สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศญี่ปุ่น
From Wikipedia, the free encyclopedia
เลสเบียน, เกย์, ไบเซ็กชวล และทรานส์เจนเดอร์ (แอลจีบีที) ในประเทศญี่ปุ่นเผชิญกับความท้าทายทางกฎหมายหลายด้าน กิจกรรมทางเพศเดียวกันถูกทำให้ผิดกฎหมายในระยะเวลาอันสั้นในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นระหว่าง ค.ศ. 1872–1881 จนมีการรับประมวลกฎหมายอาญานโปเลียนมาปรับใช้ในประเทศพร้อมด้วยหลักอายุที่ยอมให้ร่วมประเวณีได้ (age of consent)[2] คู่รักและครอบครัวที่มีคู่รักเป็นเพศเดียวกันไม่ได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายเฉกเช่นกับคู่รักที่เป็นเพศตรงข้ามกัน แม้ตั้งแต่ ค.ศ. 2015 บางเมืองและบางจังหวัดออก "ใบประกาศความสัมพันธ์" เชิงสัญลักษณ์เพื่อยอมรับความสัมพันธ์ของคู่รักเพศเดียวกัน ประเทศญี่ปุ่นเป็นเพียงประเทศเดียวในกลุ่ม 7 ที่ไม่ยอมรับการอยู่กินด้วยกันระหว่างคู่รักเพศเดียวกัน (same-sex union) ในรูปแบบใด[3] ในเดือนมีนาคม ค.ศ. 2021 ศาลแขวงซัปโปโระพิพากษาว่าการไม่ยอมรับการสมรสเพศเดียวกันเป็นการละเมิดบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ[4] ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022 ศาลแขวงโอซากะพิพากษากลับว่าไม่เป็นการละเมิดรัฐธรรมนูญ[5] ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 ศาลแขวงโตเกียวพิพากษาว่าการไม่มีกฎหมายรองรับการสมรสเพศเดียวกัน เป็นการขัดรัฐธรรมนูญ (unconstitutional state of affairs) แต่ไม่เป็นการละเมิดต่อรัฐธรรมนูญ[6] อย่างไรก็ตาม คำพิพากษาของศาลไม่มีผลทางกฎหมายทันที[7]
สิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศในประเทศญี่ปุ่น | |
---|---|
ตำแหน่งของประเทศญี่ปุ่น | |
กิจกรรมของบุคคลเพศเดียวกันชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ | ชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่ ค.ศ. 1882 |
อัตลักษณ์ทางเพศ/การแสดงออก | สามารถเปลี่ยนเพศทางกฎหมายได้ตั้งแต่ ค.ศ. 2004 หลังการผ่าตัดแปลงเพศและทำหมัน |
รับราชการทหาร | รับราชการทหารได้อย่างเปิดเผย |
ความคุ้มครองจากการถูกเลือกปฏิบัติ | เพศวิถีได้รับความคุ้มครองในบางเมืองแต่ไม่ถึงระดับชาติ[1] |
สิทธิในครอบครัว | |
การรับรอง ความสัมพันธ์ | ไม่มีการยอมรับความสัมพันธ์เพศเดียวกันทางกฎหมายในระดับรัฐบาลใด (มีการออกใบประกาศความสัมพันธ์เชิงสัญลักษณ์ในบางเขตพื้นที่) |
การรับบุตรบุญธรรม | ก้ำกึ่ง |
วัฒนธรรมและศาสนาหลักของประเทศญี่ปุ่นไม่มีหลักฐานทางประวัติศาสตร์ใดที่บ่งชี้ถึงความเป็นศัตรูต่อการรักร่วมเพศ[8] รายงานหลายครั้งระบุว่าประชาชนชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่สนับสนุนและยอมรับการรักร่วมเพศ โดยการสำรวจใน ค.ศ. 2019 ปรากฏผลว่ากว่าร้อยละ 68 เห็นด้วยว่าการรักร่วมเพศควรจะได้รับการยอมรับในสังคม ขณะที่ร้อยละ 22 ไม่เห็นด้วย[9] แม้จะมีพรรคการเมืองหลายพรรคไม่ได้แสดงท่าทีสนับสนุนหรือคัดค้านสิทธิของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างเปิดเผย แต่มีนักการเมืองแอลจีบีทีเปิดเผยหลายคนดำรงตำแหน่งอยู่ มีการผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้คนข้ามเพศ (ทรานส์เจนเดอร์) เปลี่ยนเพศทางกฎหมายได้เมื่อผ่านการผ่าตัดแปลงเพศและการทำหมันใน ค.ศ. 2003 บางเมือง รวมถึงโตเกียว มีการห้ามเลือกปฏิบัติเหตุเพศวิถี (sexual orientation) และอัตลักษณ์ทางเพศ (gender identity)[10] ในปีเดียวกันมีการผ่านกฎหมายอนุญาตให้คนข้ามเพศเปลี่ยนคำนำหน้าชื่อในเอกสารที่มีผลตามกฎหมาย โดยจะต้องผ่านการผ่าตัดแปลงเพศ, การทำหมัน และไม่มีบุตรอายุต่ำกว่า 20 ปี กฎหมายเป็นที่รู้จักในชื่อ "พระราชบัญญัติว่าด้วยคดีพิเศษเกี่ยวกับการรับมือสถานะทางเพศของผู้ที่มีอัตลักษณ์ทางเพศผิดปกติ" (性同一性障害者の性別の取扱いの特例に関する法律) หรือเรียกอย่างสั้น "กฎหมาย 111" มีผลใช้บังคับในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2004[11] และได้รับการเน้นย้ำหลักการโดยศาลสูงสุดญี่ปุ่นใน ค.ศ. 2019[12]
มีการจัดงาน "โตเกียวเรนโบว์ไพรด์" เป็นประจำทุกปีตั้งแต่ ค.ศ. 2012 โดยมีผู้เข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง[13] ผลสำรวจความคิดเห็น ค.ศ. 2015 ระบุว่า ชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่สนับสนุนการทำให้การสมรสเพศเดียวกันถูกกฎหมาย[14] ผลสำรวจอีกแห่งที่ทำในปีต่อ ๆ มาชี้ให้เห็นถึงระดับการให้ความสนับสนุนต่อการสมรสเดียวกันที่สูงขึ้นในหมู่ชาวญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนรุ่นใหม่[15] แต่ผลสำรวจ ค.ศ. 2020 ในกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศกว่า 10,000 คน ในประเทศญี่ปุ่น ระบุว่ามากกว่าร้อยละ 38 ถูกคุกคามหรือทำร้ายร่างกาย[16]
ในทางการเมือง หลังระยะเวลากว่าสามปีที่ในการศึกษาและปรึกษาหารือ คณะกรรมการพิเศษของพรรคเสรีประชาธิปไตยประกาศว่าจะมีการยก "ร่างกฎหมายความเข้าใจและการยกระดับ (สิทธิ) ของกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ" เข้าสู่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีความมุ่งหมายที่จะพัฒนาความเข้าใจในปัญหาของกลุ่มแอลจีบีที อย่างไรก็ตาม นักกิจกรรมสิทธิกลุ่มแอลจีบีทีวิจารณ์ว่าร่างกฎหมายพลาดเป้าในการไม่กล่าวถึงการสมรสเพศเดียวกันหรือการให้ความคุ้มครองการเลือกปฏิบัติ[17][18] ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2021 พรรคเสรีประชาธิปไตยประกาศว่าจะผ่านร่างดังกล่าวในสมัยประชุมสภาปัจจุบัน โดยตั้งว่าจะผ่านได้ภายในเดือนมิถุนายน ร่างกฎหมายระบุเพียงว่า ให้รัฐบาล "ส่งเสริมความเข้าใจกลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ" และไม่ได้ห้ามปรามการเลือกปฏิบัติแต่อย่างใด[19] ในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2023 ร่างกฎหมายว่าด้วยความเข้าใจของกลุ่มแอลจีบีทีผ่านทั้งสองสภา[20][21]