ออโรรา (ตัวละครดิสนีย์)
ตัวละครเอกจากภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา ของดิสนีย์ในปี ค.ศ. 1959 / From Wikipedia, the free encyclopedia
ออโรรา (อังกฤษ: Aurora) หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อเจ้าหญิงนิทรา (อังกฤษ: Sleeping Beauty) หรือ ไบรเออร์ โรส (อังกฤษ: Briar Rose)[1][2][3] เป็นตัวละครที่ปรากฏในภาพยนตร์แอนิเมชันลำดับที่ 16 ของวอลต์ดิสนีย์โปรดักชันส์เรื่อง เจ้าหญิงนิทรา (1959) ออโรราเป็นพระธิดาองค์เดียวของกษัตริย์สเตฟานและราชินีลีอาห์ พากย์เสียงโดยนักร้องแมรี คอสตา นางฟ้าผู้ชั่วร้ายชื่อมาเลฟิเซนต์พยายามแก้แค้นที่ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมพิธีศีลล้างปาปของออโรรา จึงได้สาปเจ้าหญิงที่เพิ่งเกิดใหม่ โดยกล่าวว่าเธอจะถูกเข็มปั่นฝ้ายตำนิ้วพระหัตถ์ แล้วสิ้นพระชนม์ก่อนพระอาทิตย์ตกดินในวันเฉลิมพระชนมพรรษาปีที่สิบหกของเธอ เมอร์รีเวเธอร์หนึ่งในสามนางฟ้าผู้แสนดี ได้อวยพรเพื่อบรรเทาให้คำสาปอ่อนลง ดังนั้นออโรราจึงเพียงแค่บรรทมไป มนต์สะกดจะถูกทำลายได้ด้วยการจูบจากผู้เป็นรักแท้ของเธอเท่านั้น ด้วยความมุ่งมั่นที่ไม่ให้เกิดเรื่องราวนี้ขึ้น นางฟ้าแสนดีทั้งสามตนจึงรับเลี้ยงออโรราขึ้นมาเป็นชาวนาเพื่อปกป้องเธอ และอดทนรอวันเกิดปีที่ 16 ของออโรรา
ออโรรา | |
---|---|
ตัวละครใน เจ้าหญิงนิทรา | |
![]() ออโรราขณะที่เธอปรากฏตัวในเรื่องเจ้าหญิงนิทรา (1959) โดยสวมชุดราตรีบอลกาวน์สีน้ำเงินที่สามารถเปลี่ยนสีได้ | |
ปรากฏครั้งแรก | เจ้าหญิงนิทรา (1959) |
สร้างโดย |
|
แสดงโดย | แอลล์ แฟนนิง (มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ & มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ) เอเลนอร์ เวิร์ตธิงตัน ค็อกซ์ (อายุ 8 ขวบ) (มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) วิเวียน โจลี-พิตต์ (อายุ 5 ขวบ) (มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) |
ให้เสียงโดย |
|
เค้าโครงจาก | ไบรเออร์ โรส จากเทพนิยายของชาร์ล แปโร |
ข้อมูลตัวละครในเรื่อง | |
ชื่อเล่น | เจ้าหญิงนิทรา ไบรเออร์ โรส (นามแฝง) |
เพศ | หญิง |
ตำแหน่ง | เจ้าหญิง, ราชินี (มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) |
อาชีพ | เจ้าหญิง, ราชินี (มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ) |
สังกัด | เจ้าหญิงดิสนีย์ |
ครอบครัว |
|
คู่สมรส | เจ้าชายฟิลลิป |
บุตร | เจ้าหญิงออเดรย์ (เดสเซนแดนต์ส) |
ญาติ |
|
บ้านเกิด | อาณาจักรพระเจ้าสเตฟาน |
สัญชาติ | ฝรั่งเศส |
ออโรราสร้างจากเจ้าหญิงในเทพนิยายของชาร์ล แปโรเรื่อง "เจ้าหญิงนิทรา" รวมถึงนางเอกที่ปรากฏในนิทานเรื่อง "ลิตเติลไบรเออร์ โรส" ของพี่น้องตระกูลกริมม์ เป็นเวลาหลายปีที่วอลต์ ดิสนีย์พยายามดิ้นรนหานักแสดงที่เหมาะสมมาพากย์เสียงเจ้าหญิง และเกือบจะละทิ้งภาพยนตร์เรื่องนี้ไปโดยสิ้นเชิง จนกระทั่งนักแต่งเพลงวอลเตอร์ ชูมันน์ ได้พบกับคอสตา อย่างไรก็ตาม สำเนียงทางใต้ของคอสตาเกือบจะทำให้เธอต้องเสียบทบาทนี้ไป จนกว่าเธอจะพิสูจน์ได้ว่าเธอสามารถรักษาสำเนียงอังกฤษไว้ได้ตลอดระยะเวลาของเรื่อง เพื่อที่รองรับเบื้องหลังที่มีรายละเอียดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนของภาพยนตร์ การออกแบบอย่างประณีตของออโรราจึงต้องใช้ความพยายามมากกว่าที่เคยใช้กับตัวละครแอนิเมชันเรื่องก่อน ๆ โดยนักสร้างแอนิเมชันได้รับแรงบันดาลใจจากอาร์นูโว แอนิเมชันที่สร้างโดยมาร์ก เดวิสนั้นมีรูปร่างเพรียว ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากนักแสดงออดรีย์ เฮปเบิร์น ด้วยบทสนทนาเพียง 18 บรรทัดและเวลาฉายหน้าจอเพียงไม่กี่นาที ตัวละครนี้จึงพูดได้น้อยกว่าตัวละครหลักที่พูดได้ในภาพยนตร์แอนิเมชันเรื่องยาวของดิสนีย์
เมื่อเจ้าหญิงนิทราออกฉายครั้งแรกในปี ค.ศ. 1959 ภาพยนตร์เรื่องนี้ประสบความล้มเหลวทั้งในเชิงวิพากษ์วิจารณ์และเชิงพาณิชย์ ทำให้สตูดิโอท้อใจจากการนำเทพนิยายมาสร้างเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันมานานถึงสามทศวรรษ ออโรราเองก็ได้รับคำวิจารณ์เชิงลบจากทั้งภาพยนตร์และนักวิจารณ์สตรีนิยมในเรื่องความเฉยเมยและความคล้ายคลึงกับสโนว์ไวต์ และยังคงเป็นเจ้าหญิงคนสุดท้ายของดิสนีย์จนแอเรียลจากเรื่องเงือกน้อยผจญภัยจะเปิดตัวในอีก 30 ปีต่อมาในปี ค.ศ. 1989 อย่างไรก็ตาม การขับร้องของคอสตาได้รับเสียงคำชม ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจให้เธอทำอาชีพอย่างจริงจังในฐานะนักร้องโอเปร่าจนประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ ตามลำดับเวลาออโรราคือเจ้าหญิงดิสนีย์คนที่สาม แอลล์ แฟนนิง ได้แสดงบทออโรราในเวอร์ชันคนแสดงจากเรื่อง มาเลฟิเซนต์ กำเนิดนางฟ้าปีศาจ (2014) ซึ่งเป็นการเล่าถึงภาพยนตร์แอนิเมชันปี ค.ศ. 1959 เรื่องเจ้าหญิงนิทราจากมุมมองของตัวละครในชื่อเรื่อง แฟนนิงกลับมารับบทออโรราอีกครั้งใน มาเลฟิเซนต์: นางพญาปีศาจ (2019) ซึ่งมีเรื่องราวเกิดขึ้นในอีกห้าปีต่อมา