![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/d/d7/Wat_Soi_Thong_Ahoerstemeier_6.jpg/640px-Wat_Soi_Thong_Ahoerstemeier_6.jpg&w=640&q=50)
วัดสร้อยทอง
พระอารามหลวงในเขตบางซื่อ / From Wikipedia, the free encyclopedia
วัดสร้อยทอง หรือ วัดสร้อยทองพระอารามหลวง เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดสามัญ ตั้งอยู่ริมถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร เดิมชื่อ "วัดซ่อนทอง" เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นประมาณปี พ.ศ. 2394 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา
วัดสร้อยทอง | |
---|---|
![]() พระเจดีย์ วัดสร้อยทอง | |
![]() | |
ที่ตั้ง | ถนนประชาราษฎร์ สาย 1 แขวงบางซื่อ เขตบางซื่อ กรุงเทพมหานคร 10800 |
ประเภท | พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดสามัญ |
นิกาย | มหานิกาย |
พระพุทธรูปสำคัญ | หลวงพ่อเหลือ |
เจ้าอาวาส | พระราชปริยัติวัชรสุธี (ปรีชา จิตตปริสุทโธ) |
![]() |
วัดสร้อยทอง ไม่ปรากฏนามและประวัติของผู้สร้าง แต่มีข้อสันนิษฐานว่าคงเป็นผู้ที่สืบเชื้อสายมาจาก เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์ (แพ บุนนาค) ภายในวัดมีปูชนียวัตถุที่สำคัญคือ พระพุทธรูปหล่อด้วยโลหะทองเหลือง นามว่า หลวงพ่อเหลือ สร้างจากโลหะที่เหลือจากการหล่อพระประธาน ในปี พ.ศ. 2445 ภายในเกศบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระอรหันต์ 5 พระองค์[1]
ในปี พ.ศ. 2445–2447 วัดซึ่งในขณะนั้นมี หลวงปู่เบี้ยว เป็นเจ้าอาวาสวัดได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ มีประชาชนชาวไทยและชาวญวน เป็นกำลังสำคัญในการบูรณะช่วงเวลาดังกล่าว โดยใช้งบประมาณ 10,000 บาท, ในวันที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2488 ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 สะพานพระราม 6 ได้ถูกทิ้งระเบิดลงโดยฝ่ายสัมพันธมิตร โดยมีระเบิดจำนวน 14 ลูก ตกใส่บริเวณวัดสร้อยทองได้รับความเสียหายอย่างมหาศาล มีสิ่งที่เหลือรอดพ้นจากระเบิดเพียงแค่ พระพุทธรูปหลวงพ่อเหลือ หอระฆังและเจดีย์ริมคลองบางซ่อน เท่านั้น[1]
ในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2545 วัดสร้อยทอง ได้รับการยกฐานะจากวัดราษฎรเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ ซึ่งได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาในวันที่ 18 กรกฎาคม ปีเดียวกัน[2] ปัจจุบันวัดมีพื้นที่รวม 15 ไร่ 3 งาน 78 ตารางวา