Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
สมเด็จพระสังฆราช (เขมร: សម្តេចព្រះសង្ឃរាជ สมฺเตจพฺระสงฺฆราช; อังกฤษ: Supreme Patriarch) เป็นประมุขของคณะสงฆ์กัมพูชา
สมเด็จพระมหาสังฆราช ในพระราชอาณาจักรกัมพูชา សម្ដេចព្រះមហាសង្ឃរាជ នៃព្រះរាជាណាចក្រកម្ពុជា | |
---|---|
ผู้ดำรงตำแหน่งคนปัจจุบัน สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (นนท์ แงด ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค) สมเด็จพระมหาสังฆราชรักษาการ ตั้งแต่ ค.ศ. 2024-ปัจจุบัน | |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์กัมพูชา |
วาระ | ตลอดพระชนม์ชีพ |
สถาปนา | ค.ศ. 2006 |
ในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีคณะสงฆ์เถรวาทอยู่ 2 นิกายหลัก คือ คณะมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย ได้จัดการปกครองให้คณะสงฆ์แต่ละนิกายมีประมุขดำรงตำแหน่งพระสังฆราชของตนเองเป็นเอกเทศ พระสงฆ์ผู้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราชแต่ละพระองค์นั้นมีสมณศักดิ์ต่างๆ กัน ดังปรากฏตามบัญชีรายพระนามข้างท้ายบทความ แต่ในปัจจุบัน จะทรงมีสมณศักดิ์ดังต่อไปนี้
ในยุคหลังได้มีการเพิ่มพูนสมณศักดิ์ของสมเด็จพระสังฆราชให้สูงขึ้นเป็น "สมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี" (เขมร: សម្តេចព្រះអគ្គមហាសង្ឃរាជាធិបតី สมเตจพระอคฺคมหาสงฺฆราชาธิบตี) และมีอำนาจปกครองคณะสงฆ์ทั่วประเทศ ทั้งนี้ ต่อมาได้มีการสถาปนาให้สมเด็จพระสังฆราชคณะสงฆ์ธรรมยุตินิกายมีสถานะเป็น "มหาสังฆราชาธิบดี" เช่นกัน ในราชทินนาม "สมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี" (เขมร: សម្តេចព្រះអភិសិរីសុគន្ធាមហាសង្ឃរាជាធិបតី สมฺเตจพฺระอภิสิรีสุคนฺธามหาสงฺฆราชาธิบตี) แต่มีอำนาจปกครองเฉพาะคณะสงฆ์ธรรมยุติกนิกายเท่านั้น
แต่เดิมมาการปกครองคณะสงฆ์กัมพูชานั้นไม่มีตำแหน่งสกลสังฆปริณายก หรือผู้ปกครองสงฆ์ทั้งหมดทุกนิกายทั่วสังฆมณฑล คณะสงฆ์แต่ละนิกายต่างก็มีสมเด็จพระสังฆราชเป็นของตนเองและแยกกันปกครอง ไม่ขึ้นแก่กันมาตลอด กระทั่งกองทัพเขมรแดงได้เข้ายึดอำนาจการปกครองประเทศกัมพูชาแบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดในปี ค.ศ. 1975 การปกครองของคณะสงฆ์ทั้งสองนิกายในช่วงเวลาดังกล่าวจึงขาดช่วงไปอย่างสิ้นเชิง เนื่องจากรัฐบาลกัมพูชาประชาธิปไตยของเขมรแดงมีการกวาดล้างศาสนาและลัทธิความเชื่อต่างๆ ทั่วประเทศ พระสงฆ์ในพุทธศาสนาต้องถูกบังคับสึกให้ออกมาใช้แรงงานหรือถูกสังหารในกรณีที่ไม่ยอมสึก บางส่วนก็ต้องลี้ภัยออกไปยังต่างประเทศ
เมื่อแนวร่วมสามัคคีสงเคราะห์ชาติกัมพูชาได้โค่นล้มการปกครองของเขมรแดงและจัดตั้งรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาขึ้นแทนที่ในปี ค.ศ. 1979 แล้ว พุทธศาสนาในกัมพูชาจึงค่อยๆ ได้รับการฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ใน ค.ศ. 1981 คณะสงฆ์กัมพูชาได้มีการปรับปรุงโครงสร้างการปกครองตามอย่างคณะสงฆ์เถรวาทในประเทศเวียดนาม โดยจัดให้มีการปกครองคณะสงฆ์รวมกันเป็นคณะเดียวอยู่ในกำกับของรัฐบาล ไม่แบ่งแยกนิกาย มีตำแหน่งประมุขคณะสงฆ์เรียกว่า ประธานการกสงฆ์ โดยพระเทพ วงศ์ (ទេព វង្ស เทพ วงฺส) ได้รับเลือกเป็นประธานการกสงฆ์ที่ปรับปรุงใหม่[1][2]
หลังจากกัมพูชาลงนามในข้อตกลงสันติภาพปารีส ค.ศ. 1991 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ได้ทรงสถาปนาพระเทพ วงศ์ เป็นสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี สมเด็จพระสังฆราชในคณะมหานิกาย และสถาปนาสมเด็จพระองค์ครู บัวร์ กรี (បួរ គ្រី บัวร กรี) เป็นสมเด็จพระสุคนธาธิบดี สมเด็จพระสังฆราชในคณะธรรมยุติกนิกาย ทำให้การปกครองคณะสงฆ์ประเทศกัมพูชากลับมาแยกกันปกครองเป็น 2 นิกาย และมีผู้ดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆราช 2 พระองค์อีกครั้ง ทั้งนี้ รัฐธรรมนูญกัมพูชายังกำหนดให้สมเด็จพระสังฆราชทั้งสองพระองค์เป็นสมาชิกโดยตำแหน่งของกรมปรึกษาราชบัลลังก์ ซึ่งมีหน้าที่คัดเลือกผู้สืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์กัมพูชา[3]
ถึงปี ค.ศ. 2006 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ ทรงสถาปนาสมเด็จเทพ วงศ์ เป็นสมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี สมเด็จพระมหาสังฆราชในพระราชอาณาจักรกัมพูชา นับเป็นบุคคลแรกในรอบ 150 ปีที่ได้รับตำแหน่งพิเศษดังกล่าว[2] และสถาปนาพระนนท์ แงด (នន្ទ ង៉ែត) เป็นสมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี สมเด็จพระสังฆนายกในคณะมหานิกายมาจนถึงปัจจุบัน[2] ต่อมาในปี ค.ศ. 2007 จึงได้มีการสถาปนาสมเด็จบัวร์ กรี ขึ้นเป็นสมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (សម្តេចព្រះអភិសិរីសុគន្ធាមហាសង្ឃរាជាធិបតី สมฺเตจพฺระอภิสิรีสุคนฺธามหาสงฺฆราชาธิบตี) สมเด็จพระมหาสังฆราชในคณะธรรมยุติกนิกายในพระราชอาณาจักรกัมพูชา โดยไม่ปรากฏว่ามีการแต่งตั้งผู้ใดขึ้นดำรงตำแหน่งสมเด็จพระสังฆนายกในคณะธรรมยุติกนิกายทดแทนอย่างเช่นในคณะมหานิกาย
หมายเหตุ: ปีพุทธศักราชในที่นี้ใช้วิธีการคำนวณพุทธศักราชอย่างที่ใช้ในประเทศไทย ซึ่งจะเร็วกว่าพุทธศักราชที่ใช้ในประเทศกัมพูชาอยู่ 1 ปี
ลำดับที่ | พระรูป | พระนาม | พระนามเดิม | ฉายา | สถิต ณ วัด | ประสูติ-สิ้นพระชนม์ (ค.ศ./พ.ศ.) |
พระชนมายุ (ปี) | ดำรงตำแหน่ง (ค.ศ./พ.ศ.) |
รวมระยะเวลา (ปี) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สมเด็จพระมหาสังฆราช (เนิล เตียง สุวณฺณเกสโร) | និល ទៀង เนิล เตียง, เที่ยง | សុវណ្ណកេសរោ สุวณฺณเกสโร | วัดอุณาโลม | 1823-1913 2366-2456 | 90 | 1859-1913 2402-2456 | 54 | ||
2 | สมเด็จพระธรรมลิขิต (แก อุก อินฺทตฺเถโร) | កែ អ៊ុក แก อุก | ឥន្ទត្ថេរោ อินฺทตฺเถโร | วัดอุณาโลม | 1851-1936 2394-2479 | 86 | 1914-1930 2458-2473 | 16 | [4] | |
3 | สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (ปรัก ฮิน สุธมฺมตฺเถโร) | ប្រាក់ ហ៊ិន ปรัก ฮิน | សុធម្មត្ថេរោ สุธมฺมตฺเถโร | วัดสาละวัน | 1863-1947 2406-2490 | 84 | 1930-1947 2473-2490 | 17 | [5] | |
4 | สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (ชวน ณาต โชตญาโณ) | ជួន ណាត ชวน ณาต | ជោតញ្ញាណោ โชตญาโณ | วัดอุณาโลม | 1883-1969 2426-2512 | 86 | 1948-1969 2491-2512 | 21 | ||
5 | สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (ฮวต ตาต วชิรปญฺโญ) | ហួត តាត ฮวต ตาต | វជិរបញ្ញោ วชิรปญฺโญ | วัดอุณาโลม | 1892-1975 2435-2518 | 83 | 1970-1975 2513-2518 | 5 | ถูกกองทัพเขมรแดงนำตัวไปปลงพระชนม์ที่เมืองอุดงค์มีชัย จังหวัดกำปงสปือ[6] | |
6 | สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (เทพ วงศ์ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคิโก) | ទេព វង្ស เทพ วงศ์ | ឧបេក្ខាសម្ពោជ្ឈង្គិកោ อุเปกฺขาสมฺโพชฺฌงฺคิโก[7] | วัดอุณาโลม | 1932-2024 2475-2567 | 92 | 1991-2006 2534-2549 | 15 | เลื่อนสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระอัครมหาสังฆราชาธิบดี | |
7 | สมเด็จพระมหาสุเมธาธิบดี (นนท์ แงด ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค) | នន្ទ ង៉ែត นนท์ แงด | បស្សទ្ធិសម្ពោជ្ឈង្គោ ปสฺสทฺธิสมฺโพชฺฌงฺโค | วัดปทุมวดีราชวราราม[8] | 1922-ปัจจุบัน 2465-ปัจจุบัน | 97 | 2006-ปัจจุบัน 2549-ปัจจุบัน | 13 | สมเด็จพระมหาสังฆราชรักษาการ
ตั้งแต่ ค.ศ. 2024-ปัจจุบัน |
ลำดับที่ | พระรูป | พระนาม | พระนามเดิม | ฉายา | สถิต ณ วัด | ประสูติ-สิ้นพระชนม์ (ค.ศ./พ.ศ.) |
พระชนมายุ (ปี) | ดำรงตำแหน่ง (ค.ศ./พ.ศ.) |
รวมระยะเวลา (ปี) | หมายเหตุ |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | สมเด็จพระสุคนธาธิบดี (ปาน ปญฺญาสีโล) | ប៉ាន ปาน | បញ្ញាសីលោ ปญฺญาสีโล | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1826-1893 2369-2436 | 67 | 1855–1893 2398–2436 | 38 | [9] | |
2 | สมเด็จพระมงคลเทพาจารย์ (เอี่ยม ภทฺทคู) | អៀម เอี่ยม | ភទ្ទគូ ภทฺทคู | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1849-1922 2392-2465 | 73 | 1893-1922 2436-2465 | 29 | [10] | |
3 | สมเด็จพระมงคลเทพาจารย์ (สุก ปญฺญาทีโป) | ស៊ុក สุก | បញ្ញាទីបោ ปญฺญาทีโป | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1861-1943 2404-2486 | 82 | 1923-1943 2466-2485 | 11 | [10] | |
4 | สมเด็จพระสุธรรมาธิบดี (อุง สะเรย พุทฺธนาโค) | អ៊ុង ស្រី อุง สะเรย | ពុទ្ធនាគោ พุทธฺนาโค | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1870-1956 2413-2498 | 85 | 1943-1956 2486-2498 | 13 | [10] | |
5 | สมเด็จพระมหาสุธรรมาธิบดี (ภุล เทส อินฺทญาโณ) | ភុល ទេស ภุล เทส | ឥន្ទញាណោ อินฺทญาโณ | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1891-1966 2434-2509 | 75 | 1956-1966 2498-2509 | 10 | [10] | |
6 | สมเด็จพระมหาสุธรรมาธิบดี (เทพ เลือง คนฺธโร) | ទេព លឿង เทพ เลือง | គន្ធរោ คนฺธโร | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1883-1975 2426-2518 | 92 | 1966-1975 2509-2518 | 9 | สิ้นพระชนม์ก่อนเสียกรุงพนมเปญให้แก่เขมรแดงเพียง 2 วัน[11][10] | |
7 | สมเด็จพระสังฆราช (ฮี เจีย) | ហ៊ី ជា ฮี เจีย | ไม่ทราบ | วัดปทุมวดีราชวราราม | ไม่ทราบ-1975 ไม่ทราบ-2518 | ไม่ทราบ | 1975 2518 | ไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ | รักษาการสมเด็จพระสังฆราชแห่งคณะธรรมยุติกนิกายกัมพูชา[10] ถูกกองทัพเขมรแดงปลงพระชนม์ | |
8 | สมเด็จพระอภิสิริสุคนธามหาสังฆราชาธิบดี (บัวร์ กรี จนฺทคิริโก) | បួរ គ្រី บัวร์ กรี | ចន្ទតិរិកោ จนฺทคิริโก | วัดปทุมวดีราชวราราม | 1940-ปัจจุบัน 2483-ปัจจุบัน | 79 | 1991-ปัจจุบัน 2534-ปัจจุบัน | 28 | ดำรงสมณศักดิ์เป็น "สมเด็จพระสุคนธาธิบดี" จนถึง พ.ศ. 2550 จึงได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระมหาสังฆราชในคณะธรรมยุติกนิกาย |
ประธานการกสงฆ์กัมพูชาเป็นตำแหน่งประมุขของคณะสงฆ์กัมพูชา (ไม่มีการแยกคณะมหานิกายและธรรมยุติกนิกาย) ในสมัยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา
ในการเลือกพระเทพ วงศ์ เป็นประธานการกสงฆ์กัมพูชาโดยรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชาภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน นั้น ปรากฏว่าไม่เป็นที่ยอมรับของบรรดาพระสงฆ์กัมพูชาที่ลี้ภัยทางการเมืองอยู่ต่างประเทศ เนื่องจากพระเทพ วงศ์ ด้อยอาวุโสทั้งอายุและพรรษากว่าพระหลายๆ รูปในเวลานั้น และมีข้อครหาในการอิงแอบกับฝ่ายการเมืองของรัฐบาลฮุน เซน คณะสงฆ์ดังกล่าวจึงได้ประชุมกันที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และคัดเลือกให้สมเด็จพระมหาโฆสานนท์ (วา ยาว) ทำหน้าที่เป็นประธานคณะสงฆ์กัมพูชา โดยไม่ได้เกี่ยวข้องหรือเป็นที่ยอมรับจากรัฐบาลที่พนมเปญแต่อย่างใด[12]
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.