Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ปุ๋ย หมายถึง สารที่ใส่ลงในดินเพื่อให้ธาตุอาหารแก่พืช พืชต้องการธาตุอาหาร 16 ชนิด ได้แก่ ออกซิเจน ไฮโดรเจน คาร์บอน ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม กำมะถัน แคลเซียม
แม็กนีเซียม เหล็ก สังกะสี แมงกานีส ทองแดง โบรอน โมลิบดินัม และคลอรีน ในจำนวนนี้ ออกซิเจน ไฮโดรเจน คาร์บอน(โดยเฉพาะธาตุไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม หรือเรียกว่าธาตุอาหารหลัก) พืชได้รับจากน้ำและอากาศ
ส่วนไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม พืชต้องการในปริมาณมากเมื่อเทียบกับธาตุอื่น ๆ (ซึ่งถูกจัดเป็นธาตุอาหารหลักหรือธาตุปุ๋ย) และในดินมักมีไม่เพียงพอต่อการเพาะปลูก จึงมีความจำเป็นต้องเพิ่มเติมธาตุเหล่านี้โดยการให้ปุ๋ย ปุ๋ยที่ไม่ใช่ปุ๋ยอินทรีย์คือ ปุ๋ยไนโตรเจน
มุมมองและกรณีตัวอย่างในบทความนี้อาจไม่ได้แสดงถึงมุมมองที่เป็นสากลของเรื่อง |
พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518[2] ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในดินเพื่อบำรุงความเติบโตแก่พืช
ปุ๋ยอินทรีย์ คือ ปุ๋ยที่ได้จากการย่อยสลายอินทรีย์วัตถุโดยจุลินทรีย์กลุ่มใช้ออกซิเจน (Aerobic Microorganisms) จนมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อพืช ได้แก่ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด เศษใบไม้ทุกชนิด ขึ้ค้างคาว ขี้วัว , ขี้หมู , ขี้สัตว์ในฟาร์มทุกชนิด เช่น ไก่ เป็ด แพะ แกะ กวาง
ปุ๋ยเคมี คือ ปุ๋ยที่ได้จากสิ่งไม่มีชีวิต เช่น จากหิน เหมือนแร่ต่าง ๆ หรือ จากการสังเคราะห์ขึ้นทางวิทยาศาสตร์ เช่น ปุ๋ยยูเรีย แอมโมเนียมซัลเฟต หินฟอสเฟตบด ปุ๋ยเคมีสูตรต่าง ๆ
ปุ๋ยเคมีจะมีส่วนผสมของธาตุอาหารหลักของพืช (ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส หรือโพแทสเซียม) ในปริมาณที่เข้มข้นมากกว่าปุ๋ยอินทรีย์[1] จึงทำให้ปุ๋ยเคมีได้รับความนิยมเนื่องจากสามารถใช้ในปริมาณที่น้อยกว่าปุ๋ยอินทรีย์
ถึงแม้ว่าปุ๋ยเคมีจะมีธาตุอาหารพืชเข้มข้นกว่าปุ๋ยอินทรีย์ แต่ปุ๋ยเคมีไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงโครงสร้างของดินให้โปร่งและร่วนซุยได้[1] นอกจากนั้นปุ๋ยเคมีส่วนใหญ่มักจะไม่มีธาตุอาหารรอง และธาตุอาหารเสริม ที่มีในปุ๋ยอินทรีย์ แต่อย่างไรก็ตามในตลาดปุ๋ยเคมีปัจจุบัน มีปุ๋ยเคมีหลายประเภทที่มีการผสมธาตุอาหารรองเข้าไป เพื่อลดปัญหานี้ลง
สูตรปุ๋ย คือ ตัวเลข 3 ตัวโดยมีขีดคั่นกลาง เป็นตัวเลขที่ใช้บอกสัดส่วนปริมาณธาตุอาหารหลัก 3 ชนิดของปุ๋ย ได้แก่ ไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และ โพแทสเซียม ตามลำดับ เช่น ปุ๋ยกระสอบละ 100 กิโลกรัม สูตร 46-0-0 จะมีส่วนผสมเนื้อธาตุไนโตรเจน 46 กิโลกรัม, ปุ๋ย 16-20-0 จะมีส่วนผสมของเนื้อธาตุไนโตรเจน 16 กิโลกรัมและเนื้อธาตุฟอสฟอรัส 20 กิโลกรัม, หรือ ปุ๋ย 15-15-15 จะมีส่วนผสมของเนื้อธาตุไนโตรเจน 15 กิโลกรัม เนื้อธาตุฟอสฟอรัส 15 กิโลกรัม และ เนื้อธาตุโพแทสเซียม 15 กิโลกรัม
ปุ๋ยบางชนิดจะมีธาตุอาหารรอง (หรือบางครั้งเรียก จุลธาตุ) อยู่ด้วยและมักจะเติมท้ายสูตรปุ๋ยด้วย "TE" ซึ่ง TE ย่อจาก Trace Element ที่หมายถึงจุลธาตุ ในภาษาอังกฤษ
ปุ๋ยเชิงเดี่ยว หรือ แม่ปุ๋ย คือ ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุปุ๋ยอยู่เพียงธาตุเดียว เช่น ยูเรีย มีไนโตรเจนเพียงธาตุเดียว หรือโปรตัสเซียมคลอไรด์ มีโปรตัสเซียมอยู่เพียงธาตุเดียว เป็นต้น[1]
ปุ๋ยเชิงผสม, ปุ๋ยผสม, หรือ ปุ๋ยเบ๊าค์ (ซึ่งมาจากภาษาอังกฤษ Bulk Blending Fertilizer) จะเป็นการผสมของปุ๋ยเชิงเดี่ยว เพื่อให้ได้อัตราส่วนของธาตุอาหารตามที่ต้องการ ซึ่งเป็นการผสมทางกายภาพ เช่น คลุกส่วนผสมของปุ๋ยเชิงเดี่ยวแต่ละชนิดตามน้ำหนัก
ปุ๋ยเชิงประกอบ คือ ปุ๋ยเคมีที่ทำขึ้นด้วยกรรมวิธีทางเคมีและมีธาตุอาหารหลักอย่างน้อยสองธาตุขึ้นไป ซึ่งการทำด้วยวิธีทางเคมีจะทำให้ธาตุอาหารในเนื้อปุ๋ยมีความสม่ำเสมอมากกว่าปุ๋ยเชิงผสม แต่โดยทั่วไปปุ๋ยเชิงประกอบก็จะมีราคาที่สูงกว่าด้วย จึงเหมาะกับพืชที่มีความอ่อนไหวต่อสารอาหาร
นอกจากนั้นยังมีปุ๋ยชนิดอื่น ๆ อีกเช่น ปุ๋ยละลายช้า หรือ ปุ๋ยควบคุมการละลาย
ปุ๋ยละลายช้า หรือ ปุ๋ยควบคุมการละลาย คือ ปุ๋ยที่จะค่อย ๆ ปล่อยสารอาหารออกมา
ปุ๋ยละลายช้ามีอยู่หลายชนิดด้วยกันรวมถึง ชนิดเคลือบพลาสติก (Plastic coated), ชนิดเคลือบสารละลายช้า (Slowly soluble coating), ชนิดยูเรียอัลดีไฮด์ (Urea aldehydes), ชนิดเคลือบกำมะถัน (Sulfur coated) เป็นต้น แต่ละชนิดมีคุณสมบัติแต่ต่างกัน เช่น ชนิดเคลือบพลาสติกอัตราการปล่อยสารอาหารจะขึ้นกับความหนาของพลาสติกที่เคลือบ ชนิดยูเรียอัลดีไฮด์อัตราการปล่อยสารอาหารจะสูงในตอนแรก ๆ และจะช้าลงตลอดจนหมดในเวลา 3 ปี ชนิดเคลือบกำมะถันจะมีระยะเวลาในการใช้อยู่ราว ๆ 3-4 เดือน[3] [4] [5]
ปุ๋ยละลายช้าช่วยทำให้พืชได้รับสารอาหารอย่างสม่ำเสมอ แบบค่อยเป็นค่อยไปลดความเสี่ยงจากภาวะที่เรียกว่า "จุกหรืออด" (feast or famine) ที่พืชอาจได้รับปุ๋ยมากเกินไปในช่วงแรกแล้วหลังจากสารอาหารถูกชะล้างไปหมด ก็จะขาดสารอาหารได้ นอกจากนั้น ปุ๋ยละลายช้า ยังมีข้อดีในแง่สิ่งแวดล้อมอีกด้วย เพราะมันยังช่วยลดปริมาณสารเคมีที่ถูกชะล้างจากแหล่งเพาะปลูกลงไปสู่แหล่ง ที่มีน้ำธรรมชาติอีกด้วย
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.