Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ในสาขาการแพทย์ รายงานผู้ป่วย[1] หรือ รายงานกรณี[1] หรือ รายงานเค้ส[2] (อังกฤษ: case report) เป็นรายงานอย่างละเอียดเกี่ยวกับอาการ อาการแสดง การวินิจฉัย การรักษาพยาบาล และการติดตามผู้ป่วยคนหนึ่ง และอาจจะมีข้อมูลทางประชากรอื่น ๆ เกี่ยวกับผู้ป่วย ปกติจะเป็นรายงานเกี่ยวกับเค้สที่แปลกหรือใหม่ และบางครั้งจะมีการทบทวนวรรณกรรมของเค้สอื่น ๆ ที่ได้รับรายงานมาแล้ว
รายงานเค้สโดยมากจะมีประเด็น 6 อย่างคือ[3]
รายงานเค้สปกติจะพิจารณาว่า เป็นรูปแบบหนึ่งของหลักฐานโดยเรื่องเล่า (anecdotal evidence)[4] เพราะมีความจำกัดโดยธรรมชาติของระเบียบวิธีที่ใช้ รวมทั้งการขาดการสุ่มตัวอย่างทางสถิติ รายงานเค้สจัดเป็นหลักฐานที่เชื่อถือได้น้อยที่สุดในลำดับชั้นหลักฐานทางคลินิก เช่นเดียวกับ case series[5] แต่ก็ยังมีประโยชน์ในงานวิจัยทางการแพทย์และเวชปฏิบัติอิงหลักฐาน[6] โดยเฉพาะก็คือ ช่วยให้รู้จักโรคใหม่ ๆ และผลที่ไม่พึงประสงค์ของการรักษาพยาบาล[7] (ยกตัวอย่างเช่น ความสัมพันธ์ระหว่างการให้ยาคุมภูมิคุ้มกัน thalidomide แก่หญิงตั้งครรภ์ กับการพัฒนาอย่างผิดปกติของทารกในครรภ์ รู้จักเป็นครั้งแรกเนื่องจากรายงานเค้สกรณีหนึ่งโดยเฉพาะ[8][9]) รายงานเค้สมีบทบาทในการศึกษาเกี่ยวกับอาการไม่พึงประสงค์จากยา (pharmacovigilance)[7] ช่วยให้เข้าใจขอบเขตทางคลินิกของโรคหายากและอาการปรากฏที่ไม่ทั่วไปของโรคสามัญ[6] ช่วยสร้างสมมุติฐานเพื่อการศึกษารวมทั้งกลไกของโรค[6] และอาจช่วยแนะนำแนวทางในการปรับการรักษาพยาบาลให้เข้ากันกับคนไข้แต่ละคน[6]
ผู้สนับสนุนแบบงานศึกษาได้ร่างข้อดีอย่างย่อ ๆ ของรายงานเค้ส คือ ทั้ง case report (รายงานเค้ส) และ case series มีความไวสูงในการตรวจจับความแปลกใหม่ และดังนั้นจะดำรงเป็นหลักสำคัญในความก้าวหน้าทางการแพทย์ และสามารถให้ไอเดียใหม่ ๆ มากมายทางการแพทย์[10] เปรียบเทียบกับการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุมซึ่งสามารถตรวจสอบตัวแปรอย่างหนึ่งหรือไม่กี่อย่าง ที่ไม่สามารถสะท้อนสภาพความเป็นจริงของสถานการณ์ทางการแพทย์ที่ซับซ้อน รายงานเค้สสามารถให้รายละเอียดด้านต่าง ๆ มากมายเกี่ยวกันสถานการณ์ของคนไข้ (เช่น ประวัติผู้ป่วย การตรวจร่างกาย ข้อวินิจฉัย สภาพจิตและสังคม และการดูแลติดตาม)[11]
แต่เพราะว่า เค้สที่ทั่วไปไม่แปลกมักจะไม่มีการตีพิมพ์ ดังนั้น การใช้รายงานเค้สเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์จะต้องระมัดระวังเกี่ยวกับความเอนเอียงในการตีพิมพ์ รายงานเค้สบางงานอาจจะมีการทบทวนวรรณกรรมทางการแพทย์อย่างละเอียดที่เกี่ยวข้องกับประเด็น และบางครั้งแม้แต่มีการปริทัศน์เป็นระบบของหลักฐานที่มีทั้งหมด รายงานที่ใช้วิธีการเช่นนี้สามารถกำหนดโดยใช้คำเช่นว่า "case report and review of the literature"
รายงานเค้สมีบทบาทในการศึกษาทางการแพทย์ คือเป็นส่วนของการศึกษาแบบใช้กรณีคนไข้[6]
ข้อดีของรายงานคนไข้อีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถตีพิมพ์ได้อย่างรวดเร็ว (ถ้าเทียบกับการศึกษาแบบอื่น ๆ ที่ละเอียดกว้างขวางยิ่งกว่าเช่นการทดลองแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม) ซึ่งสามารถใช้เป็นสื่อข้อมูลแบบสั้น ๆ ที่ทำได้อย่างรวดเร็วระหว่างแพทย์รักษาที่งานยุ่ง ที่ไม่มีเวลาหรือทรัพยากรที่จะทำงานวิจัยที่ละเอียดกว้างขวางยิ่งกว่านั้น[11]
คุณภาพในการรายงานกรณีคนไข้โดยเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์นั้นมีความต่าง ๆ กัน แต่การรายงานที่ไม่สมบูรณ์จะขัดขวางการใช้รายงานเค้สเพื่อออกแบบการทดลองหรือเพื่อแนะแนวทางเวชปฏิบัติทางคลินิก[6] ดังนั้น จึงมีการพัฒนาแนวทางการรายงาน (reporting guideline) ที่กำลังเป็นไปหลายแนว ที่จะช่วยสร้างความโปร่งใสและความสมบูรณ์ของข้อมูลที่ให้ในกรณีคนไข้แต่ละกรณี[6] EQUATOR Network[12] (ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มนานาชาติมีจุดมุ่งหมายที่จะสนับสนุนการรายงานงานวิจัยสุขภาพที่โปร่งใสและแม่นยำ เพื่อเพิ่มคุณค่าและความน่าเชื่อถือได้ของผลงานวิจัย) ได้ออกแนวทาง CARE (ย่อมาจาก CAse REport) ที่มีรายการตรวจสอบ ที่เข้าถึงได้ทางเว็บไซต์ของโครงการ[12] และโดยงานที่พิมพ์ในปี ค.ศ. 2013[6]
รายงานเค้สเป็นบทความบรรยายของผู้เชี่ยวชาญที่ร่างการวินิจฉัย การบำบัดรักษา และผลการรักษาของคนไข้จำนวนหนึ่ง ข้อมูลจากรายงานเค้สสามารถใช้เป็นฟี้ดแบ็กของแนวทางการปฏิบัติทางคลินิก สามารถให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับประสิทธิผล ผลที่ไม่พึงประสงค์ และค่าใช้จ่ายของการรักษา สามารถเผยแพร่เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ ทางวิทยาศาสตร์ และทางการศึกษา รายการเช็ค 13 รายการรวมทั้งวิธีการเขียนชื่อ คำหลัก (keyword) บทคัดย่อ (abstract) บทแนะนำ (introduction) ข้อมูลคนไข้ สิ่งที่พบทางคลินิก ไทม์ไลน์ วินิจฉัย วิธีการบำบัด (therapeutic interventions) การติดตามดูแล (follow-up) และผล, บทสนทนา (discussion), มุมมองคนไข้ (patient perspective), และการยินยอมอนุญาตของคนไข้ (informed consent)[6]
วารสารนานาชาติจำนวนมากรับพิมพ์รายงานเค้ส แต่ว่าจะจำกัดจำนวนในฉบับพิมพ์ เพราะว่า จะมีผลต่อค่าวัดการอ้างอิงบทความ (impact factor) ของวารสาร บ่อยครั้งวารสารจะเผยแพร่รายงานทางอินเทอร์เน็ต แต่ว่าก็ยังต้องเสียค่าสมาชิกเพื่อจะเปิดดู แต่ว่า เริ่มมีวารสารจำนวนหนึ่งที่อุทิศพิมพ์แต่รายงานเค้สล้วน ๆ และเปิดให้เข้าถึงได้อย่างเสรี (open access) วารสารแรกเช่นนี้รายแรกเริ่มเผยแพร่ในปี ค.ศ. 2001 คือ วารสาร Grand Rounds[13] วารสารอื่น ๆ รวมทั้ง Case Reports in Medicine (รายงานเค้สในเวชศาสตร์)[14] Journal of Medical Case Reports (วารสารรายงานเค้สทางการแพทย์), Oncology Reports (รายงานวิทยาเนื้องอก), Oncology Letters (จดหมายวิทยาเนื้องอก) และ Cases Journal (วารสารกรณีผู้ป่วย); ซึ่งล้วนแต่เป็นวารสารทางการแพทย์ในสาขาการแพทย์ต่าง ๆ ที่มีการปริทัศน์โดยผู้ชำนาญงาน
Cases Journal พึ่งรวมตัวกับ Journal of Medical Case Reports แต่ก็ยังมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง ส่วน BMJ Case Reports (รายงานเค้สของวารสารการแพทย์ BMJ) เป็นวารสารออนไลน์ มีการปริทัศน์โดยผู้ชำนาญ ที่พิมพ์กรณีผู้ป่วยในทุก ๆ สาขา ส่วน Radiology Case Reports (รายงานเค้สรังสีวิทยา)[15] และ Journal of Radiology Case Reports (วารสารรายงานเค้สรังสีวิทยา)[16] เป็นวารสารที่เข้าถึงได้อย่างเสรี ที่มีการปริทัศน์โดยผู้ชำนาญ ที่พุ่งความสนใจไปที่การสร้างภาพรังสี (medical imaging) ส่วน Journal Of Surgical Case Reports (วารสารรายงานเค้สศัลยกรรม)[17] เป็นวารสารที่เข้าถึงได้อย่างเสรี ที่มีการปริทัศน์โดยผู้ชำนาญ ที่พิมพ์รายงานในสาขาศัลยกรรม ส่วน Journal of Orthopaedic Case Reports (วารสารรายงานเค้สออร์โทพีดิกส์)[18] เป็นวารสารที่เข้าถึงได้อย่างเสรี ที่มีการปริทัศน์โดยผู้ชำนาญ ส่วน Oncology Reports และ Oncology Letters พิมพ์รายงานเค้สโดยเข้าถึงได้อย่างเสรีอย่างล้วน ๆ และมีการปริทัศน์โดยผู้ชำนาญ ในสาขาวิทยาเนื้องอก
ยังมีเว็บไซต์จำนวนหนึ่งอีกด้วย ที่เปิดโอกาสให้คนไข้แจ้งกรณีของตนเพื่อแชร์กับผู้อื่น PatientsLikeMe (คนไข้เหมือนกับฉัน)[19] และ Treatment Report (รายงานการรักษา)[20] เป็นตัวอย่างเว็บไซต์ประเภทนี้
คำว่า case report ก็มีการใช้ด้วยในสาขาการศึกษาอื่น ๆ
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.