Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ในสาขาจิตวิทยา ความรู้สึกว่าตนเขื่อง (อังกฤษ: grandiosity) หมายถึงความรู้สึกอย่างเพ้อฝันหรือไม่จริงว่า ตนเองดีกว่าเก่งกว่าคนอื่น เป็นทัศนคติที่คงยืน ซึ่งอาจแสดงออกเป็นการดูถูกคนอื่นว่าไม่เก่งไม่ดีเท่าตน และหมายถึงความรู้สึกว่าตนเป็นหนึ่งเดียว ว่ามีคนน้อยคนที่มีอะไรเหมือนกับตนเอง และมีคนพิเศษน้อยคนที่เข้าใจตนได้[1] ลักษณะสืบสายพันธุ์ทางบุคลิกภาพที่ทำให้รู้สึกเช่นนี้ โดยหลักสัมพันธ์กับความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (NPD) แต่ก็ปรากฏในความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคม (ASPD) และในคราวฟุ้งพล่าน (manic episode) หรือคราวเกือบฟุ้งพล่าน (hypomanic episode) ของโรคอารมณ์สองขั้ว[2]
ลักษณะสืบสายพันธุ์ทางบุคลิกภาพที่ทำให้รู้สึกเช่นนี้ยังเป็นองค์ประกอบของ reactive attachment disorder (RAD) ซึ่งเป็นความผิดปกติทางความผูกพัน (attachment disorder) ที่รุนแรงและไม่สามัญโดยเกิดในเด็ก[3] RAD มีอาการเป็นพฤติกรรมที่มีปัญหาและไม่เหมาะสมทางพัฒนาการเมื่อมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นในสถานการณ์ทางสังคมโดยมาก เช่น ความไม่เริ่มหรือไม่ตอบสนองต่อปฏิสัมพันธ์ทางสังคมโดยวิธีที่เหมาะสมตามระดับพัฒนาการอย่างคงยืน เป็นรูปแบบ "inhibited form" ของโรค[4][5]
ความรู้สึกว่าตนเขื่องขั้นเป็นโรคสัมพันธ์กับแบบย่อยอย่างหนึ่งจากสองแบบของความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบหลงตัวเอง (NPD)[6] ลักษณะของแบบย่อย narcissist-grandiose (โดยเทียบกับแบบย่อย narcissist-vulnerable) ก็คือ
มีการศึกษาความแตกต่างระหว่างแบบย่อย grandiose (เขื่อง) กับ vulnerable (อ่อนไหว) โดยพบว่า
สิ่งที่พบโดยรวมนี้ยืนยันทฤษฎีและงานวิจัยในอดีตที่แสดงว่า คนไข้แบบเขื่องไม่รู้ถึงผลที่ตนมีกับผู้อื่น และดังนั้น จึงมีทัศนคติที่ไม่สมจริงเกี่ยวกับตนเองเทียบกับคนอื่น (Gabbard, 1989, 1998; Kernberg, 1975; Kohut, 1971, 1977). จริงดังนั้น การไม่รู้ถึงผลที่มีต่อคนอื่นเป็นสิ่งที่ Gabbard (1989) นำป้าย "oblivious narcissists" (คนหลงตัวเองแบบไม่รู้ตัว) มาอธิบายอาการที่ปรากฏทางสังคม และแยกคนไข้ให้ต่างกับคนไข้แบบอ่อนไหว คนไข้หลงตัวเองแบบเขื่องหวังให้คนอื่นสนใจตนตลอดโดยไม่วอกแวก และไม่รู้ผลที่ความต้องการสิทธิพิเศษของตนมีต่อคนอื่น และเพราะสามารถธำรงรักษาภาพพจน์ว่าตนเขื่องด้วยการยกยอตนเอง คนไข้หลงตัวเองแบบเขื่องจึงไม่อ่อนไหวเท่ากับคนไข้แบบอ่อนไหว ต่อผลทางอารมณ์ที่เกิดจากการคุกคามการคาดหวังสิทธิพิเศษ (เช่น ความทุกข์ ไม่ภูมิใจในตนเอง กลัวปัญหากับผู้อื่น)
— Interpersonal Analysis of Grandiose and Vulnerable Narcissism[7]
ส่วนย่อยเกี่ยวกับความคิดว่าตนเขื่องในแบบสัมภาษณ์คนไข้โรคหลงตนเอง คือ Diagnostic Interview for Narcissism (DIN) ฉบับที่สองเป็นไปดังต่อไปนี้[8]
|
|
ในอาการฟุ้งพล่าน ความคิดว่าตนเขื่องจะมีกำลังมากกว่าในโรคหลงตัวเอง คนไข้อาจโอ้อวดความสำเร็จที่จะเกิดในอนาคต[9]: 421 หรือโอ้อวดคุณสมบัติตัวเองเกินจริง[9]: 413 & หมายเหตุ คนไข้อาจเริ่มทำอะไรที่ทะเยอทะยานอย่างไม่สมเหตุผล ก่อนหน้าที่คนอื่นหรือตัวเองจะโค่นความทะเยอทะยานนั้นลง[10]
ในแบบคำถามประเมินโรคจิตคือ Hare Psychopathy Checklist-Revised (PCL-R) ความคิดว่าตนเขื่องอยู่ในส่วน Factor 1 Facet 1:Interpersonal[11] บุคคลที่ผ่านเกณฑ์นี้จะปรากฏว่าหยิ่งและโอ้อวด และอาจมองอนาคตของตนในแง่ดีเกินจริง คู่มือการวินิจฉัยและสถิติสำหรับความผิดปกติทางจิตรุ่น 5 (DSM-5) ให้ข้อสังเกตว่า บุคคลที่ผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบต่อต้านสังคม (ASPD) มักมีภาพพจน์ของตัวเองดีเกินจริง อาจปรากฏเป็นคนสำคัญตน ยึดมั่นความเห็นของตน หยิ่ง และมักดูถูกคนอื่น
บุคคลที่คิดว่าตนเขื่องยังสำนึกได้ว่าความคิดของตนไม่สมจริง (คือ ยังรู้ว่า พฤติกรรมของตนจัดว่าไม่ปกติ) เทียบกับคนที่มีอาการหลงผิดว่าตนเขื่อง (grandiose delusion) ผู้ไม่สามารถรู้ตามจริงได้ คนบางพวกอาจสับเปลี่ยนระหว่างภาวะสองอย่างเช่นนี้ คือตอนแรกคิดใหญ่โตเพ้อฝันที่ตนก็เข้าใจว่าไม่จริง แต่ตอนหลังกลายเป็นความหลงผิดเต็มตัวที่คนไข้เชื่อว่าเป็นจริง[12]
จิตแพทย์ชาวออสเตรีย-อเมริกันผู้มีชื่อเสียงในเรื่องทฤษฎีจิตวิเคราะห์เกี่ยวกับความผิดปกติทางบุคลิกภาพแบบก้ำกึ่ง (BPD) และโรคหลงตัวเอง คือ Otto Kernberg เห็นว่า ความรู้สึก/ความคิดว่าตนเขื่องขั้นเป็นโรคเกิดจากความรู้สึกในวัยเด็กเกี่ยวกับความเป็นคนพิเศษ อุดมคติส่วนตน และความเพ้อฝันถึงพ่อแม่อุดมคติ[13]
ส่วนนักจิตวิเคราะห์ชาวออสเตรีย-อเมริกันผู้มีชื่อเสียงในเรื่อง self psychology คือ Heinz Kohut เห็นความรู้สึก/ความคิดว่าตนเขื่องว่าเป็นเรื่องปกติทางพัฒนาการ และจะเป็นภาวะโรคก็ต่อเมื่อส่วนที่เขื่องและส่วนที่ถ่อมตัวของตัวตน แยกจากกันอย่างเด็ดขาด[14] เขาแนะนำให้รักษาโดยอดทนต่อลักษณะเช่นนั้นของคนไข้ แล้วช่วยรวมส่วนที่เขื่องกลับเข้ากับตัวตนที่มีความคาดหวังสมจริง[15]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.