โรม
เมืองหลวงของประเทศอิตาลี / From Wikipedia, the free encyclopedia
โรม[3] (อังกฤษ: Rome) หรือชื่อในภาษาอิตาลีและละตินคือ โรมา[3] (อิตาลีและละติน: Roma [ˈroːma] ( ฟังเสียง)) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของแคว้นลัตซีโยและประเทศอิตาลี ตั้งอยู่ทางตอนกลางของประเทศ ในเขตตัวเมืองมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 2.5 ล้านคน ถ้ารวมเมืองโดยรอบจะมีประมาณ 4.3 ล้านคน โดยมีจำนวนประชากรใกล้เคียงกับมิลานและนาโปลี
โรม Roma | |
---|---|
นครหลวงและเทศบาล | |
กรุงโรม - Roma Capitale | |
ตามเข็มจากบน: โคลอสเซียม, มหาวิหารนักบุญเปโตร, ปราสาทซันตันเจโล, สะพานซันตันเจโล, น้ำพุเตรวี และวิหารแพนธีอัน | |
สมญา: "อมตะนคร" - "Urbs Aeterna" "ศูนย์กลางของโลก" - "Caput Mundi" | |
เขตเทศบาลกรุงโรม (สีแดง) ภายในเขตมหานครกรุงโรม (สีเหลือง) ส่วนสีขาวคือนครรัฐวาติกัน | |
พิกัด: 41°53′N 12°30′E | |
ประเทศ | อิตาลี |
แคว้น | ลัตซีโย |
ก่อตั้ง | 753 ปีก่อนคริสตกาล |
ผู้ก่อตั้ง | กษัตริย์โรมุลุส |
การปกครอง | |
• ประเภท | เขตเทศบาลชนิดพิเศษ |
• องค์กร | สภากรุงโรม |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 1,285 ตร.กม. (496.3 ตร.ไมล์) |
ความสูง | 21 เมตร (69 ฟุต) |
ประชากร (30 เม.ย. 2018) | |
• ความหนาแน่น | 2,236 คน/ตร.กม. (5,790 คน/ตร.ไมล์) |
• เขตเทศบาล | 2,879,728[1] |
• เขตมหานคร | 4,355,725[2] |
เดมะนิม | โรมาโน (บุรุษ), โรมานา (สตรี) |
เขตเวลา | UTC+1 (เวลายุโรปกลาง) |
CAP code(s) | 00100; 00118 to 00199 |
รหัสพื้นที่ | 06 |
เว็บไซต์ | "Roma Capitale - Sito Istituzionale". Comune di Roma. สืบค้นเมื่อ 22 สิงหาคม 2019. |
โรมมักถูกเรียกว่าเมืองแห่งเนินเขาทั้งเจ็ดเนื่องจากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ และยังได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองอันเป็นนิรันดร์" โดยทั่วไปแล้วโรมถือเป็นแหล่งกำเนิดของอารยธรรมตะวันตกและวัฒนธรรมคริสเตียนตะวันตก และเป็นศูนย์กลางของคริสตจักรคาทอลิก นอกจากนี้โรมยังเป็นที่ตั้งของนครรัฐวาติกัน ซึ่งเป็นดินแดนที่ประทับของพระสันตะปาปาแห่งนิกายโรมันคาทอลิกอีกด้วย
หลังสิ้นสุดยุคกลาง โรมได้อยู่ภายใต้การปกครองของพระสันตะปาปา เช่น สมเด็จพระสันตะปาปาอเล็กซานเดอร์ที่ 6 และสมเด็จพระสันตะปาปาลีโอที่ 10 ผู้ซึ่งสร้างสรรค์ให้โรมกลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีเช่นเดียวกับฟลอเรนซ์[4] ซึ่งในยุคสมัยดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์แบบที่เห็นในปัจจุบัน และมีเกลันเจโลได้วาดภาพปูนเปียกประดับภายในโบสถ์น้อยซิสทีน ศิลปินและสถาปนิกที่มีชื่อเสียงอย่างบรามันเต แบร์นินี และราฟาเอล ซึ่งพำนักอยู่ในโรมเป็นครั้งคราว ได้มีส่วนช่วยสรางสรรค์สถาปัตยกรรมแบบสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาและแบบบารอกในโรมด้วยเช่นกัน
ใน พ.ศ. 2550 โรมเป็นเมืองที่มีผู้มาเยือนมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มากเป็นอันดับสามในสหภาพยุโรป และเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยมมากที่สุดในอิตาลี[5] ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์ใจกลางเมืองได้รับการขึ้นทะเบียนจากองค์การยูเนสโกให้เป็นแหล่งมรดกโลก[6] นอกจากนี้ อนุสรณ์สถานและพิพิธภัณฑ์อย่างพิพิธภัณฑ์วาติกันและโคลอสเซียมยังจัดอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุด 50 อันดับแรกของโลก (พิพิธภัณฑ์วาติกันมีนักท่องเที่ยว 4.2 ล้านคนต่อปี และโคลอสเซียมมี 4 ล้านคนต่อปี)[7]