Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
หมูป่า (ชื่อวิทยาศาสตร์: Sus scrofa) มีอีกชื่อว่า สุกรป่า,[3] หมู่ป่าทั่วไป,[4] หมู่ป่ายูเรเชีย[5] หรือเรียกแบบง่ายว่า หมูป่า[6] เป็นสัตว์วงศ์ suid ที่อาศัยอยู่ในยูเรเชียและอเมริกาเหนือ และถูกนำไปที่ทวีปอเมริกาและโอเชียเนีย สปีชีส์นี้ถือเป็นหนึ่งในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่แพร่กระจายไกลที่สุดในโลก และเป็นsuiformที่กระจายตัวไกลที่สุดด้วย[4] ด้วยเหตุนี้ทางบัญชีแดงไอยูซีเอ็นจัดให้สัตว์ชนิดนี้อยู่ในกลุ่มสิ่งมีชีวิตที่มีความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์เพราะพบในบริเวณกว้าง มีจำนวนมาก และปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้[1] หมูป่าน่าจะมีต้นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ช่วงสมัยไพลสโตซีนตอนต้น[7] และมีความเหนือกว่าสปีชีส์ suid อื่น ๆ ผ่านการแพร่กระจายทั่วโลกเก่า[8]
หมูป่า ช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่: สมัยไพลสโตซีนตอนต้น–สมัยโฮโลซีน | |
---|---|
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
โดเมน: | ยูแคริโอต Eukaryota |
อาณาจักร: | สัตว์ Animalia |
ไฟลัม: | สัตว์มีแกนสันหลัง Chordata |
ชั้น: | สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม Mammalia |
อันดับ: | สัตว์กีบคู่ Artiodactyla |
วงศ์: | Suidae Suidae |
สกุล: | Sus Sus Linnaeus, 1758 |
สปีชีส์: | Sus scrofa |
ชื่อทวินาม | |
Sus scrofa Linnaeus, 1758 | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของหมูป่า (เขียว) และบริเวณที่มีการนำประชากรมา (น้ำเงิน): ไม่แสดงบริเวณที่มีการนำประชากรมาจำนวนน้อยในแคริบเบียน, นิวซีแลนด์, แอฟริกาใต้สะฮารา และบริเวณเบอร์มิวดา, แคนาดาเหนือ ตะวันออกเฉียงเหนือ และตะวันตกเฉียงเหนือ และรัฐอะแลสกา[1] | |
ชื่อพ้อง | |
สปีชีส์ที่มีชื่อพ้องชนิด[2]
|
ใน ค.ศ. 1990 มีหมูป่าสปีชีส์ย่อยที่ได้รับการยอมรับถึง 16 สปีชีส์ ซึ่งแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มตามความสูงของกระโหลกและความยาวของกระดูกแอ่งถุงน้ำตา[2] สปีชีส์นี้อาศัยอยู่ในสังคมที่เพศเมียเป็นใหญ่ ประกอบด้วยหมูเพศเมียที่มีความสัมพันธ์กัน และลูก ๆ ของมัน (ทั้งเพศผู้และเพศเมีย) ส่วนหมูเพศผู้โตเต็มวัยส่วนใหญ่ในช่วงนอกฤดูผสมพันธุ์มักอาศัยแบบสันโดษ[9] หมาป่าเทาเป็นนักล่าหลักของหมูป่าในบริเวณส่วนใหญ่ ยกเว้นในตะวันออกไกลและหมู่เกาะซุนดาน้อยที่มีนักล่าเป็นเสือและมังกรโกโมโดตามลำดับ[10][11] หมูป่ามีความสัมพันธ์กับมนุษย์มาอย่างยาวนาน โดยเป็นบรรพบุรุษของพันธุ์หมูเลี้ยงส่วนใหญ่และเป็นสัตว์ขนาดใหญ่ที่ถูกล่ามาหลายสหัสวรรษ
มีรูปร่างหน้าตาคล้ายหมูบ้าน แต่มีขนตามลำตัวยาวกว่า ลำตัวมีสีเทา ดำ บางตัวอาจมีสีน้ำตาลเข้ม ขนบริเวณหัวชี้ยาวออกไปทางด้านหลัง ตัวเมียมีเต้านม 5 คู่ ลูกที่เกิดใหม่มีสีน้ำตาลเข้มค่อนไปทางดำและมีแถบสีดำพาดผ่านตามยาวลำตัว ดูคล้ายลายของแตงไทย
มีขนาดความยาวลำตัวและหัว 135-150 เซนติเมตร ความยาวหาง 20-30 เซนติเมตร มีน้ำหนักประมาณ 75-200 กิโลกรัม โดยตัวผู้จะมีน้ำหนักหนักกว่าตัวเมีย สามารถวิ่งได้เร็ว 30 ไมล์/ชั่วโมง ตัวเมียสามารถมีลูกได้ครอกละ 10-11 ตัว ปีละ 2 ครอก[12]
หมูป่า จัดเป็นสัตว์ที่การกระจายพันธุ์อย่างกว้างขวางมาก ทั้งในทวีปอเมริกาเหนือ, ทวีปยุโรป, ทวีปเอเชียและแอฟริกา และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็สามารถพบเห็นได้ทั่วไป จึงทำให้มีทั้งหมด 10 ชนิดย่อยด้วยกัน (ดูในตาราง)
มีนิเวศวิทยาและพฤติกรรมสามารถอาศัยอยู่ได้ในหลากหลายสภาพแวดล้อม แต่มักเลือกที่จะอยู่ใกล้แหล่งน้ำ เพราะชอบนอนแช่ปลักโคลนในวันที่มีอากาศร้อน สามารถกินอาหารได้หลากหลายทั้งพืชและสัตว์ขนาดเล็ก เช่น สัตว์เลื้อยคลานหรือแม้แต่ซากสัตว์ด้วย หมูป่าที่อาศัยในป่าที่อยู่ใกล้แหล่งเกษตรกรรมของมนุษย์ อาจจะขโมยกินหัวหรือรากพืชที่ปลูก รวมทั้งถึงนาข้าวด้วย การหาอาหารจะใช้จมูกดุนดินเพื่อขุดหาอาหารใต้ดิน ขณะออกหาอาหารจะส่งเสียงร้องดังอยู่ตลอดเวลา มักหากินในช่วงเวลาเช้าตรู่และยามบ่าย บางครั้งอาจหากินได้ในเวลากลางคืนด้วย มักรวมกันเป็นฝูงใหญ่ ราว 20-100 ตัว โดยจะมีอายุของสมาชิกในฝูงคละเคล้ากันไป เมื่อถึงสภาวะคับขันจะหลบหนีไปตามพุ่มไม้เตี้ย ๆ ตามปกติแล้วหมูป่าเป็นสัตว์ที่ขี้หงุดหงิดและมีอารมณ์ร้าย ศัตรูของหมูป่าได้แก่ เสือโคร่งและเสือดาว เมื่อพบศัตรูตัวผู้จะออกมาทำหน้าที่ต่อสู้เพื่อปกป้องสมาชิกในฝูง ด้วยการพุ่งชนด้วยเขี้ยวที่ยาวโง้งออกมา ซึ่งในตัวเมียไม่มี
ปัจจุบัน เป็นสัตว์เศรษฐกิจชนิดหนึ่งที่มีการเพาะเลี้ยงเพื่อรับประทานเนื้อเป็นอาหาร หรืออาจจะเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงตามบ้านของบางคนก็ได้ โดยมีการทำฟาร์มหมูป่า [13]
ในประเทศไทย มีฝูงหมูป่าอาศัยอยู่ท่ามกลางเมืองใหญ่อยู่ 2 แห่ง คือ หมู่บ้านร้างแห่งหนึ่ง ในอำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ มีจำนวนประชากรหมูป่าราว 200 ตัว และหมู่บ้านร้างอีกแห่งหนึ่ง ในเขตสะพานสูง กรุงเทพมหานคร มีประชากรหมูป่าอยู่ราว 50 ตัว ซึ่งทั้งสองแห่งนี้เกิดจากเจ้าของที่ดินเดิมได้นำหมูป่ามาเลี้ยงและทิ้งไว้ จนกระทั่งแพร่ขยายพันธุ์กันเอง[14] [15]
หมูป่า มีลักษณะที่แตกต่างจากหมูบ้านอย่างเห็นได้ชัด คือ มีฟันหน้างอกและยาวออกมาคล้ายพลั่ว คือ เขี้ยว ที่เอาไว้ใช้ป้องกันตัวและขุดหาอาหาร หมูป่าจะมีฟันทั้งหมด 44 ซี่ โดยเขี้ยวจะเป็นฟันหน้าด้านล่างที่ยาว แคบและยื่นออกไปทางข้างหน้า ทำหน้าที่คล้ายพลั่ว โดยเฉพาะในการขุดหาอาหาร โดยการขุดคุ้ยตามพื้นดินหรือตามโป่ง เขี้ยวของหมูป่าจะไม่มีรากฟัน โดยเฉพาะในตัวผู้ เขี้ยวจะค่อย ๆ เพิ่มขนาดจากเล็กไป ใหญ่ ส่วนฟันกรามซี่สุดท้ายจะมีขนาดเท่ากับฟันกรามซี่ที่ 1 และ 2 รวมกัน ส่วนของกะโหลกมีความยาว และลาดเอียง โดยที่ส่วนปากและฟันมีความยาวประมาณร้อยละ 70-80 ของกะโหลก ในตัวผู้ช่วงฤดูผสมพันธุ์ ตัวผู้โดยเฉพาะตัวที่มีขนาดใหญ่จะรวมตัวกัน ซึ่งโดยปกติจะอาศัยอยู่โดดเดี่ยว เรียกกันว่า "หมูโทน" มีร่างกายกำยำล่ำสัน มีเขี้ยวยาวและแหลมคมสามารถป้องกันตัวเองได้ ซึ่งเขี้ยวหมูป่านี้ มีความเชื่อทางไสยศาสตร์ของคนไทยว่า สามารถป้องกันภยันตรายได้เช่นเดียวกับเขี้ยวหรือเล็บของเสือ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมูป่าที่มีเขี้ยวลักษณะตัน ไม่เป็นโพรงเหมือนหมูป่าทั่วไป[16]
ในสหรัฐอเมริกา หมูป่าเข้าไปถึงตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 พร้อมกับการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป[17] เป็นหมูป่ารัสเซียผสมกับหมูบ้าน ปัจจุบัน หมูป่าเหล่านี้กลายเป็นชนิดพันธุ์ต่างถิ่นที่แพร่ระบาดไปแล้วในหลายรัฐของสหรัฐอเมริกา คาดว่ามีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5.5 ล้านตัวทั่วประเทศ เพิ่มจำนวนประชากรจากแค่ 3 ล้านตัวภายใน 10 ปี สร้างความเสียหายให้แก่พืชไร่ปีละ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในบางรัฐ เช่น ลุยเซียนามีกฎหมายให้ล่าหมูป่าได้ทั้งปี หมูป่าหลายตัวมีขนาดใหญ่กว่าปกติ มีการเผยแพร่ภาพหมูป่าตัวใหญ่มีน้ำหนักถึง 1,100 ปอนด์ โดยเฉพาะไปตามอินเทอร์เน็ต จนถูกเรียกกันว่า "ฮ็อกซิลล่า"[18] แต่นักล่าหมูป่าหลายคนยืนยันว่าหมูป่าตัวที่ใหญ่ถึงขนาดนั้นไม่มีอยู่จริง แต่เป็นการตกแต่งภาพ น้ำหนักตัวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดอยู่ที่ 600 ปอนด์ แต่ขนาดใหญ่โดยทั่วไปไม่เกิน 300 ปอนด์ ซึ่งหมูป่าเหล่านี้เป็นหมูป่าพันธุ์ผสมกับหมูบ้าน มีจุดเด่น คือ มีขนเป็นแผงสีดำตั้งตามแนวยาวของสันหลัง[12]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.