![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/b/bd/INFARCT.jpg/640px-INFARCT.jpg&w=640&q=50)
สมองขาดเลือดเฉพาะที่
From Wikipedia, the free encyclopedia
สมองขาดเลือดเฉพาะที่ (อังกฤษ: brain ischemia) หรือสมองใหญ่ขาดเลือดเฉพาะที่ (อังกฤษ: cerebral ischemia) หรือหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉพาะที่ (อังกฤษ: cerebrovascular ischemia) เป็นภาวะซึ่งมีเลือดไหลไปสมองไม่เพียงพอต่อความต้องการทางเมแทบอลิซึม[1] ทำให้มีปริมาณออกซิเจนลดลงหรือภาวะสมองใหญ่มีออกซิเจนน้อย แล้วทำให้เนื้อเยื่อสมองตายหรือเนื้อสมองใหญ่ตายเหตุขาดเลือด / โรคหลอดเลือดสมองขาดเลือดเฉพาะที่[2] เป็นชนิดย่อยของโรคหลอดเลือดสมองร่วมกับอาการเลือดออกใต้อะแร็กนอยด์ (subarachnoid hemorrhage) และอาการเลือดออกในสมองใหญ่[3]
สมองขาดเลือดเฉพาะที่ | |
---|---|
![]() แว่นซีทีสแกนของสมองแสดงเนื้อสมองใหญ่ตายเหตุขาดเลือดครึ่งซีกขวา (ด้านซ้ายของภาพ) | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | G45.9, I67.8 |
ICD-9 | 435X,437X |
MeSH | D002545 |
การขาดเลือดเฉพาะที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่อเมแทบอลิซึมของสมอง ลดอัตราเมแทบอลิซึมและวิกฤตพลังงาน[4]
มีการขาดเลือดเฉพาะที่สองชนิด คือ การขาดเลือดเฉพาะที่จุดรวม (focal ischemia) ซึ่งจำกัดอยู่บริเวณหนึ่งของสมอง กับการขาดเลือดเฉพาะที่ทั่วไป (global ischemia) ซึ่งครอบคลุมเนื้อเยื่อสมองบริเวณกว้าง
อาการหลักเกี่ยวข้องกับการมองเห็น การขยับกายและการพูดบกพร่อง สาเหตุหลักของสมองขาดเลือดเฉพาะที่มีตั้งแต่ภาวะโลหิตจางเซลล์รูปเคียว (sickle cell anemia) ไปจนถึงความบกพร่องแต่กำเนิดของหัวใจ อาการของสมองขาดเลือดเฉพาะที่อาจมีหมดสติ ตาบอด มีปัญหาการประสานงาน และความอ่อนเปลี้ยในกาย ผลอื่นที่อาจเกิดจากสมองขาดเลือดเฉพาะที่ คือ โรคหลอดเลือดสมอง หัวใจหยุดเต้น และความเสียหายต่อสมองแบบผันกลับไม่ได้
การขัดขวางการไหลของเลือดไปสมองเกิน 10 วินาทีทำให้หมดสติ และการขัดขวางการไหลเกินสองสามนาทีโดยทั่วไปทำให้สมองเสียหายแบบผันกลับไม่ได้[5] ใน ค.ศ. 1974 ฮอสมันน์และซิมเมอร์มันน์แสดงว่าการขาดเลือดเฉพาะที่ที่ชักนำในสมองสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเป็นเวลาหนึ่งชั่วโมงสามารถแก้ไขได้อย่างน้อยบางส่วน การค้นพบนี้ทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการรักษาหลังสมองขาดเลือดก่อนความเสียหายนั้นผันกลับไม่ได้[6]