Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สี่เยฺวียนจี๋ลู่ (จีน: 洗冤集錄; พินอิน: Xǐyuān Jílù; "ประชุมบันทึกการล้างมลทิน") เป็นหนังสือภาษาจีนที่ซ่ง ฉือ (宋慈) นักนิติศาสตร์ราชวงศ์ซ่งใต้ (南宋) เขียนขึ้นเมื่อ ค.ศ. 1247[1] เพื่อเป็นคู่มือสำหรับเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ โดยประมวลคดีทางนิติวิทยาศาสตร์หลายเรื่องพร้อมด้วยประสบการณ์ของตนเข้าเป็นหนังสือเล่มนี้ไว้เป็นแนวทางปัดเป่าความไม่เป็นธรรม หนังสือนี้เป็นที่ยึดถือของข้าราชการหลายต่อหลายรุ่นสืบ ๆ มา ทั้งยังได้รับการแปลออกเป็นหลายภาษา ไม่ว่าจะฝรั่งเศส, ญี่ปุ่น, เยอรมัน, อังกฤษ, และอื่น ๆ นับเป็นตำราลายลักษณ์อักษรทางนิติวิทยาศาสตร์เล่มแรกของโลก
ต้นฉบับหนังสือนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันมีหลายชุดและเนื้อหาต่างกัน แต่ที่เก่าแก่ที่สุดเป็นฉบับเผยแพร่สมัยราชวงศ์ยฺเหวียน (元朝) แบ่งออกเป็น 5 ภาค 53 บท ภาค 1 ว่าด้วยราชโองการให้ตรวจสอบศพและบาดแผล ภาค 2 ว่าด้วยวิธีชันสูตรพลิกศพ ภาค 3, 4, และ 5 เป็นรายละเอียดของศพในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งเกิดจากการตายในหลายสาเหตุ และวิธีจัดการกับบาดแผลบางประเภท[2]
ในหนังสือนี้ ซ่ง ฉือ ยังพรรณนาระเบียบการรายงานการตรวจศพของศาล วิธีป้องกันพยานหลักฐานในขั้นตอนการตรวจสอบ เหตุผลที่เจ้าหน้าต้องแสดงผลการตรวจสอบให้สาธารณชนทราบอย่างเที่ยงตรง ตลอดจนวิธีชำระล้างศพเพื่อตรวจสอบสาเหตุต่าง ๆ ของการตาย[3] อนึ่ง เขายังระบุวิธีแยกแยะการฆ่าตัวตายกับการแสร้งฆ่าตัวตาย[4]
หนังสือนี้ยังเป็นเอกสารแรกที่กล่าวถึงบทบาทของแมลงในทางนิติวิทยาศาสตร์[5] โดยกล่าวว่า ใน ค.ศ. 1235 มีผู้ถูกแทงตาย ณ หมู่บ้านแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่นำใบมีดรูปแบบต่าง ๆ มาทดลองกับซากสัตว์ ก็รู้ได้ว่า แผลแทงนั้นเกิดจากเคียว จึงสั่งให้ชาวบ้านทุกคนมารายงานตัวพร้อมนำเคียวมาด้วย ฝูงแมลงวันหัวเขียวพากันตอมเคียวเล่มหนึ่งเพราะเนื้อเยื่อและกลิ่นเลือดจากศพยังติดอยู่แม้มองไม่เห็นแล้วก็ตาม เจ้าของเคียวตกใจและรับสารภาพ นอกจากนี้ ส่วนอื่น ๆ ของหนังสือยังพรรณนาพฤติกรรมของแมลงวันหัวเขียวที่มีต่อศพ ซึ่งสัมพันธ์กับการเน่าเสียของศพหรืออวัยวะภายใน หรือความต้องตาต้องใจของเนื้อเยื่อบาดแผล เป็นต้น[6]
ดี. ไบรอัน อี. แม็กไนต์ (D. Brian E. McKnight) พูดถึงคดีเคียวดังกล่าวว่า "ชาวนาท้องถิ่นในหมู่บ้านจีนแห่งหนึ่งถูกพบเป็นศพ โดยถูกเคียวฟันตาย การใช้เคียวซึ่งเป็นเครื่องมือที่ชาวนาใช้เกี่ยวข้าวช่วงเก็บเกี่ยวนี้แสดงว่า ฆาตกรย่อมเป็นชาวนาอีกคนในท้องถิ่นนั้น ตุลาการท้องถิ่นจึงเริ่มสืบสวนโดยเรียกชาวนาท้องถิ่นทุกคนที่อาจต้องสงสัยให้มายังลานหมู่บ้าน แต่ละคนให้นำเคียวของตนติดตัวมายังลานประชุมด้วย เมื่อพร้อมกันแล้ว ตุลาการสั่งให้ผู้ต้องสงสัยราว 10 คนวางเคียวของตนไว้บนพื้นข้างหน้าตนแล้วเดินถอยหลังไปไม่กี่หลา บ่ายนั้นแดดอุ่น ขณะที่ชาวบ้าน ตุลาการ และผู้ต้องสงสัย รอเวลาอยู่นั้นเอง แมลงวันหัวเขียวตัวเงาวับแวววาวก็บินหึ่งมาตอมเคียวในลานหมู่บ้านนั้น แล้วแมลงตัวสีเงินวาวเหล่านี้ก็หันเหไปหาเคียวเล่มหนึ่งซึ่งวางอยู่บนพื้น ภายในไม่กี่นาที แมลงหลายตัวก็พุ่งลงตอมเคียวเล่มนั้นแล้วถูตัวไปมาบนเคียวอย่างชอบใจ โดยที่เคียวเล่มอื่นไม่เป็นที่สนใจของแมลงตัวหนึ่งตัวใดเลย เจ้าของเครื่องมือนั้นจึงเริ่มเหงื่อตก และนั่นเป็นช่วงเวลาไม่นานนักก่อนคนทั้งหลายในหมู่บ้านจะเอะใจว่า ฆาตกรคือใคร ตุลาการจึงให้กุมตัวฆาตกรไป โดยคนร้ายนั้นก้มหัวด้วยความอายพลางร้องขอความเมตตา ผู้ยืนยันฆาตกรรมจึงเป็นแมลงตัวสีเงินวาวที่เรียกกันว่า แมลงวันหัวเขียว ซึ่งต้องตาต้องใจกับเศษซากเนื้อเยื่อบาง ๆ เลือด กระดูก และเส้นขน ที่ติดอยู่บนเคียวหลังใช้ก่อฆาตกรรม ความรู้ของตุลาการประจำหมู่บ้านในเรื่องพฤติกรรมของแมลงบางกลุ่มที่ถูกเนื้อเยื่อศพมนุษย์ดึงดูดได้นั้นนับเป็นกุญแจที่ไขไปสู่การกระทำอันอำมหิตนี้ ทำให้ความยุติธรรมบังเกิดในแดนจีนโบราณ"[7]
หนังสือได้รับการแปลเป็นภาษาอังกฤษหลายสำนวนดังนี้
เรื่องราวใน สี่เยฺวียนจี๋ลู่ ได้รับการดัดแปลงเป็นละครโทรทัศน์ฮ่องกงชื่อ สี่เยฺวียนลู่ (洗冤錄) เมื่อ ค.ศ. 2000
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.