![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/2/28/Akal_takhat_amritsar.jpg/640px-Akal_takhat_amritsar.jpg&w=640&q=50)
ปฏิบัติการดาวน้ำเงิน
From Wikipedia, the free encyclopedia
ปฏิบัติการดาวน้ำเงิน (อังกฤษ: Operation Blue Star) เป็นรหัสชื่อของการปฏิบัติการทางทหารที่กองทัพอินเดียเริ่มในระหว่างวันที่ 1 และ 8 มิถุนายน 1984 เพื่อกำจัดหัวหน้ากองกำลังซิกข์ติดอาวุธ ชรไนล สิงห์ ภิณฑราณวาเล และสมุนออกจากหมู่อาคารของหริมันทิรสาหิบ (วิหารทอง) ในอมฤตสระ รัฐปัญจาบ ประเทศอินเดีย การตัดสินใจนี้เป็นของนายกรัฐมนตรีอินเดียในขณะนั้น อินทิรา คานธี[10] เหตุการณ์เริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 1982 เมื่อ หรจันท์ สิงห์ โลงโควาล ประธานพรรคการเมืองซิกข์ อกาลีดาล เชิญชวนให้ ภิณฑราณวาเล มาอาศัยในหมู่อาคารหริมันทิรสาหิบเพื่อหลบหลีกการจับกุม[11][12] ต่อมาภิณฑราณวาเลได้ทำให้วิหารอันเป็นที่เคารพของชาวซิกข์ทั่วโลกกลายเป็นคลังแสงและสำนักงานใหญ่สำหรับขบวนการขาลิสถาน[13]
ปฏิบัติการดาวน้ำเงิน | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ความไม่สงบในปัญจาบ | |||||||
![]() อกาลตัขตะในปัจจุบัน โดยอกาลตัขตะเป็นอาคารที่เสียหายอย่างหนักและพังทลายลงมาจากการโจมตีในปฏิบัติการดาวน้ำเงิน | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
สนับสนุนโดย![]() ![]() | |||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
![]() ![]() ![]() |
ชรไนล สิงห์ ภิณฑราณวาเล † อมริก สิงห์ † ชาเบก สิงห์ † | ||||||
กำลัง | |||||||
10,000 กองร้อยติดอาวุธ จากทัพที่ 9 175 พลร่มและ พลปืนใหญ่ 700 ชวัน จาก CRPF 4th Battalion และ BSF 7th Battalion 150 ชวัน จาก ตำรวจปัญจาบติดอาวุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน. หริมันทิรสาหิบ[ต้องการอ้างอิง] | ไม่ทราบ | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
83 ราย[7][8] | |||||||
493 ราย[7] ทั้งกองกำลังขาลิสถานและประชาชนผู้บริสุทธิ์ (ทางการ) ถึงแม้การประมาณการบางสำนักอาจจะตั้งไว้ที่สูงกว่านี้มาก[9] |
หน่วยข่าวกรองอินเดียได้รายงานว่าหัวหน้าหลักสามคน คือ ชาเบก สิงห์, พาลพิเยร์ สิงห์ (Balbier Singh) และ อมริก สิงห์ ได้เดินทางไปปากีสถานถึง 6 ครั้งในรอบระหว่างปี 1981 และ 1983[4] นอกจากนี้ยังระบุว่ามีการจัดการฝึกซ้อมอาวุธในคุรุทวาราต่าง ๆ ในรัฐชัมมูและกัศมีร์ และรัฐหิมาจัลประเทศ และมีรายงานว่าหน่วยข่าวกรองโซเวียต KGB ได้ให้ความร่วมมือกับแผนการในปัญจาบ แทนที่จะร่วมมือกับหน่วยงานสำนักข่าวกรอง RAW ของอินเดีย, CIA ของสหรัฐ และ ISI ต่อมา RAW ได้รับข้อมูลว่า กลุ่มบริการพิเศษ ที่ได้รับการฝึกแล้วกว่าพันคนจากหน่วยคอมมานโดของกองทัพปากีสถานได้รับคำสั่งให้เดินทางเข้ามายังปัญจาบของอินเดีย เพื่อช่วยเหลือภิณฑราณวาเลในการต่อสู้กับรัฐบาลอินเดีย
ในวันที่ 1 มิถุนายน 1984 หลังการต่อรองกับกองกำลังขาลิสถานล้มเหลว อินทิรา คานธีจึงตัดสินใจออกคำสั่งให้ปฏิบัติการดาวน้ำเงิน[14] กองพลจากหลายกองทัพและภาคส่วนเดินทางเข้ามาล้อมหมู่อาคารวิหารทองในวันที่ 3 มิถุนายน 1984 กองทัพมีการใช้โทรโข่งเพื่อเจรจาให้กองกำลังขาลิสถานยอมจำนน และยังได้ร้องขอให้กองกำลังปล่อยศาสนิกชนบริสุทธิ์ผู้มาแสวงบุญในวิหารที่ถูกกักไว้ภายในออกมาก่อนที่จะทำการปะทะ อย่างไรก็ตามไม่มีการยอมจำนนหรือปล่อยประชาชนผู้บริสุทธิ์ออกมาจากวิหารจนกระทั่งวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 1 ทุ่มตรง[15] การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 5 มิถุนายน โดยมีการต่อสู้กันประปราย (skirmishes) และดำเนินไปเป็นเวลา 3 วัน สิ้นสุดลงในวันที่ 8 มิถุนายน ตามด้วยปฏิบัติการกวาดล้างที่ตามมาทั่วทั้งปัญจาบภายใต้ชื่อปฏิบัติการวู้ดโรส[4]
กองทัพอินเดียประมาณการกำลังอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองกำลังขาลิสถานต่ำเกินไป การยิงต่อสู้เกิดขึ้นอย่างหนักที่อกาลตัขตะ หนึ่งในหมู่อาคารของวิหารทอง อาคารนี้ใช้เป็นที่มั่นของกองกำลังขาลิสถาน การยิงต่อสู้เกิดขึ้นยาวนาน 24 ชั่วโมง กองทัพอินเดียจึงสามารถเข้ายึดอาคารอกาลตัขต์ และหมู่อาคารของวิหารทองทั้งหมดได้ เป็นผลให้มีกองทัพอินเดียเสียชีวิต 83 ราย และบาดเจ็บ 249 ราย[16] ตามการประมาณการของทางการ ระบุว่ากองกำลังขาลิสถานถูกจับกุมทั้งหมด 1,592 ราย และมีผู้เสียชีวิตรวมทั้งกองกำลังขาลิสถานและศาสนิกชนผู้บริสุทธิ์ที่มาแสวงบุญรวม 493 ราย[7] ผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่ที่เป็นศาสนิกชนผู้บริสุทธิ์นั้นเกิดจากที่กองกำลังขาลิสถานใช้ผู้แสวงบุญที่ถูกกักไว้ภายในวิหารเป็นโล่มนุษย์[17]
การลงมือของกองทัพอินเดียในศาสนสถานศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของชาวซิกข์นี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักโดยศาสนิกชนซิกข์ทั่วโลก ผู้ตีความการกระทำนี้ว่าเป็นการโจมตีศาสนาซิกข์ (an assault on the Sikh religion)[18] เจ้าหน้าที่ทหารชาวซิกข์หลายคนในกองทัพลาออกจากหน่วย[19] ชาวซิกข์หลายคนลาออกจากราชการ บางส่วนคืนรางวัลที่ได้รับจากรัฐบาลอินเดีย เหตุการณ์นี้เป็นชนวนให้เมื่อ วันที่ 31 ตุลาคม 1984 (5 เดือนนับจากเหตุการณ์) อินทิรา คานธี ถูกลอบสังหารโดยองครักษ์ชาวซิกข์ประจำตัวเธอทั้งสองคน สัตวันต์ สิงห์ และ เพอันต์ สิงห์ เพื่อเป็นการแก้แค้นต่อเหตุการณ์นี้[12] การเสียชีวิตของอินทิรา คานธี นำไปสู่การประท้วงสาธารณะ ซึ่งส่งผลให้เกิดการฆาตกรรมศาสนิกชนซิกข์ทั่วประเทศรวมมากกว่า 3,000 รายทั่วประเทศ ตามมาจากจลาจลต่อต้านชาวซิกข์ 1984[20]