ดวงอาทิตย์
ดาวฤกษ์ศูนย์กลางระบบสุริยะ / From Wikipedia, the free encyclopedia
ดวงอาทิตย์ (อังกฤษ: Sun) เป็นดาวฤกษ์ ณ ใจกลางระบบสุริยะ เป็นพลาสมาร้อนทรงเกือบกลมสมบูรณ์[4][5] โดยมีการเคลื่อนที่พาซึ่งผลิตสนามแม่เหล็กผ่านกระบวนการไดนาโม[6] ปัจจุบันเป็นแหล่งพลังงานสำคัญที่สุดสำหรับสิ่งมีชีวิตบนโลก มีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.39 ล้านกิโลเมตร ใหญ่กว่าโลก 109 เท่า และมีมวลประมาณ 330,000 เท่าของโลก คิดเป็นประมาณร้อยละ 99.86 ของมวลทั้งหมดของระบบสุริยะ[7] มวลประมาณสามในสี่ของดวงอาทิตย์เป็นไฮโดรเจน ส่วนที่เหลือเป็นฮีเลียมเป็นหลัก โดยมีปริมาณธาตุหนักกว่าเล็กน้อย รวมทั้งออกซิเจน คาร์บอน นีออน และเหล็ก[8]
ดวงอาทิตย์ หรือ ๑ | |
ข้อมูลจากการสังเกต | |
---|---|
ระยะห่างเฉลี่ย วัดจากโลก |
1 หน่วยดาราศาสตร์ ≈ 1.496e+8 กิโลเมตร (8.19 นาทีที่ความเร็วแสง) |
ความส่องสว่างปรากฏ (V) | −26.74[1] |
ความส่องสว่างสัมบูรณ์ | 4.83[1] |
สเปกตรัม | G2V[2] |
ความเป็นโลหะ | Z = 0.0122 |
ขนาดเชิงมุม | 31.6–32.7 ลิปดา |
คำคุณศัพท์ | ทางสุริยคติ |
ลักษณะเฉพาะในวงโคจร | |
ระยะห่างเฉลี่ย จากแกน ดาราจักรทางช้างเผือก |
≈ 2.7e+17 กิโลเมตร (27,200 ปีแสง) |
คาบการโคจรครบรอบดาราจักร | 2.25e+8–2.50e+8 ปี |
อัตราเร็วในวงโคจร | ≈ 220 กิโลเมตรต่อวินาที (โคจรรอบศูนย์กลางดาราจักรทางช้างเผือก) ≈ 20 กิโลเมตรต่อวินาที ≈ 370 กิโลเมตรต่อวินาที |
ลักษณะเฉพาะทางฟิสิกส์ | |
รัศมีที่เส้นศูนย์สูตร | 695,700 กิโลเมตร [2]
696,392 กิโลเมตร 109 เท่าของโลก |
ความยาวเส้นศูนย์สูตร | 4.379e+6 กิโลเมตร [2] 109 เท่าของโลก |
ความแป้น | 9e−6 |
พื้นที่ผิว | 6.09e+12 ตารางกิโลเมตร [2] 12,000 เท่าของโลก |
ปริมาตร | 1.41e+18 ลูกบาศก์กิโลเมตร [2] 1,300,000 เท่าของโลก |
มวล | (1.988 55 ± 0.000 25)×1030 กิโลกรัม
333,000 เท่าของโลก [1] |
ความหนาแน่นเฉลี่ย | 1.408 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เซนติเมตร [2] 0.255 เท่าของโลก |
ความเร่งโน้มถ่วงที่ผิวบริเวณเส้นศูนย์สูตร | 274.0 เมตรต่อวินาที2 [1]
27.94 แรงโน้มถ่วง 27,542.29 เซนติเมตร-กรัม-วินาที 28 เท่าของโลก |
โมเมนต์ความเฉื่อย | 0.070[1] (โดยประมาณ) |
ความเร็วหลุดพ้น (วัดจากพื้นผิว) | 617.7 กิโลเมตรต่อวินาที [2] 55 เท่าของโลก |
อุณหภูมิ | แกน (รูปแบบ): 1.57×107 เคลวิน [1] โฟโตสเฟียร์ (เป็นผล): 5,772 เคลวิน [1] |
กำลังส่องสว่าง (Lsol) | 3.828e+26 วัตต์ [1] ≈ 3.75×1028 ลูเมน ≈ 98 ลูเมนต่อวัตต์ |
ความเข้มของการส่องสว่างเฉลี่ย (Isol) | 2.009e+7 W·m–2. sr–1 |
อายุ | ≈ 4.6e+9ปี |
ลักษณะเฉพาะของการหมุน | |
ความเอียงวงโคจร | 7.25°[1] (กับระนาบสุริยวิถี) 67.23° (กับระนาบดาราจักร) |
ไรต์แอสเซนชัน ของขั้วเหนือ[3] |
286.13° 19 ชั่วโมง 4 นาที 30 วินาที |
เดคลิเนชัน ของขั้วเหนือ |
+63.87° 63° 52' เหนือ |
คาบการหมุนดาราคติ (ที่เส้นศูนย์สูตร) |
25.05 วัน [1] |
(ที่ละติจูด 16°) | 25.38 วัน
25 วัน 9 ชั่วโมง 7 นาที 12 วินาที |
(ที่ขั้ว) | 34.4 วัน[1] |
อัตราเร็วของการหมุน (ที่เส้นศูนย์สูตร) |
7.189×103 กิโลเมตรต่อชั่วโมง |
ส่วนประกอบในโฟโตสเฟียร์โดยมวล | |
ไฮโดรเจน | 73.46 % |
ฮีเลียม | 24.85 % |
ออกซิเจน | 0.77 % |
คาร์บอน | 0.29 % |
เหล็ก | 0.16 % |
นีออน | 0.12 % |
ไนโตรเจน | 0.09 % |
ซิลิคอน | 0.07 % |
แมกนีเซียม | 0.05 % |
กำมะถัน | 0.04 % |
ข้อมูลอาจเปลี่ยนแปลงได้หากมีการค้นพบใหม่ |
ดวงอาทิตย์เป็นดาวฤกษ์ลำดับหลักระดับจี (G2V) ตามการจัดประเภทดาวฤกษ์ตามระดับสเปกตรัม โดยมักถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า "ดาวแคระเหลือง" ดวงอาทิตย์ก่อตัวขึ้นเมื่อประมาณ 4.6 พันล้านปีก่อน จากการยุบของแรงโน้มถ่วง (gravitational collapse) ของสสารภายในบริเวณกลุ่มเมฆโมเลกุลขนาดใหญ่ สสารนี้ส่วนใหญ่รวมอัดแน่นอยู่ที่ใจกลาง ส่วนที่เหลือบีบตัวลงลงเป็นแผ่นโคจรซึ่งกลายมาเป็นระบบสุริยะ มวลใจกลางร้อนและหนาแน่นมากจนเริ่มเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์ฟิวชัน ณ แก่นดาว ซึ่งเชื่อว่าเป็นกระบวนการเกิดดาวฤกษ์ส่วนใหญ่
ดวงอาทิตย์มีอายุมาได้ประมาณครึ่งอายุขัยแล้ว ไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนักเป็นเวลากว่า 4 พันล้านปีมาแล้ว และคาดว่าจะอยู่ในภาวะค่อนข้างเสถียรไปเช่นนี้อีก 5 พันล้านปี ในแต่ละวินาที ปฏิกิริยาหลอมนิวเคลียส (ฟิวชัน) ของดวงอาทิตย์ สามารถเปลี่ยนไฮโดรเจนอะตอมปริมาณ 600 ล้านตัน ให้กลายเป็นฮีเลียม และเปลี่ยนสสาร 4 ล้านตันให้เป็นพลังงานจากปฏิกิริยาดังกล่าว กว่าพลังงานนี้จะหนีออกจากแกนดวงอาทิตย์มาสู่พื้นผิวได้ ต้องใช้เวลานานราว 10,000 ถึง 170,000 ปี ในอีกราว 5 พันล้านปีข้างหน้า เมื่อปฏิกิริยาฟิวชันไฮโดรเจนในแก่นของดวงอาทิตย์ลดลงถึงจุดที่ไม่อยู่ในดุลยภาพอุทกสถิตต่อไป แก่นของดวงอาทิตย์จะมีความหนาแน่นและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นส่วนชั้นนอกของดวงอาทิตย์จะขยายออกจนสุดท้ายเป็นดาวยักษ์แดง มีการคำนวณว่าดวงอาทิตย์จะใหญ่พอกลืนวงโคจรปัจจุบันของดาวพุธและดาวศุกร์ และทำให้โลกไม่สามารถอาศัยอยู่ได้
มนุษย์ทราบความสำคัญของดวงอาทิตย์ที่มีต่อโลกมาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และบางวัฒนธรรมถือดวงอาทิตย์เป็นเทวดา การหมุนของโลกและวงโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลกเป็นรากฐานของปฏิทินสุริยคติ ซึ่งเป็นปฏิทินที่ใช้กันแพร่หลายในปัจจุบัน