางต่อไปนี้แสดงค่าความไวแสง ISO ทั้งค่าเลขคณิตแค่ลอการิทึม เทียบกับค่า SV (sensitivity value) ของ APEX[7]

ข้อมูลเพิ่มเติม SV, ค่าเลขคณิต (ความไวแสง ASA) ...
SV ค่าเลขคณิต
(ความไวแสง ASA)
ค่าลอการิทึม
(ความไวแสง DIN)
−2 0.8
1
1.2
−1 1.6
2
2.5
0 3
4
5
1 6
8 10°
10 11°
2 12 12°
16 13°
20 14°
3 25 15°
32 16°
40 17°
4 50 18°
64 19°
80 20°
5 100 21°
125 22°
160 23°
6 200 24°
250 25°
320 26°
7 400 27°
500 28°
640 29°
8 800 30°
1,000 31°
1,250 32°
9 1,600 33°
2,000 34°
2,500 35°
10 3,200 36°
4,000 37°
5,000 38°
11 6,400 39°
8,000 40°
10,000 41°
12 12,500 (12,800) 42°
16,000 43°
20,000 44°
13 25,000 (25,600) 45°
32,000 46°
40,000 47°
14 50,000 (51,200) 48°
64,000 49°
80,000 50°
15 100,000 (102,400) 51°
125,000 52°
160,000 53°
16 200,000 (204,800) 54°
250,000 55°
320,000 56°
17 400,000 (409,600) 57°
500,000 58°
640,000 59°
18 800,000 (819,200) 60°
1,000,000 61°
1,250,000 62°
19 1,600,000 (1,638,400) 63°
2,000,000 64°
2,500,000 65°
20 3,200,000 (3,276,800) 66°
4,000,000 67°
ปิด

ในกล้องดิจิทัล

สรุป
มุมมอง

ค่าความไวแสง ISO ของกล้องดิจิทัลได้รับมาตรฐานโดย ISO 12232 สำหรับในประเทศญี่ปุ่น สมาคมผลิตภัณฑ์กล้องถ่ายภาพและการถ่ายภาพ (CIPA) ได้ดำเนินการกำหนดมาตรฐานด้วยเช่นกัน[8] ในกล้องดิจิทัล ความไวของ เซนเซอร์รูปภาพ เช่น CCD มักจะแสดงเป็นเทียบเท่า ISO100 ความไวแสง ISO ของกล้องดิจิทัลเป็นค่ามาตรฐานสำหรับขยายสัญญาณที่เซ็นเซอร์ภาพ เมื่อทำการขยายสัญญาณของภาพ จะทำให้สัญญาณรบกวนจากการถ่ายภาพ สัญญาณรบกวนจากกระแสมืด และสัญญาณรบกวนความร้อนถูกขยายไปด้วย ดังนั้นหากความไวแสง ISO สูง สัญญาณรบกวนจากแสงและสัญญาณรบกวนสีจะเกิดขึ้นในภาพ เช่นเดียวกับฟิล์ม ยิ่งความไวแสงสูงเท่าไร ก็จะสามารถถ่ายภาพในที่มืดได้เร็วขึ้นเท่านั้น สัญญาณรบกวนอาจบรรเทาลงได้ด้วยการการระบายความร้อนให้เซนเซอร์

โดยพื้นฐานแล้ว สามารถสรุปได้ว่ายิ่งความไวแสงต่ำลง คุณภาพของภาพก็จะยิ่งดีขึ้น แต่ก็ขึ้นอยู่กับสมบัติของตัวเซนเซอร์ที่ใช้ การปรับค่าความไวแสงต่ำเกินไปก็อาจทำให้คุณภาพของภาพแย่ลงได้ เพราะแม้จะลดสัญยาณรบกวนได้ แต่ก็อาจทำให้เกิดความเปรียบต่างสูงเกินไป ส่วนสว่างขาวจ้าเกินหรือส่วนมืดดำสนิทได้ง่าย ด้วยเหตุนี้ กล้องดีเอสแอลอาร์ของนิคอน จึงมีความไวแสงทั่วไปขั้นต่ำที่ 100 ถึง 200 และค่าต่ำกว่านั้นจะใช้เมื่อต้องการในบางกรณีจริง ๆ เท่านั้น ดังนั้น ในการถ่ายภาพดิจิทัล การถ่ายภาพที่ค่าความไวแสงที่แนะนำคือประมาณ 100 ถึง 200 จึงถือว่าทำให้ได้คุณภาพของภาพที่ดีที่สุด

อ้างอิง

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.