โนเกีย
From Wikipedia, the free encyclopedia
โนเกีย (อังกฤษ: Nokia) เป็นบริษัทวิศวกรรมด้านเทคโนโลยีสื่อสารและโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่สัญชาติฟินแลนด์ ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ.1865 มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเอสโป เขตมหานคร เฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ในปี ค.ศ. 2020 โนเกียได้จ้างพนักงานประมาณ 92,000 คน[1] ดำเนินธุรกิจในจำนวนกว่า 130 ประเทศทั่วโลก โนเกียยังเป็นบริษัทมหาชนจำกัด ที่มีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์เฮลซิงกิ และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก[2] นอกจากนี้จากการจัดอันดับของ ฟอร์จูนโกลบอล 500 โนเกียยังเป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 415 ของโลก วัดจากรายได้ในปี ค.ศ. 2016 ประกอบด้วยยูโรสต็อกซ์ 50 และดัชนีตลาดหุ้น เคยติดอันดับสูงสุดถึงอันดับที่ 85[3] ในปี ค.ศ. 2009
ตราสัญลักษณ์ที่เริ่มใช้ตั้งแต่ ค.ศ. 2023 | |
ประเภท | มหาชน (OMX: NOK1V, NYSE: NOK , FWB: NOA3) |
---|---|
อุตสาหกรรม | โทรคมนาคม เทคโนโลยี อิเล็กทรอนิกส์ |
ก่อนหน้า | Q11894827 Suomen Kaapelitehdas |
ก่อตั้ง | 12 พฤษภาคม ค.ศ. 1865 (159 ปี 72 วัน) (ตัมเปเร ราชรัฐฟินแลนด์) |
ผู้ก่อตั้ง | เฟรดริก อิเดสตัม ลีโอ มิเชลิน เอดวร์ด โปลอน |
สำนักงานใหญ่ | เอสโป ฟินแลนด์ |
บุคลากรหลัก | ซาริ บัลดาอุฟ ประธานบริษัท เพ็คก้า ลุนด์มาร์ค ประธานบริษัท และ CEO |
ผลิตภัณฑ์ | โทรศัพท์เคลื่อนที่ สื่อประสม |
รายได้ | 24.91 พันล้านยูโร (2022) |
รายได้จากการดำเนินงาน | 2.318 พันล้านยูโร (2022) |
รายได้สุทธิ | 4.259 พันล้านยูโร (2022) |
สินทรัพย์ | 42.94 พันล้านยูโร (2022) |
ส่วนของผู้ถือหุ้น | 21.43 พันล้านยูโร (2022) |
พนักงาน | 86,896 (2022) |
เว็บไซต์ | www.nokia.com |
โนเกียเริ่มดำเนินธุรกิจจากการทำเยื่อกระดาษ และอีกหลากหลายอุตสาหกรรม ก่อนที่จะมุ่งเน้นในโครงสร้างพื้นฐานด้านการโทรคมนาคมขนาดใหญ่ตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990[4] ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากต่ออุตสาหกรรมโทรศัพท์เคลื่อนที่ และการพัฒนามาตรฐานโทรศัพท์มือถือ จีเอสเอ็ม, 3 จี และแอลทีอี รวมถึงโครงข่าย 5G ในยุคปัจจุบัน โดยในระหว่างปี ค.ศ. 1998 ถึง ค.ศ. 2012 โนเกียขึ้นเป็นบริษัทผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือขนาดใหญ่ที่สุดในโลกยาวนานถึง 14 ปี โนเกียมีส่วนในการผลักดันเทคโนโลยีหลายอย่างในสมาร์ทโฟน เช่น แอพลิเคชั่น, การทำโทรศัพท์ไร้เสาอากาศ, กล้องถ่ายภาพความละเอียดสูง, การรับส่งข้อความสั้น SMS และยังเป็นเจ้าของสิทธิบัตรเทคโนโลยีกว่า 60,000 ฉบับ รวมถึงสิทธิบัตรมาตรฐานการผลิตสมาร์ทโฟนขั้นพื้นฐาน หรือ SEPs ที่หลายค่ายยังได้ใช้งานอยู่