พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 แห่งเดนมาร์ก
From Wikipedia, the free encyclopedia
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 (เดนมาร์ก: Frederik Carl Christian; 6 ตุลาคม ค.ศ. 1808 – 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863) ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ตั้งแต่ ค.ศ. 1848 จนกระทั่งเสด็จสวรรคต พระองค์เป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กพระองค์สุดท้ายซึ่งสืบราชสันตติวงศ์จากราชวงศ์อ็อลเดินบวร์ค และเป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กพระองค์สุดท้ายในระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ ในรัชกาลของพระองค์ ทรงลงพระปรมาภิไธยพระราชทานรัฐธรรมนูญแก่ประชาชนชาวเดนมาร์กซึ่งทำให้มีการจัดตั้งรัฐสภาขึ้นและเปลี่ยนระบอบการปกครองจากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ ถือว่าพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์เดนมาร์กพระองค์แรกในระบอบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ คำขวัญของพระองค์คือ เพื่อความรักของผู้คน ความแข็งแกร่งของฉัน (เดนมาร์ก: Folkets Kærlighed, min Styrke) หรือ (อังกฤษ: the People's Love, My Strength)[1]
พระเจ้าเฟรเดอริกที่ 7 | |||||
---|---|---|---|---|---|
พระบรมสาทิสลักษณ์โดย เอากุสท์ ซิเอต ป. 1850 | |||||
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก | |||||
ครองราชย์ | 20 มกราคม 1848– 15 พฤศจิกายน 1863 (15 ปี 299 วัน) | ||||
ก่อนหน้า | คริสเตียนที่ 8 | ||||
ถัดไป | คริสเตียนที่ 9 | ||||
พระราชสมภพ | 6 ตุลาคม ค.ศ. 1808(1808-10-06) โคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก | ||||
สวรรคต | 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1863(1863-11-15) (55 ปี) กลึคส์บวร์ค ดัชชีฮ็อลชไตน์ | ||||
ฝังพระศพ | อาสนวิหารรอสกิลด์ | ||||
คู่อภิเษก |
| ||||
| |||||
ราชวงศ์ | อ็อลเดินบวร์ค | ||||
พระราชบิดา | คริสเตียนที่ 8 แห่งเดนมาร์ก | ||||
พระราชมารดา | ดัชเชสชาร์ล็อทเทอ ฟรีเดอรีเคอแห่งเมคเลินบวร์ค-ชเวรีน |
พระองค์มีพระราชประสงค์ที่จะสละพระราชอำนาจบางส่วน ทำให้พระองค์กลายเป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์เดนมาร์กที่ประชาชนรักมากที่สุด ทั้งๆ ที่ในเอกสารหลายฉบับจากรัชสมัยของพระองค์จะกล่าวไว้ว่า โปรดการเสวยน้ำจัณฑ์และทรงพฤติกรรมนอกรีต พระองค์มีพระบุคลิกเรียบง่ายและจริงใจอย่างแท้จริง พระองค์ทรงมักปรากฏพระองค์อย่าง "เรียบง่ายโดยยังคงเกียรติภูมิแห่งพระมหากษัตริย์" พระองค์ยังได้เสด็จพระราชดำเนินไปทั่วเดนมาร์กและมีพระราชปฏิสันถารกับประชาชนทั่วไป พระองค์ทรงกระตือรือร้นการค้นคว้าเกี่ยวกับโบราณวัตถุและทรงเป็นที่ยอมรับจากปีเตอร์ กล็อบ นักโบราณคดีว่า "พระองค์ เป็นผู้ซึ่งจุดประการความนิยมด้านโบราณวัตถุให้แพร่หลายมากกว่าผู้ใด ""[2]