ผู้ใช้:ZeroSixTwo/กระบะทราย11
From Wikipedia, the free encyclopedia
ควอนตัส เที่ยวบินที่ 32 (อังกฤษ: Qantas Flight 32) เป็นเที่ยวบินโดยสารประจำจากลอนดอนไปยังซิดนีย์โดยจอดพักที่สิงคโปร์ ในวันที่ 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 เครื่องบินแอร์บัส เอ380 ประสบปัญหาโดยเครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ เทรนต์ 900 ตัวหนึ่งขัดข้องขณะบินเหนือหมู่เกาะรีเยา ประเทศอินโดนีเซีย สี่นาทีหลังบินขึ้นจากท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์ หลังจากบินวนเป็นเวลาประมาณสองชั่วโมงเพื่อตรวจสอบปัญหา นักบินสามารถนำเครื่องลงจอดฉุกเฉินอย่างปลอดภัยที่ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ แต่ว่าบ้านเรือนบางหลังบนเกาะบาตัมได้รับความเสียหายเนื่องจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่[1]
เครื่องยนต์ที่เป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้ | |
สรุปอุบัติเหตุ | |
---|---|
วันที่ | 4 พฤศจิกายน ค.ศ. 2010 (2010-11-04) |
สรุป | ใบพัดเครื่องยนต์แตก ทำให้เครื่องยนต์และระบบควบคุมต่าง ๆ ของเครื่องบินเสียหาย |
จุดเกิดเหตุ | เหนือเกาะบาตัม จังหวัดเกอปูเลาวันรีเยา ประเทศอินโดนีเซีย 1°04′N 104°01′E |
อากาศยานลำที่เกิดเหตุ | |
ประเภทอากาศยาน | แอร์บัส เอ380-842 |
ชื่ออากาศยาน | แนนซี-เบิร์ด วอลตัน |
ดําเนินการโดย | ควอนตัส |
หมายเลขเที่ยวบิน IATA | QF32 |
หมายเลขเที่ยวบิน ICAO | QFA32 |
ทะเบียน | VH-OQA |
ต้นทาง | ท่าอากาศยานฮีทโธรว์ ลอนดอน สหราชอาณาจักร |
จุดพัก | ท่าอากาศยานชางงีสิงคโปร์ ประเทศสิงคโปร์ |
ปลายทาง | ท่าอากาศยานซิดนีย์ ซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย |
จำนวนคน | 469 |
ผู้โดยสาร | 440 |
ลูกเรือ | 29 |
เสียชีวิต | 0 |
บาดเจ็บ | 0 |
รอดชีวิต | 469 |
การตรวจสอบพบว่าใบพัดเครื่องยนต์หมายเลขสองซึ่งอยู่ด้านซ้ายใกล้ห้องโดยสารแตกออกระหว่างเครื่องบินกำลังบิน ทำให้ฝาครอบเครื่องยนต์ ปีก ระบบเชื้อเพลิง ล้อสำหรับลงจอด อุปกรณ์ควบคุมการบิน และอุปกรณ์ควบคุมเครื่องยนต์ได้รับความเสียหาย ในถังเชื้อเพลิงเกิดเพลิงไหม้แต่ดับลงไปเองภายในถัง การสืบสวนได้ข้อสรุปว่าความเสียหายเกิดขึ้นจากท่อน้ำมันแตกเนื่องจากกระบวนการผลิตที่บกพร่อง[2]
ความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นเหตุการณ์แรกที่เกิดขึ้นกับเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ซึ่งในขณะนั้นมีเครื่องบินรุ่นดังกล่าวที่ใช้งานเชิงพาณิชย์จำนวน 39 ลำ ใน 5 สายการบินได้แก่ควอนตัส แอร์ฟรานซ์ เอมิเรตส์ ลุฟท์ฮันซ่า และสิงคโปร์แอร์ไลน์ ควอนตัสตัดสินใจงดใช้งานเครื่องบินเอ380 หกลำในฝูงบินเป็นการชั่วคราว[3] ในขณะเดียวกัน ลุฟท์ฮันซ่าและสิงคโปร์แอร์ไลน์ได้หยุดใช้งาน ตรวจสอบ และเปลี่ยนเครื่องยนต์ของเครื่องบินแอร์บัส เอ380 ที่ประจำฝูงบินและใช้เครื่องยนต์โรลส์-รอยซ์ อย่างไรก็ตาม เครื่องบินรุ่นดังกล่าวของแอร์ฟรานซ์และเอมิเรตส์ไม่ได้รับผลกระทบเนื่องจากใช้เครื่องยนต์ของเอนจีนอัลลิอันซ์