คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส

คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (อังกฤษ: Christopher Columbus; ระหว่าง 25 สิงหาคม และ 31 ตุลาคม ค.ศ. 1451 - 20 พฤษภาคม ค.ศ. 1506) เป็นนักสำรวจและนักเดินเรือชาวอิตาลี ซึ่งได้เดินทางบนเรือครบสี่ครั้งทั่วทั้งมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นการเปิดทางให้ยุโรปได้สำรวจอย่างกว้างขวางและการก่อตั้งดินแดนอาณานิคมในทวีปอเมริกา การเดินทางของเขาซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกษัตริย์แห่งสเปนที่นับถือนิกายคาทอลิก เป็นการติดต่อครั้งแรกของยุโรปกับหมู่เกาะแคริบเบียน อเมริกากลาง และอเมริกาใต้

ข้อมูลเบื้องต้น พลเรือเอกแห่งน่านน้ำมหาสมุทรกริสโตบัล โกลอน, ผู้ว่าราชการและอุปราชอินเดียตะวันตก คนที่ 1 ...
พลเรือเอกแห่งน่านน้ำมหาสมุทร
กริสโตบัล โกลอน
Cristóbal Colón
Thumb
ภาพเหมือนของโคลัมบัสโดยเซบัสเตียโน เดล ปีออมโบ ใน ค.ศ. 1519 วาดหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว (ในปัจจุบันไม่พบว่ามีภาพเหมือนที่แท้จริงของโคลัมบัส)[1]
ผู้ว่าราชการและอุปราชอินเดียตะวันตก คนที่ 1
ดำรงตำแหน่ง
ค.ศ. 1492  1499
กษัตริย์สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1
ก่อนหน้าสถาปนาตำแหน่ง
ถัดไปฟรันซิสโก เด โบบาดิลลา
ข้อมูลส่วนบุคคล
เกิดระหว่าง 22 สิงหาคม ถึง 31 ตุลาคม ค.ศ. 1451
เจโนวา สาธารณรัฐเจโนวา (ปัจจุบัน ประเทศอิตาลี)
เสียชีวิต20 พฤษภาคม ค.ศ. 1506(1506-05-20) (54 ปี)
บายาโดลิด กัสติยา (ปัจจุบัน ประเทศสเปน)
ที่ไว้ศพอาสนวิหารเซบิยา
คู่อาศัยเบอาตริซ เอนริเกซ เด อารานา (เริ่ม 1485)
คู่สมรสฟีลีปา มูนิช ปือรึชเตรลู (สมรส 1479; เสียชีวิต 1484)
บุตร
  • เดียโก
  • เฟร์นันโด
บุพการี
  • โดเมนิโก โกลอมโบ (บิดา)
  • ซูซานนา ฟอนตานารอสซา (มารดา)
ความสัมพันธ์บาร์โทโลมิว โคลัมบัส (น้องชาย)
วิชาชีพนักเดินเรือ
ลายมือชื่อThumb
ชื่อเล่นสเปน: กริสโตบัล โกลอน
เจนัว: กริชตอฟฟา กูรุงบู
ละติน: คริสโตโฟรุส โกลุมบุส
อิตาลี: กริสตอโฟโร โกลอมโบ
โปรตุเกส: กริชตอเวา กูลงบู
ปิด

ชื่อของคริสโตเฟอร์ โคลัมบัส มาจากการแผลงเป็นอังกฤษในภาษาละตินที่ชื่อว่า คริสโตโฟรุส โกลุมบุส นักวิชาการเห็นพ้องต้องกันว่า โคลัมบัสนั้นเกิดในสาธารณรัฐเจนัวและพูดสำเนียงท้องถิ่นคือภาษาลีกูเรียเป็นภาษาแรกของเขา เขาออกเดินทางทะเลตั้งแต่อายุยังน้อยและเดินทางอย่างกว้างขวาง ไกลออกไปทางเหนือถึงเกาะอังกฤษ และไกลออกไปทางใต้ซึ่งที่นั้นคือประเทศกานาในปัจจุบัน เขาแต่งงานกับหญิงสูงศักดิ์ชาวโปรตุเกสที่ชื่อว่า ฟีลิปา มูนิช ปิอรีชเตรลู และอาศัยอยู่ที่ลิสบอนเป็นเวลาหลายปี แต่ต่อมาก็ได้แอบมีภรรยาน้อยเป็นชาวแคสตีล(Castilian) เขามีบุตรชายอยู่สองคนซึ่งกำเนิดจากคนละแม่ แม้ว่าโคลัมบัสจะศึกษาด้วยตนเองเป็นส่วนใหญ่ โคลัมบัสได้อ่านวิชาทางภูมิศาสตร์ ดาราศาสตร์ และประวัติศาสตร์อย่างกว้างขวาง เขาได้กำหนดแผนการที่จะหาทางเดินทางเรือผ่านทะเลตะวันตกไปยังอินเดียตะวันออก โดยคาดหวังว่าจะได้กำไรจากการค้าขายเครื่องเทศที่ร่ำรวย ภายหลังจากการล็อบบี้อย่างต่อเนื่องของโคลัมบัสต่อหลายอาณาจักร กษัตริย์คาทอลิกอย่างสมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลที่ 1 แห่งกัสติยาและพระเจ้าเฟร์นันโดที่ 2 แห่งอารากอนทรงยินยอมที่จะสนับสนุนการเดินทางไปทางตะวันตก โคลัมบัสออกจากแคว้นกัสติยาในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1492 ด้วยเรือสามลำ และได้มีการพบเห็นแผ่นดินในทวีปอเมริกา เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม (เป็นอันสิ้นสุดลงของช่วงเวลาการอาศัยอยู่ของมนุษย์ในทวีปอเมริกา ซึ่งปัจจุบันเรียกกันว่า ยุคก่อนโคลัมเบียน) สถานที่ลงจอดของเขาคือเกาะในบาฮามาส ซึ่งประชาชนชาวพื้นเมืองรู้จักกันคือ กวานาฮานี ต่อมาโคลัมบัสได้ไปเยือนหมู่เกาะที่ปัจจุบันได้รู้จักกันคือ คิวบาและฮิสปันโยลา ซึ่งได้ก่อตั้งอาณานิคมในเกาะแห่งหนึ่งคือประเทศเฮติในปัจจุบัน โคลัมบัสเดินทางกลับสู่แคว้นกัสติยาในต้นปี ค.ศ. 1493 โดยนำชาวพื้นเมืองที่ถูกจับจำนวนหนึ่งมาด้วย เรื่องราวของการเดินทางของเขาในไม่ช้าก็ได้แพร่กระจายไปทั่วยุโรป

โคลัมบัสได้ออกเดินทางไปยังทวีปอเมริกาอีกสามครั้ง ซึ่งได้ทำการสำรวจที่เลสเซอร์แอนทิลลีส ใน ค.ศ. 1493 ตรินิแดดและชายฝั่งทางตอนเหนือของอเมริกาใต้ใน ค.ศ. 1498 และชายฝั่งตะวันออกในอเมริกากลางใน ค.ศ. 1502 ชื่อหลายชื่อที่เขาได้ตั้งตามลัษณะทางภูมิศาสตร์ - โดยเฉพาะกับหมู่เกาะ - ซึ่งยังคงใช้กันอยู่ เขายังได้ตั้งชื่อว่า อินดิโอส("อินเดียน") ให้กับชนพื้นเมืองที่เขาพบเจอ ขอบเขตที่เขาได้ตระหนักว่าทวีปอเมริกาเป็นทวีปที่แยกจากกันโดยสิ้นเชิงนั้นยังคลุมเครือ เขาไม่เคยละทิ้งความเชื่อของเขาอย่างชัดเจนว่าเขาได้เดินทางมาถึงดินแดนตะวันออกไกล ในฐานะที่เป็นข้าหลวงอาณานิคม โคลัมบัสถูกผู้ร่วมเดินทางกับเขากล่าวหาว่า บ้าอำนาจและโหดร้าย และไม่นานก็ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดของโคลัมบัสและราชบัลลังก์กัสติยาและผู้บริหารปกครองอาณานิคมที่ได้รับการแต่งตั้งในทวีปอเมริกา ทำให้เขาถูกจับกุมและถอดถอนออกจากฮิสปันโยลาในปี ค.ศ. 1500 และต่อมาได้มีการต่อสู้คดีที่ยืดเยื้อในเรื่องของผลประโยชน์ที่เขาได้รับและทายาทของเขาได้กล่าวอ้างสิทธิ์ในการครองราชบัลลังก์ การเดินทางของโคลัมบัสได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงเวลาแห่งการสำรวจ การพิชิต และการก่อตั้งอาณานิคมที่กินเวลายาวนานหลายศตวรรษ ช่วงสร้างโลกตะวันตกสมัยใหม่ การถ่ายโอนระหว่างโลกเก่าและโลกใหม่ ภายหลังจากการเดินทางครั้งแรกของเขาที่เป็นที่รู้จักกันคือ การแลกเปลี่ยนโคลัมเบียน

โคลัมบัสได้รับการนับถืออย่างกว้างขวางในช่วงหลายศตวรรษหลังการเสียชีวิตของเขา แต่การรับรู้ของสาธารณชนทำให้เกิดจุดแตกหักในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา เนื่องจากนักวิชาการได้ให้ความสนใจมากขึ้นต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นภายใต้การปกครองของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ประชากรชาว Taíno ชนพื้นเมืองของเกาะฮิสปันโยลาซึ่งใกล้จะสูญพันธ์จากการปฏิบัติที่โหดร้ายทารุณและการเกิดโรคระบาดซึ่งมาจากยุโรป เช่นเดียวกับการตกเป็นทาส ผู้เสนอทฤษฎีตำนานสีดำกล่าวอ้างว่า โคลัมบัสถูกดูหมิ่นอย่างไม่ยุติธรรมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความรู้สึกต่อต้านนิกายคาทอลิกในวงกว้าง หลายแห่งในซีกโลกตะวันตกซึ่งมีชื่อของเขา รวมทั้งประเทศโคลอมเบีย เขตโคลัมเบีย และรัฐบริติชโคลัมเบียของประเทศแคนาดา

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

Loading related searches...

Wikiwand - on

Seamless Wikipedia browsing. On steroids.