โซเดียมไซคลาเมต
From Wikipedia, the free encyclopedia
โซเดียมไซคลาเมต (อังกฤษ: sodium cyclamate) หรือ ไซคลาเมต เป็นวัตถุให้ความหวานทดแทนน้ำตาล มีลักษณะเป็นผงผลึกสีขาว ไม่มีกลิ่น[1] มีสูตรเคมีคือ C6H12NNaO3S มีเลขอีคือ E952[2]
ชื่อ | |
---|---|
IUPAC name
sodium N-cyclohexylsulfamate | |
เลขทะเบียน | |
| |
3D model (JSmol) |
|
ChEMBL | |
เคมสไปเดอร์ |
|
ECHA InfoCard | 100.004.863 |
เลขอี | E952(iv) (glazing agents, ...) |
ผับเคม CID |
|
UNII | |
CompTox Dashboard (EPA) |
|
InChI
| |
SMILES
| |
คุณสมบัติ | |
C6H12NNaO3S | |
มวลโมเลกุล | 201.22 g·mol−1 |
ความอันตราย | |
NFPA 704 (fire diamond) | |
หากมิได้ระบุเป็นอื่น ข้อมูลข้างต้นนี้คือข้อมูลสาร ณ ภาวะมาตรฐานที่ 25 °C, 100 kPa
|
ไซคลาเมตเป็นเกลือโซเดียมหรือเกลือแคลเซียมของกรดไซคลามิกที่เตรียมได้จากปฏิกิริยาซัลเฟชันของไซโคลเฮกซิลเอมีน หรือให้ไซโคลเฮกซิลเอมีนทำปฏิกิริยากับกรดซัลเฟมิกหรือซัลเฟอร์ไตรออกไซด์[3]
โซเดียมไซคลาเมตมีความหวานกว่าซูโครส (น้ำตาลทราย) 30-50 เท่า ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1937 โดยไมเคิล สเวดา (Michael Sveda) นักศึกษาของมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์[4] บริษัทดูปองท์ซื้อสิทธิบัตรไปก่อนจะขายให้บริษัทแอบบอตต์ ซึ่งใช้ผสมในยาปฏิชีวนะและเพนโตบาร์บิทัล (ยารักษาโรคซึมเศร้า) ในปี ค.ศ. 1958 สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) จัดโซเดียมไซคลาเมตในหมวด GRAS (ยอมรับโดยทั่วไปว่าปลอดภัย) แต่ในปี ค.ศ. 1966 มีรายงานว่าโซเดียมไซคลาเมตอาจก่อให้เกิดพิษเรื้อรังในสัตว์และในปี ค.ศ. 1969 มีรายงานเพิ่มเติมว่าโซเดียมไซคลาเมตอาจก่อให้เกิดมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ[5] สำนักงาน FDA จึงสั่งให้ใช้โซเดียมไซคลาเมตเฉพาะในผลิตภัณฑ์ที่ต้องควบคุมพิเศษ ต่อมาในปี ค.ศ. 1970 สำนักงาน FDA ออกประกาศห้ามใช้โซเดียมไซคลาเมตในผลิตภัณฑ์ทุกชนิดในสหรัฐอเมริกาจนถึงปัจจุบัน[6][7] โซเดียมไซคลาเมตได้รับการอนุญาตให้ใช้ในกว่า 55 ประเทศทั่วโลก รวมถึงประเทศไทย[8]