Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า (จีน: 澳門輕軌系統; ยฺหวิดเพ็ง: ou3 mun4 hing1 gwai2 hai6 tung2, โปรตุเกส: Metro Ligeiro de Macau (MLM)) หรือ อังกฤษ: Macau Light Rapid Transit (MLRT) เป็นระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตเมืองของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน และเป็นขนส่งมวลชนทางรางสายแรกของมาเก๊า ให้บริการบริเวณคาบสมุทรมาเก๊า, ไตปาและโกไต บริการด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สำคัญ เช่น ประตูพรมแดน (อังกฤษ: Border Gate; จีน: 關閘; โปรตุเกส: Portas do Cerco), ท่าเรือเฟอร์รี่ Outer Harbour (จีน: 外港碼頭; โปรตุเกส: Terminal Marítimo do Porto Exterior), สะพานดอกบัว (จีน: 蓮花大橋; โปรตุเกส: Ponte Flor de Lótus) และท่าอากาศยานนานาชาติมาเก๊า (จีน: 澳門國際機場; โปรตุเกส: Aeroporto Internacional de Macau) ส่วนแรกเริ่มก่อสร้างในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 และเปิดดำเนินการเดินรถในส่วนแรกเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562[8] รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊าดำเนินการโดย บริษัท เอ็มทีอาร์ (มาเก๊า) บริษัทย่อยของบริษัทเอ็มทีอาร์ ฮ่องกง (จีน: 香港鐵路有限公司)
รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า 澳門輕軌系統 Metro Ligeiro de Macau | |||
---|---|---|---|
ข้อมูลทั่วไป | |||
เจ้าของ | บริษัทรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า (รัฐบาลมาเก๊าถือหุ้น 96%) | ||
ที่ตั้ง | มาเก๊า | ||
ประเภท | รถไฟฟ้าล้อยาง | ||
จำนวนสาย | 1 (ปัจจุบัน) | ||
จำนวนสถานี | สาย ไตปา: 11 สายคาบสมุทรมาเก๊า: 10 | ||
เว็บไซต์ | http://www.mlm.com.mo http://www.mtr.com.mo/en/ | ||
การให้บริการ | |||
เริ่มดำเนินงาน | 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562 (สาย ไตปา)[1][2] ในปี พ.ศ. 2567 (ช่วง ไตปา-บาร์รา)[3] | ||
ผู้ดำเนินงาน | เอ็มทีอาร์ (มาเก๊า), บริษัทย่อยถือหุ้น 100% โดย บริษัท เอ็มทีอาร์ ฮ่องกง (2562-2566) / บริษัทรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า (มหาชน) หลังปี พ.ศ. 2566 | ||
ข้อมูลทางเทคนิค | |||
ระยะทาง | 9.3 km (6 mi)[4] | ||
รางกว้าง | 1,850 มม. (รางคอนกรีต) 3,200 มม. (รางนำทาง)[5] | ||
รัศมีความโค้ง | 30 m (98 ft 5 1⁄8 in)[6] | ||
การจ่ายไฟฟ้า | รางที่สาม 750 โวลต์ กระแสตรง[7] | ||
|
รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า | |||||||||||||
Macau Light Rapid Transit | |||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
อักษรจีนตัวเต็ม | 澳門輕軌系統 | ||||||||||||
อักษรจีนตัวย่อ | 澳门轻轨系统 | ||||||||||||
| |||||||||||||
ชื่อโปรตุเกส | |||||||||||||
โปรตุเกส | Metro Ligeiro de Macau |
ระบบรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊าปัจจุบันแล้วเสร็จในสาย ไตปา ระหว่างสถานีโอเชียน (จีน: 海洋; โปรตุเกส: Oceano) และสถานีท่าเรือเฟอร์รี่ไตปา (จีน: 氹仔碼頭; โปรตุเกส: Terminal Marítimo da Taipa) ระยะทาง 9.3 กิโลเมตร โดยมี 11 สถานี การก่อสร้างอู่จอดซ่อมบำรุงและสายทางเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555[9] โดยเริ่มก่อสร้างในเกาะไตปา อย่างไรก็ตามความล่าช้าอย่างมากในการก่อสร้างอู่จอดซ่อมบำรุง การเปิดเดินรถสายไตปาอย่างเป็นทางการจึงมีขึ้นเมื่อวันที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2562[10] มูลค่าการก่อสร้างของโครงการเพิ่มขึ้นจากประมาณการในปี พ.ศ. 2552 ที่ 7.5 พันล้านปาตากามาเก๊า เป็น 11 พันล้านปาตากาในประมาณการในปี พ.ศ. 2554[11] และเพิ่มเป็น 14.273 พันล้านปาตากาในเดือนกันยายน พ.ศ. 2555[12] และสิ้นปี พ.ศ. 2560 เพิ่มอีกเป็น 15.4 พันล้านปาตากา[1] แต่ในสิ้นปี พ.ศ. 2562 สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการเปิดดำเนินงานของสายไตปา ทำให้ค่าใช้จ่ายทั้งโครงการคงเหลือ 10.1-10.2 พันล้านปาตากามาเก๊า[13]
ในการแถลงนโยบายปีงบประมาณ พ.ศ. 2544 ต่อสาธารณะ โดยผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษมาเก๊า เอ็ดมุนด์ โฮ (จีน: 何厚鏵; ยฺหวิดเพ็ง: ho4 hau5 waa4, โปรตุเกส: Edmund Ho Hau-wah)[14] ระบุว่ารัฐบาลจะนำเสนอระบบขนส่งมวลชนใหม่เพื่อแก้ไขปัญหาการขนส่งในเมือง ต่อมาในปีพ.ศ. 2545 รัฐบาลได้มอบหมายให้ บริษัท ฮ่องกงเมโทรคอร์ปอเรชั่น (เอ็มทีอาร์) ทำการวิจัยเกี่ยวกับระบบขนส่งทางรถไฟของมาเก๊า ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2546 บริษัท เอ็มทีอาร์ของฮ่องกงได้ส่งมอบรายงานคำปรึกษาครั้งแรก[15] แนะนำให้ใช้ระบบรถไฟฟ้ารางเบาแบบทางยกระดับ แต่มีการพิจารณาประสิทธิผลด้านต้นทุนของแนวทางนี่ และยังได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เนื่องจากไม่ได้มุ่งเน้นที่ประชาชนผู้อยู่อาศัย ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 บริษัท เอ็มทีอาร์ของฮ่องกงเสร็จสิ้นรายงานการให้คำปรึกษาครั้งที่สอง[16] ซึ่งเสนอให้ใช้ระบบรถไฟฟ้าใต้ดินและกำหนดแผนการเลือกเส้นทางเบื้องต้น อย่างไรก็ตามรายงานการศึกษามีข้อสงสัยถึงปัญหาต่าง ๆ เช่นค่าใช้จ่ายที่สูง
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2549 รัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊าได้เผยแพร่โครงการ "การวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับระบบรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน" ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตถึงปัญหาเช่น สายทางผ่านพื้นที่อาศัยหนาแน่นมากเกินไป และไม่สามารถอนุรักษ์เมืองเก่าได้ ในวันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2550 รัฐบาลเขตบริหารพิเศษมาเก๊าได้ออก "แผนเพิ่มประสิทธิภาพสำหรับระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่" ซึ่งระบุว่ารัฐบาลมาเก๊ามีแผนที่จะเริ่มก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาในปี พ.ศ. 2551 และทำการแก้ไขแผนเชิงลึกมากขึ้น
วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เหล่าซีหยิ่ว (จีน: 劉仕堯; ยฺหวิดเพ็ง: lau4 si6 jiu4) ผู้อำนวยการสำนักการขนส่งและโยธาธิการประกาศอย่างเป็นทางการถึงการก่อสร้างระบบรถไฟฟ้าระยะแรก ระบบใช้การปรับแผนให้มีประสิทธิภาพโดยจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม รัฐบาลเชิญที่ปรึกษาระหว่างประเทศเพื่อร่างการเสนอราคา ณ สิ้นปี พ.ศ. 2550 และเปิดประมูลในปี พ.ศ. 2551 ซึ่งแต่เดิมกำหนดให้เริ่มอย่างเป็นทางการในช่วงครึ่งหลังของปี พ.ศ. 2551 อย่างไรก็ตามเนื่องจากการยื่นอุทธรณ์จาก บริษัทที่เข้าร่วมประมูล ทางสำนักงานโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง ภายใต้สำนักการขนส่งได้ใช้เวลาศึกษา 4 เดือน เวลาในการประมูลโครงการจึงเลื่อนเป็น พ.ศ. 2552, 2553 และ 2554 ต่อมาเนื่องจากสายทางรถไฟฟ้ามีการเปลี่ยนแปลงอีกหลายครั้ง และต้องใช้เวลาในการดำเนินการกระบวนการอุทธรณ์สำหรับการเสนอราคา โครงการจึงเลื่อนออกไปจนกระทั่งวันที่ 21กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ก่อนที่จะมีการเริ่มก่อสร้างอย่างเป็นทางการ ในขณะเดียวกันรัฐบาลก็สัญญาว่าจะวางแผนระยะที่สองของโครงการหลังจากการก่อสร้างระยะแรก และเสนอแผนความเป็นไปได้โดยรับฟังความเห็นสาธารณะ[17]
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2562 สำนักงานโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งซึ่งก่อตั้งขึ้นในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2550 ได้ถูกยกเลิกและแทนที่อย่างเป็นทางการโดย "บริษัทรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า จำกัด " ซึ่งเป็นบริษัทที่บริหารโดยเงินทุนสาธารณะทั้งหมด เพื่อร่วมบริหารจัดการในการเปิดสายทาง ไตปา โดยรัฐบาลมาเก๊าและ บริษัทรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า ได้ลงนามในสัญญาสิบปี "รับรองสัญญาอนุญาตในการจัดการระบบรถไฟฟ้ารางเบา การดำเนินงานและการบำรุงรักษา" นอกจากนี้ บริษัท เอ็มทีอาร์ (มาเก๊า) มีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติการณ์และบำรุงรักษา รถไฟฟ้ารางเบาในสายทางไตปา
รัฐบาลมาเก๊าคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเกิน 20 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้โรงแรมและคาสิโนมีการก่อสร้างแล้วเสร็จในปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น เชื่อได้ว่ารถบัส, รถแท็กซี่และเครือข่ายการขนส่งที่เกี่ยวข้องของมาเก๊าไม่สามารถรับมือกับการเติบโตดังกล่าวได้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องสร้างระบบขนส่งมวลชนใหม่เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด และปรับปรุงปัญหามลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
บริการรถไฟฟ้ารางเบาเปิดเดินรถในเวลา 6:30 นาฬิกาถึง 23:35 นาฬิกาในวันจันทร์ถึงศุกร์ และถึง 00:19 นาฬิกา (ของวันใหม่) ในวันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุด[18] เนื่องจากการจัดซื้อประตูเข้าสู่ระบบกับบริษัทมิตซูบิชิ จึงไม่สามารถใช้งานร่วมกับเงินอิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ได้เมื่อผู้โดยสารเข้าระบบ โดยจะสามารถใช้บัตรมาเก๊าพาสหรือเงินสดเพื่อซื้อตั๋วและใช้ตั๋วนั้นเพื่อเข้าและออกประตู ในขณะนี้ไม่สามารถสแกนบาร์โค้ดด้วยโทรศัพท์มือถือโดยตรง หรือเข้าหรือออกจากระบบด้วยบัตรมาเก๊าพาสได้ ปัญหาความเข้ากันได้จะต้องได้รับการศึกษาโดย บริษัทรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า ต่อไป (ไม่คิดต่าโดยสารตลอดเดือน ธันวาคม พ.ศ. 2562 ในช่วงเปิดให้บริการครั้งแรก)[19]
กำหนดเวลาเปิดดำเนินการ | สายทาง | จุดเริ่มต้น-สิ้นสุด | ความยาว (กม.) | จำนวนของสถานี | สถานะปัจจุบัน | หมายเหตุ | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
ธันวาคม พ.ศ. 2562 | Taipa | สถานีโอเชียน | สถานีท่าเรือ เฟอร์รี่ไตปา | 9.3 | 11 | เปิดดำเนินการ[1] | |
พ.ศ. 2566/2567 | สายไตปา (ส่วนไตปา-บาร์รา) | สถานีบาร์รา | สถานีโอเชี่ยน | 1 | ระหว่างการก่อสร้าง | ||
ระหว่างการพิจารณา | สายคาบสมุทรมาเก๊า (ส่วนเหนือและใต้) | สถานี ประตูพรมแดน (Border Gate) | สถานีบาร์รา | 11.7 | 10 | วางแผน | |
สายคาบสมุทรมาเก๊า (ส่วน Inner Harbour) | สถานี ประตูพรมแดน (Border Gate) | สถานีบาร์รา | 4.5 | 6/7 | วางแผน | ||
สายแสะผ่ายวาน (石排灣; Seac Pai Van) | สถานี สะพานดอกบัว | แสะผ่ายวาน | 1.6 | 3 | วางแผนและ เริ่มก่อสร้างเบื้องต้น[27] | ||
ส่วนต่อขยายสายวางข่ำ (橫琴島; Ilha de Montanha) | สถานี สะพานดอกบัว | สถานีด่านวางข่ำ | 3.3 | 3 | ศึกษารายละเอียด ความเป็นไปได้ | ||
สายพิเศษด่านเกาะเทียมสะพานฮ่องกง–จูไห่–มาเก๊า | ด่านเกาะเทียมสะพานฮ่องกง–จูไห่–มาเก๊า | ท่าเรือ Outer Harbour | 3 | วางแผน | |||
สายมาเก๊าตะวันออก | สถานีท่าเรือ เฟอร์รี่ไตปา | สถานี ประตูพรมแดน (Border Gate) | 7.8 | >6 | ศึกษารายละเอียด และออกแบบ | ||
สายไตปาเหนือ | >2 | ข้อเสนอ | |||||
Ocean Cruiser | |
---|---|
ผู้ผลิต | มิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสทรีส์ |
ผลิตที่ | มิฮาระ, จังหวัดฮิโรชิมะ, ญี่ปุ่น |
ตระกูล | Crystal Mover (Urbanismo-22) |
สายการผลิต | พ.ศ. 2555-2559 |
เข้าประจำการ | พ.ศ. 2562 |
จำนวนที่ผลิต | 55 ขบวน (110 ตู้โดยสาร) |
ความจุผู้โดยสาร | 102 คน (19 ที่นั่ง) / ตู้โดยสาร[6] |
ผู้ให้บริการ | บริษัทรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊า (MLRT) |
คุณลักษณะ | |
วัสดุตัวถัง | อะลูมิเนียม-อัลลอย |
ความยาว | 11.2 เมตร (36 ฟุต 8 15/16 นิ้ว)[6] |
ความกว้าง | 2.795 เมตร (9 ฟุต 2 3/64 นิ้ว)[6] |
ความสูง | 3.795 เมตร (12 ฟุต 5 13/32 นิ้ว)[6] |
จำนวนประตู | 4 ประตู (2 ประตูต่อข้าง) ต่อตู้โดยสาร |
ความเร็วสูงสุด | 80 km/h (50 mph) (ออกแบบ)[6] |
น้ำหนัก | 23,860 กก. (บรรทุกสูงสุด)[6] |
ความเร่ง | 1.0 เมตร/วินาที2 (3.3 ฟุต/วินาที2)[7] |
ความหน่วง | 1.0 เมตร/วินาที2 (3.3 ฟุต/วินาที2) (ปรกติ) 1.3 เมตร/วินาที2 (4.3 ฟุต/วินาที2) (ฉุกเฉิน)[7] |
มาตรฐานทางกว้าง | รางนำทาง: ด้านข้าง – ล้อยาง |
รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊าใช้ ขบวนรถมิตซูบิชิเฮฟวีอินดัสทรีส์ Crystal Mover รุ่น Urbanismo-22 ซึ่งเป็นระบบขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM)[28] โดยใช้ล้อยางที่วิ่งบนรางคอนกรีต[29] มิตซูบิชิจะจัดหารถไฟสองตู้โดยสารจำนวน 55 คันซึ่งเป็นแบบอัตโนมัติ (ไร้คนขับ) สามารถขยายความจุผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 476 คนต่อขบวน (4 ตู้โดยสาร)[29] โดยขบวนรถมีชื่อว่า Ocean Cruiser[30]
จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2562 รถไฟฟ้ารางเบามาเก๊าให้บริการฟรี[31] ตามประกาศของผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษมาเก๊าหมายเลข 186/2019[32] ณ วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2563 ค่าใช้จ่ายสำหรับโดยสารรถไฟฟ้ารางเบามาเก๊าเป็นดังนี้:
จำนวนสถานี | เหรียญเดินทางเที่ยวเดียว | เหรียญเดินทางเที่ยวเดียว (ลดหย่อน), บัตรเติมเงิน |
บัตรเติมเงินสำหรับ นักเรียน |
เด็กสูงน้อยกว่า 1 เมตร, บัตรผู้สูงอายุ, บัตรผู้ทุพพลภาพ |
---|---|---|---|---|
3 สถานีหรือน้อยกว่า | MOP $6.00 | MOP $3.00 | MOP $1.50 | ฟรี |
6 สถานีหรือน้อยกว่า | MOP $8.00 | MOP $4.00 | MOP $2.00 | |
10 สถานีหรือน้อยกว่า | MOP $10.00 | MOP $5.00 | MOP $2.50 | |
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.