![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/52/2019-03-30_Fu%25C3%259Fball%252C_M%25C3%25A4nner%252C_1._Bundesliga%252C_RB_Leipzig_-_Hertha_BSC_StP_3705_LR10_by_Stepro_%2528cropped%2529.jpg/640px-2019-03-30_Fu%25C3%259Fball%252C_M%25C3%25A4nner%252C_1._Bundesliga%252C_RB_Leipzig_-_Hertha_BSC_StP_3705_LR10_by_Stepro_%2528cropped%2529.jpg&w=640&q=50)
รัล์ฟ รังนิค
ผู้จัดการทีมฟุตบอลชาวเยอรมัน / From Wikipedia, the free encyclopedia
รัล์ฟ รังนิค (เยอรมัน: Ralf Rangnick; เกิด 29 มิถุนายน ค.ศ. 1958) เป็นผู้จัดการทีมชาวเยอรมัน ผู้อำนวยการกีฬา และอดีตนักฟุตบอล[3][4] ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติออสเตรีย
![]() รังนิคในปี 2019 | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | รัล์ฟ รังนิค | ||
วันเกิด | (1958-06-29) 29 มิถุนายน ค.ศ. 1958 (66 ปี) | ||
สถานที่เกิด | บัคนัง เยอรมนีตะวันตก | ||
ส่วนสูง | 1.81 m (5 ft 11 1⁄2 in)[1] | ||
ตำแหน่ง | กองกลางตัวรับ | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | ออสเตรีย (ผู้จัดการทีม) | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
1976–1979 | เฟาเอ็ฟเบ ซตุทท์การ์ท 2 | ||
1979–1980 | Southwick | ||
1980–1982 | VfR Heilbronn | 66 | (6) |
1982–1983 | Ulm 1846 | 32 | (0) |
1983–1985 | FC Viktoria Backnang | ||
1987–1988 | TSV Lippoldsweiler | ||
จัดการทีม | |||
1983–1985 | วิคทอเรีย บัคนัง | ||
1987–1988 | TSV Lippoldsweiler | ||
1988–1990 | เอ็สเซ คอร์พ | ||
1995–1996 | เอ็สเอ็สเฟา รียูทนิเทน | ||
1997–1999 | อุล์ม 1846 | ||
1999–2001 | เฟาเอ็ฟเบ ชตุทการ์ท | ||
2001–2004 | ฮันโนเฟอร์ 96 | ||
2004–2005 | ชัลเคอ 04 | ||
2006–2010 | 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ | ||
2011 | ชัลเคอ 04 | ||
2015–2016 | แอร์เบ ไลพ์ซิช | ||
2018–2019 | แอร์เบ ไลพ์ซิช | ||
2021–2022[2] | แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด (ชั่วคราว) | ||
2022– | ออสเตรีย | ||
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น |
ภายหลังจากไม่ประสบความสำเร็จในอาชีพนักฟุตบอล รังนิคได้เริ่มต้นอาชีพผู้ฝึกสอนใน ค.ศ. 1983 ในวัย 25 ปี ต่อมาใน ค.ศ. 1997 เขาได้รับการจ้างจากสโมสร เอสเอสวี อุล์ม 1846 ซึ่งเป็นสโมสรที่เขาเคยเล่นอาชีพ โดยรังนิคสามารถพาทีมชนะเลิศการแข่งขันลีกได้ในฤดูกาลแรกที่คุมทีม ก่อนจะย้ายไปคุมทีมเฟาเอ็ฟเบ ชตุทการ์ท สโมสรในบุนเดิสลีกา และพาทีมชนะเลิศยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพใน ค.ศ. 2000 แต่ก็ถูกปลดในเวลาต่อมาจากผลงานอันย่ำแย่ ต่อมาใน ค.ศ. 2001 รังนิคไปคุมทีมฮันโนเฟอร์ 96 ในซไวเทอบุนเดิสลีกา แต่ก็ถูกปลดใน ค.ศ. 2004 ต่อมา รังนิคไปร่วมงานกับชัลเคอ 04 ในช่วงเวลาสั้น ๆ ก่อนจะไปคุมทีมเทเอ็สเก 1899 ฮ็อฟเฟินไฮม์ ใน ค.ศ. 2006 ซึ่งเขาพาทีมเลื่อนชั่นขึ้นมาสู่บุนเดิสลีกาได้สำเร็จ ก่อนจะลาทีมใน ค.ศ. 2011 เพื่อกลับไปร่วมงานกับชัลเคอ 04 และพาทีมชนะเลิศเดเอ็ฟเบ-โพคาล[5] และเข้าถึงรอบรองชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปีนั้น ก่อนจะไปรับตำแหน่งผู้อำนวยการกีฬาให้กับสโมสรเร็ดบุลซัลทซ์บวร์คในออสเตรีย และแอร์เบ ไลพ์ซิชในเยอรมนี และยังทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนให้แก่แอร์เบ ไลพ์ซิชสองครั้งในฤดูกาล 2015–16 และ 2018–19
ในระหว่างการร่วมงานกับเร็ดบุล รังนิคมีส่วนสำคัญในการวางรากฐานและระบบทีมเพื่อแข่งขันในฟุตบอลยุโรป เขามีบทบาทในการดูแลระบบเยาวชน รวมถึงการเป็นแมวมองในการค้นหาผู้เล่นทักษะดีเข้ามาสู่ทีม และยังเป็นผู้นำปรัชญาการเล่นเกมรุกอันดุดันมาสู่สโมสร[6] ส่งผลให้สโมสรเร็ดบุลมีผลงานที่ดีขึ้น และยังมีมูลค่าการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 120 ล้านยูโรเป็น 1.2 พันล้านยูโรในช่วงที่เขาทำงานให้สโมสร[7] รวมถึงการช่วยให้สโมสรแอร์เบ ไลพ์ซิช ประสบความสำเร็จอย่างยั่งยืนด้วยผลกำไรมหาศาล และยกระดับทีมขึ้นมาเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำของบุนเดิสลีกามาถึงปัจจุบัน[8] ซึ่งรังนิคยังได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าฝ่ายกีฬาและการพัฒนาของสโมสรใน ค.ศ. 2019 ก่อนจะลาออกในปีต่อมา[9] รังนิคเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวให้สโมสรแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2021 โดยเซ็นสัญญาไปจนสิ้นสุดฤดูกาล 2021–22
รังนิคได้รับการยกย่องในฐานะที่เป็นหนึ่งในผู้พัฒนาระบบการเล่นแบบเกเกนเพรสซิ่ง[lower-alpha 1] (Gegenpressing)[10] และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้จัดการทีมที่มีปรัชญาในการทำทีมที่ชัดเจน[11] มีความสามารถในการวางระบบและการพัฒนาศักยภาพนักเตะ เขายังถือเป็นบุคคลผู้มีอิทธิพลในการพัฒนาทักษะการคุมทีมของผู้ฝึกสอนหลายคน อาทิ แอ็นสท์ ฮัพเพิล, อาร์ริโก ซาคคี และ ซเดนเยค เซมัน [12] และยังเป็นผู้ฝึกสอนต้นแบบของผู้จัดการทีมชาวเยอรมันชื่อดังมากมาย อาทิ โทมัส ทุคเคิล, ยูลีอาน นาเกิลส์มัน, รัล์ฟ ฮาเซินฮึทเทิล และ เยือร์เกิน คล็อพ[13]