![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/11/Phytoestrogens2.png/640px-Phytoestrogens2.png&w=640&q=50)
ไฟโตเอสโตรเจน
สารประกอบจากพืชซึ่งสามารถออกฤทธิ์เลียนแบบเอสโตรเจนจากต่อมบ่งเพศ / From Wikipedia, the free encyclopedia
ไฟโตเอสโตรเจน (อังกฤษ: phytoestrogen) เป็นเอสโตรเจนชนิดหนึ่งที่พบในพืช ไฟโตเอสโตรเจนเป็นเซโนเอสโตรเจนที่ไม่ได้สร้างจากระบบต่อมไร้ท่อ แต่ได้รับจากการทานพืชและอาหารแปรรูป[1] ไฟโตเอสโตรเจนมีโครงสร้างคล้ายเอสตราไดออล ซึ่งเป็นหนึ่งในฮอร์โมนเพศหญิงหลัก จึงสามารถจับกับตัวรับเอสโตรเจนและออกฤทธิ์เลียนแบบและบางครั้งเป็นตัวยับยั้งเอสโตรเจน[2] ไฟโตเอสโตรเจนไม่ใช่สารอาหารจำเป็นเนื่องจากไม่เกิดโรคหากขาด และไม่พบว่ามีส่วนในการทำงานปกติของร่างกาย[2]
![Thumb image](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/1/11/Phytoestrogens2.png/640px-Phytoestrogens2.png)
ไฟโตเอสโตรเจนเป็นกลุ่มสารประกอบพืชที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ที่มีความหลากหลาย ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มฟีนอลที่พบในธรรมชาติ เช่น คูเมสแทน พรีนิลฟลาโวนอยด์และไอโซฟลาโวน นอกจากนี้ยังมีสารอื่น ๆ ที่เป็นไฟโตเอสโตรเจนแต่ไม่จัดอยู่ในสามกลุ่มนี้ เช่น ลิกแนน[3] สติลบีนอยด์[4] และไมโคเอสโตรเจน (เอสโตรเจนจากเห็ดรา)[5]
ไฟโตเอสโตรเจนพบทั่วไปในโปรตีนถั่วเหลือง ถั่ว ข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวบาร์เลย์ กาแฟ แอปเปิลและแคร์รอต คำว่าไฟโตเอสโตรเจนมาจากการรวมคำภาษากรีก 2 คำคือ φυτόν (phutón) แปลว่าพืช กับ estrogen ซึ่งมาจาก οἶστρος (oîstros) แปลว่าความต้องการทางเพศ[6] มีสมมติฐานว่าพืชใช้ไฟโตเอสโตรเจนในการควบคุมภาวะเจริญพันธุ์ของสัตว์กินพืชเพศเมีย เพื่อป้องกันประชากรมากเกินไป[7][8]
นักวิทยาศาสตร์สังเกตไฟโตเอสโตรเจนครั้งแรกในปี ค.ศ. 1926[2][9] แต่ยังไม่ทราบว่าส่งผลอย่างไรต่อเมแทบอลิซึมในมนุษย์และสัตว์ จนกระทั่งในคริสต์ทศวรรษ 1940–1950 มีการพบว่าไฟโตเอสโตรเจนส่งผลต่อความสามารถมีลูกของแกะที่กินพืชจำพวกโคลเวอร์ (สกุล Trifolium) ซึ่งอุดมไปด้วยสารชนิดนี้[2][10][11][12]