เทศมณฑลของอังกฤษ
From Wikipedia, the free encyclopedia
เทศมณฑลของประเทศอังกฤษ เป็นการแบ่งพื้นที่เพื่อใช้ในวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ได้แก่ การบริหาร ภูมิศาสตร์ วัฒนธรรม และการเมือง คำว่า "เทศมณฑล" ถูกจำกัดความในหลายลักษณะ บางแห่งใช้กำหนดในพื้นที่เดียวกัน และบางแห่งก็ใช้กำหนดพื้นที่ที่ต่างกันเล็กน้อย[1] ประเภทของเทศมณฑลที่แตกต่างกันเหล่านี้ต่างมีชื่อเรียกที่เป็นทางการกว่า แต่ก็มักเรียกกันโดยทั่วไปว่า "เทศมณฑล" การจัดระเบียบโครงสร้างของเทศมณฑลมีการปฏิรูปเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน เทศมณฑลของประเทศอังกฤษสามารถเทียบได้กับจังหวัดของประเทศไทย
เทศมณฑลของประเทศอังกฤษ | |||
---|---|---|---|
หรือเรียกว่า ไชร์ (Shire) | |||
| |||
หมวดหมู่ | เทศมณฑล (County) | ||
ที่ตั้ง | อังกฤษ | ||
พบใน | ภูมิภาค | ||
ก่อตั้ง | ก่อตั้งในยุคกลาง | ||
สถานะที่เป็นไปได้ | เทศมณฑลทางพิธีการ (48 แห่ง) เทศมณฑลมหานครและนอกมหานคร (82 แห่ง) |
มณฑลในปัจจุบันมีรากฐานมาจากการแบ่งเขตการปกครองของระบบการปกครองในประวัติศาสตร์เช่นในสมัยแองโกล-แซ็กซอน คำว่ามณฑลที่ในภาษาอังกฤษใช้คำว่า “County” ซึ่งมาจากบริเวณเขตการปกครองของขุนนางระดับเคานท์ แต่ในอังกฤษตำแหน่ง “เคานท์” เท่ากับตำแหน่ง เอิร์ล ของแซ็กซอนโบราณ แต่ภรรยาของเอิร์ลยังคงมีตำแหน่งเป็น “เคานเทส”
ชื่อ, เขตแดน และลักษณะการบริหารของเขตการปกครองของมณฑลเปลี่ยนแปลงไปมากจากที่เป็นมาในอดีตกาล และการปฏิรูปเขตการปกครองต่างๆ ที่เกิดเริ่มตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นต้นมาทำให้ความหมายคำว่า “มณฑล” ที่ใช้กันในอังกฤษค่อนข้างจะสับสนและกำกวม ฉะนั้นคำว่า “มณฑลของอังกฤษ” โดยทั่วไปจึงมิได้หมายถึงหน่วยเขตการปกครองที่แจ่มแจ้งเช่นในความหมายอย่างเป็นทางการของคำว่า “มณฑล” ตามที่เข้าใจกัน เช่นในการใช้คำว่า “มณฑล” สำหรับกรณีอื่นๆ นอกไปจากการบริหารการปกครองส่วนท้องถิ่นเช่น มณฑลภูมิศาสตร์ (Ceremonial counties), มณฑลลงทะเบียน (Registration county), มณฑลในประวัติศาสตร์ (Historic counties) หรือมณฑลไปรษณีย์ (Postal counties) เป็นต้น