Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
ภาพยนตร์ศึกษา (อังกฤษ: Film studies) เป็นสาขาวิชาทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับทฤษฎีภาพยนตร์ ประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ และวิธีวิพากษ์ภาพยนตร์ บางครั้งก็เป็นส่วนหนึ่งในสื่อมวลชนศึกษา (Media studies) และมักถูกเปรียบเทียบได้กับสาขาโทรทัศน์ศึกษา ภาพยนตร์ศึกษาจะไม่เกี่ยวข้องกับความเชี่ยวชาญทางด้านการผลิตภาพยนตร์มากนัก แต่เน้นทางด้านการสำรวจการเล่าเรื่อง (narrative) เชิงศิลปะ วัฒนธรรม ทางด้านเศรษฐกิจ และผลกระทบทางการเมืองต่อวงการภาพยนตร์ [1] ในมุมมองของแสวงหาค่านิยมทางสังคมและอุดมการณ์ ภาพยนตร์ศึกษาจะใช้วิธีเชิงวิพากษ์สำหรับการวืเคราะห์การผลิต กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎี บริบทและการสร้างภาพยนตร์ [2] ในแง่นี้ภาพยนตร์ศึกษามีอยู่ในสาขาที่ผู้สอนมักไม่เป็นนักการศึกษาหรืออาจารย์หลักเสมอไป แต่จะเป็นผลงานภาพยนตร์ที่สำคัญของบุคคลจะทำหน้าที่ดังกล่าว นอกจากนี้ในการศึกษาภาพยนตร์ สายอาชีพที่เป็นไปได้ ได้แก่ นักวิจารณ์หรือทางด้านการผลิตภาพยนตร์ ทฤษฎีภาพยนตร์มักจะรวมถึงการศึกษาความขัดแย้งระหว่างสุนทรียศาสตร์ของงานฮอลลีวูดเชิงภาพและการวิเคราะห์เนื้อหาบทภาพยนตร์ โดยรวมการศึกษาในด้านภาพยนตร์กำลังเติบโตเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ วารสารวิชาการที่เผยแพร่ผลงานภาพยนตร์ศึกษา ได้แก่วารสาร Sight & Sound (สถาบันภาพยนตร์อังกฤษ), Screen (มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด), Cinema Journal (มหาวิทยาลัยเท็กซัส), Film Quarterly (มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย) และ Journal of Film and Video (มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์)
ภาพยนตร์ศึกษาเป็นสาขาทางวิชาการที่ก่อกำเนิดขึ้นในศตวรรษที่ 20 หลังจากการประดิษฐ์ภาพเคลื่อนไหว (ในปลายศตวรรษที่ 19) ภาพยนตร์ศึกษามุงคิดค้นเฉพาะทาง คือ การสร้างทฤษฎีภาพยนตร์ ซึ่งเป็นวิธีการและแนวทางของภาพยนตร์ในมุมมองทางศิลปะ และการเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของภาพยนตร์ (film historiography) เนื่องจากภาพยนตร์สมัยใหม่เพิ่งกลายเป็นสิ่งประดิษฐ์และอุตสาหกรรมในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 เท่านั้น ผู้ผลิตภาพยนตร์และผู้กำกับภาพยนตร์รุ้นก่อนหน้านี้มีความสำคัญอย่างมากต่อการวิเคราะห์ทางวิชาการซึ่งเกิดขึ้นในรุ่นต่อ ๆ ไป
ในยุคแรก ๆ โรงเรียนภาพยนตร์มุ่งเน้นที่การผลิตและการวิจารณ์เชิงจิตวิสัยกับภาพยนตร์มากกว่าวิธีการเชิงวิพากษ์ ประวัติศาสตร์ และทฤษฎีที่ใช้ในการศึกษาเชิงวิชาการ ตั้งแต่ที่มีการสร้างภาพยนตร์ขึ้นมา แนวคิดของภาพยนตร์ศึกษาได้ขยายตัวไปในการวิเคราะห์แง่มุมที่เป็นทางการของภาพยนตร์ขณะที่มีการสร้างภาพยนตร์ไปด้วย สถาบันภาพยนตร์แห่งเกราสิมอฟ (Gerasimov Institute of Cinematography) ซึ่งก่อตั้งขึ้นในมอสโกเมื่อปี พ.ศ. 2462 (ค.ศ. 1919) เป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในโลกที่ให้เน้นเรื่องภาพยนตร์ ในสหรัฐอเมริกาก็มีวิทยาลัยศิลปะภาพยนตร์ (School of Cinematic Arts, SCA) มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ. ศ. 2472 (ค.ศ. 1929) เป็นสถานศึกษาทางด้านภาพยนตร์แห่งแรก ซึ่งสร้างขึ้นตามข้อตกลงกับสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences) ทั้งยังเป็นสถาบันแรกที่เปิดหลักสูตรสาขาวิชาทางภาพยนตร์ในปี พ. ศ. 2475 (ค.ศ. 1932) แต่ก็ยังไม่มีความแตกต่างเฉพาะที่จะถือได้ว่าเป็นภาพยนตร์ศึกษา มหาวิทยาลัยต่าง ๆ เริ่มคิดค้นและพัฒนาหลักสูตรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับภาพยนตร์มากขึ้น อย่างไรก็ตาม ก็ยังไม่มีหลักสูตรที่แบ่งแยกระหว่างวิธีการนามธรรมและหลักปฏิบัติในยุคแรกนี้
สถาบันภาพยนตร์ Babelsberg ในประเทศเยอรมัน (เยอรมัน: Deutsche Filmakademie Babelsberg) ได้ก่อตั้งขึ้นในยุคไรช์ที่สามในปี พ. ศ. 2481 (ค.ศ. 1938) อาจารย์ที่ให้การศึกษาในยุคนั้น ได้แก่ ผู้สร้างภาพยนตร์ชาวออสเตรีย Willi Forst และนักแสดงชาวเยอรมัน Heinrich George ในการสำเร็จการศึกษาที่สถาบันนี้นักศึกษต้องสร้างภาพยนตร์ของตัวเอง
การเคลื่อนไหวออกจากการผลิตภาพยนตร์ที่ฮอลลีวูดในยุคทศวรรษที่ 50 เป็นการนำวงการภาพยนตร์ไปสู่ความเป็นอิสระทางศิลปะมากขึ้น เป็นการสร้างทฤษฎีผู้แต่ง (Auteur theory) ซึ่งยืนยันว่าภาพยนตร์นั้นเป็นวิสัยทัศน์และศิลปะของผู้กำกับภาพยนตร์ ทำให้เกิดการกระตุ้นให้มีภาพยนตร์ศึกษาและกลายเป็นเรื่องที่สนใจกันอย่างมากในทางวิชาการทั่วโลกในทศวรรษที่ 60 ในปี พ.ศ. 2508 (ค.ศ. 1965) นักวิจารณ์ภาพยนตร์ โรบิน วูด มีงานเขียนเกี่ยวกับอัลเฟร็ด ฮิตช์ค็อก กล่าวว่า ภาพยนตร์ของฮิตช์ค็อกมีเนื้อหาของความซับซ้อนเหมือนกับบทละครของเช็คสเปียร์ [3] ในทำนองเดียวกัน ฌอง-ลุค โกดาร์ด (Jean Luc Godard) นักเขียนบทความในนิตยสาร Cahiers du Cinema ในฝรั่งเศส เขียนไว้ว่า "เจอร์รี ลูวิส [นักแสดงตลก นักแสดง นักร้อง นักมนุษยธรรม ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวอเมริกัน] ... เป็นคนเดียวในฮอลลีวูดที่ทำอะไรๆ ที่แตกต่าง คนเดียวที่ไม่ได้ตกอยู่ในประเภทใดที่ตั้งกันไว้ อยู่ในบรรทัดฐานใดๆ หลักการใดๆ ... ลูอิสเป็นคนเดียวในวันนี้ที่ทำภาพยนตร์อย่างกล้าหาญ [4] เมื่อมีงบประมาณที่เหมาะสม มีจำนวนนักศึกษาลงทะเบียนที่แน่นอน และความสนใจในสาขามนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยหลายแห่งก็ได้สร้างบุคลากรที่มีความสามารถและเปิดโครงการหลักสูตรภาพยนตร์ศึกษาที่แตกต่างกันไป
ในความเป็นจริงไม่มีบุคคลใดคนหนึ่งที่สร้างหลักเกณฑ์สำหรับภาพยนตร์ศึกษา ชุมชนที่กำลังเติบโตในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และนักวิชาการได้เริ่มวิพากษ์ จัดทำเอกสารและวิเคราะห์ภาพยนตร์ต่างๆ จนในที่สุดก็ได้แนวทางที่สอดคล้องกับแนวคิดของภาพยนตร์ศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในสายศิลปศาสตร์ในสถาบันอุดมศึกษา ด้วยความสำเร็จในช่วงครึ่งแรกของศตวรรษที่ 20 บุคคลสำคัญในวงการภาพยนตร์กลายเป็นแหล่งทุนสำหรับคณะหรือสถาบันที่มุ่งเน้นทางด้านภาพยนตร์ เพื่อสร้างสถานที่เฉพาะสำหรับภาพยนตร์ศึกษาและพัฒนาโปรแกรมวิชาจนเป็นรูปเป็นร่าง ตัวอย่างเช่น จอร์จ ลูคัสได้บริจาคเงินจำนวน 175 ล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับวิทยาลัยศิลปะภาพยนตร์ (School of Cinematic Arts) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ในปี พ.ศ. 2549 [5]
ในปัจจุบัน ภาพยนตร์ศึกษามีอยู่ทั่วโลกเป็นสาขาวิชาหนึ่งในสถาบันการศึกษาที่ทุ่มเทให้กับสาขาเฉพาะทาง ภาพยนตร์ศึกษาได้เติบโตขึ้นในหลายด้านเพื่อครอบคลุมวิธีการจำนวนมากของการสอนประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และสังคม วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ทางศิลปศาสตร์หลายแห่งมีหลักสูตรที่มุ่งเน้นเฉพาะการวิเคราะห์ภาพยนตร์ .[6] นอกจากนี้ ยังมีความหลากหลายของภาพยนตร์ศึกษามากขึ้น โรงเรียนระดับมัธยมศึกษาทั่วสหรัฐอเมริกายังมีการสอนทฤษฎีภาพยนตร์ด้วย โปรแกรมการศึกษาหลายแห่งยังเชื่อมโยงภาพยนตร์ศึกษากับสาขาวิชาสื่อและโทรทัศน์ซึ่งนำความรู้ทุกส่วนจากการผลิตภาพเป้นแนวทาง เนื่องจากเทคโนโลยีที่มีความก้าวหน้าและเติบโตมากขึ้น เช่น ภาพยนตร์ 3 มิติ และ YouTube ภาพยนตร์จึงถูกนำมาใช้อย่างเป็นรูปธรรมในการสอนในฐานะสื่อหลักเพื่อสะท้อนทางวัฒนธรรมและศิลปะทั่วโลก เนื่องจากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของการศึกษาค้นคว้าในสาขาภาพยนตร์ศึกษา จึงได้มีการจัดหลักสูตรใหม่ ๆ หลากหลายสำหรับการวิเคราะห์ของวิธีวิพากษ์วิธีต่าง ๆ ที่ใช้กันในภาพยนตร์ [7] แม้ว่าแต่ละสถาบันจะมีอำนาจในการสร้างเนื้อหาการศึกษา แต่ผู้เรียนมักจะคาดหวังว่าจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงเชิงแนวคิดในภาพยนตร์ ความรู้ทางวรรณกรรมเกี่ยวกับการวิเคราะห์รูปแบบและวัจนลีลาของภาพยนตร์ การรับรู้ทางความรู้สึกในมิติเชิงอุดมการณ์ของภาพยนตร์ และความตระหนักในเรื่องความหมายของการสื่อสาร และทิศทางที่เป็นไปได้ของภาพยนตร์ในอนาคต [8]
โดยทั่วไป หลักสูตรของโปรแกรมภาพยนตร์ศึกษาในระดับอุดมศึกษามักมีเนื้อหาวิชาเรียน ดังนี้ (แต่ไม่จำกัดเพียงเท่านี้)
หลักสูตรสาขาภาพยนตร์ศึกษามีวิชาเรียนให้เลือกหลากหลาย ทั้งยังมีวิชาเอกและวิชารองในสถาบันต่างๆ .[9][10][11]
ในสหรัฐอเมริกามหาวิทยาลัยมีการเปิดสอนหลักสูตรเฉพาะทาง เน้นที่ภาพยนตร์ศึกษา มีวิทยาลัยที่มุ่งมั่นกับโปรแกรมวิชาเอกหรือวิชารอง ปัจจุบันสถาบันอุดมศึกษาจำนวน 144 แห่งทั่วประเทศี่มีหลักสูตรภาพยนตร์ศึกษาเป็นวิชาเอก คาดว่าจะมีการเติบโตมากขึ้นในแต่ละปีและมีความสนใจใหม่ๆ ในภาพยนตร์ศึกษา สถาบันที่เสนอปริญญาภาพยนตร์ศึกษาเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรศิลปะหรือการสื่อสารจะแตกต่างจากสถาบันที่มีโปรแกรมสาขาวิชาภาพยนตร์ศึกษาโดยเฉพาะ หลักสูตรนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะกับภาพยนตร์ที่ผลิตขึ้นในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น สามารถวิเคราะห์ภาพยนตร์ได้หลากหลายประเภท ในสหรัฐอเมริกาในการสำเร็จการศึกษาเพื่อปริญญาภาพยนตร์ศึกษา ผู้เรียนมักมีเป้าหมายเพื่อการประกอบอาชีพในการผลิตภาพยนตร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกำกับและผลิตภาพยนตร์ [12] โดยทั่วไปการเรียนการสอนจะผสมผสานรูปแบบใหม่ๆ ชองสื่อด้วย เช่น โทรทัศน์และสื่อใหม่ [13] ผู้ที่ศึกษาภาพยนตร์ต้องการความสามารถทางด้านการวิเคราะห์ภาพยนตร์เป็นจำนวนมากที่เผยแพร่ในสหรัฐอเมริกาทุก ๆ ปี ในแง่มุมทางวิชาการมากขึ้น หรือเพื่อทำความเข้าใจประวัติความเป็นมาของวงการภาพยนตร์ในทางศิลปะ ภาพยนตร์สามารถสะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของยุคได้ไม่เพียงแต่ในประเทศเท่านั้น แต่ทั่วโลก
ภาพยนตร์ศึกษาทั่วโลกมีอยู่มากกว่า 20 ประเทศ เนื่องจากต้นทุนสูงของการผลิตภาพยนตร์ ประเทศในโลกที่สามจึงถูกทิ้งห่างจากการภาพยนตร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการศึกษา แม้ว่าประเทศที่เจริญรุ่งเรืองกว่านี้จะมีความสามารถในการศึกษาภาพยนตร์ในทุกด้านของภาพยนตศึกษาร์ก็ตาม การบรรยายเกี่ยวกับภาพยนตร์สามารถพบได้ในสถาบันการศึกษาทั่วโลก และมักเป็นความสนใจระดับนานาชาติกับสุนทรียภาพของภาพยนตร์ที่เทศกาลภาพยนตร์ต่างๆ ตัวอย่างเข่น เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์เป็นงานที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก [14] แม้ว่ากิจกรรมพวกนี้จะเป็นเรื่องของการประชาสัมพันธ์และอุตสาหกรรมภาพยนตร์ และไม่ได้มีอยู่ภายในสถาบันการศึกษาก็ตาม การวิเคราะห์และวิธีวิพากษ์ภาพยนตร์ก็ถูกนำไปใช้ในเวทีนานาชาติ
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
บุคคลสำคัญที่มีอิทธิพลต่อการศึกษาทางด้านภาพยนตร์เป็นอาจารย์และผู้ผลิตภาพยนตร์ สามารถแบ่งออกเป็น 2 หมวดใหญ่ ได้แก่ บุคคลในการผลิตภาพยนตร์ และบุคคลในด้านการวิจารณ์ภาพยนตร์
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.