![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/7/75/Col_Charles_Lindbergh.jpg/640px-Col_Charles_Lindbergh.jpg&w=640&q=50)
ชาลส์ ลินด์เบิร์ก
From Wikipedia, the free encyclopedia
ชาร์ลส์ เอ. ลินด์เบิร์ก (อังกฤษ: Charles Augustus Lindbergh) เป็นนักบินชาวอเมริกัน (4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1902 – 26 สิงหาคม ค.ศ. 1974) ผู้เป็นนักบินคนแรกที่บินเดี่ยวโดยไม่หยุดพักข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก จากนครนิวยอร์กไปยังปารีส โดยใช้เครื่องบินใบพัดปีกชั้นเดียวชื่อว่าสปิริตออฟเซนต์หลุยส์ เมื่อวันที่ 20–21 พฤษภาคม ค.ศ.1927 จนได้รับการยกย่องให้เป็นวีรบุรุษของชาวอเมริกัน
บทความนี้ต้องการการจัดหน้า จัดหมวดหมู่ ใส่ลิงก์ภายใน หรือเก็บกวาดเนื้อหา ให้มีคุณภาพดีขึ้น คุณสามารถปรับปรุงแก้ไขบทความนี้ได้ และนำป้ายออก พิจารณาใช้ป้ายข้อความอื่นเพื่อชี้ชัดข้อบกพร่อง |
ชาลส์ ลินด์เบิร์ก | |
---|---|
![]() ภาพโดย Harris & Ewing | |
เกิด | ชาลส์ ออกัสตัส ลินด์เบิร์ก 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1902(1902-02-04) ดีทรอยต์, รัฐมิชิแกน, สหรัฐ |
เสียชีวิต | สิงหาคม 26, 1974(1974-08-26) (72 ปี) กิปาฮูลู, เมาอี, ฮาวาย, สหรัฐ |
สุสาน | Palapala Ho'omau Church, กิปาฮูลู, เมาอี, ฮาวาย |
สัญชาติ | อเมริกัน |
ชื่ออื่น |
|
การศึกษา | Sidwell Friends School Redondo Union High School Little Falls High School มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน แมดิสัน (ไม่ได้รับปริญญา) |
อาชีพ | นักบิน, ผู้เขียน, นักประดิษฐ์, นักสำรวจ, นักเคลื่อนไหว |
มีชื่อเสียงจาก | บินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกคนเดียว (1927) |
คู่สมรส | แอนน์ มอร์โรว์ ลินด์เบิร์ก (1929–1974) (จนเขาเสียชีวิต) |
บุตร | กับแอนน์ มอร์โรว์ ลินด์เบิร์ก: ชาลส์ ออกัสตัส ลินด์เบิร์ก จูเนียร์ จอน ลินด์เบิร์ก แลนด์ มอร์โรว ลินด์เบิร์ก แอนน์ สเพนเซอร์ ลินด์เบิร์ก (เพอร์ริน) สก็อตต์ ลินด์เบิร์ก รีฟ ลินด์เบิร์ก (บราวน์) กับบริจิตต์ เฮสชัยเมอร์: ดีรก์ เฮสชัยเมอร์ แอสทริด เฮสชัยเมอร์ Bouteuil เดวิด เฮสชัยเมอร์ กับ มารีเอตตา เฮสชัยเมอร์: วาโก เฮสชัยเมอร์ คริสโตฟ เฮสชัยเมอร์. กับวาเลสกา (ไม่ทราบนามสกุล): ลูกชาย (ไม่ทราบชื่อ) ลูกสาว (ไม่ทราบชื่อ) |
บิดามารดา | ชาลส์ ออกัส ลินด์เบิร์ก Evangeline Lodge Land Lindbergh |
ยศที่ได้รับการแต่งตั้ง | |
รับใช้ | ![]() |
แผนก/ | ![]() ![]() ![]() |
ประจำการ | ค.ศ.1925–1941, ค.ศ.1954–1974 |
ชั้นยศ | ![]() |
บำเหน็จ | Medal of Honor (1927) Distinguished Flying Cross (1927) Congressional Gold Medal (1928) |
ลายมือชื่อ | ![]() |
เมื่อลินด์เบิร์กมีอายุได้ 25 ปี ขณะที่ทำงานเป็นนักบินให้กับการไปรษณีย์อเมริกา เขาได้ตัดสินใจเข้าร่วมชิงรางวัลออร์ทีก (Orteig Prize) ที่จะมอบเงิน 25,000 ดอลล่าร์สหรัฐแก่ใครก็ตามที่สามารถบินข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกโดยไม่หยุดพักได้ โดยลินด์เบิร์กได้เริ่มบินออกจากสนามบินรูสเวล ในการ์เดนซิตี ในลองไอส์แลนด์ รัฐนิวยอร์ก และไปสิ้นสุดการบินที่สนามบินเลอบูร์เกต์ (Le Bourget) ในกรุงปารีส ฝรั่งเศส รวมเป็นระยะทางกว่า 5,800 กิโลเมตร โดยใช้เครื่องบินใบพัดปีกชั้นเดียว เครื่องยนต์เดี่ยวที่มีชื่อว่า สปิริตออฟเซนต์หลุยส์ โดยความสำเร็จในครั้งนี้ส่งผลให้ลินด์เบิร์กมีชื่อเสียงไปทั่วโลกในทันที และได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติขั้นสูงสุดของสหรัฐอเมริกา ที่มีชื่อว่า เมดัลออฟฮอเนอร์ (Medal of Honor) อีกด้วย
ในตอนปลายคริสต์ทศวรรษ 1920 ถึงต้นทศวรรษ 1930 ลินด์เบิร์กได้ใช้ชื่อเสียงของตนในการสนับสนุนการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตามในเดือนมีนาคม ค.ศ. 1932 ลูกชายของลินด์เบิร์กที่ยังเป็นเพียงเด็กทารก ได้ถูกลักพาตัวและฆาตกรรมในภายหลัง ซึ่งบรรดาสื่อถือว่าเป็น "อาชญากรรมแห่งศตวรรษ" เหตุการณ์ครั้งนี้ส่งผลให้ลินด์เบิร์กและครอบครัวตัดสินใจอพยพไปอยู่ในยุโรป
จนกระทั่งเมื่อจักรวรรดิ์ญี่ปุ่นได้เปิดฉากโจมตีท่าเพิร์ลฮาร์เบอร์ โดยก่อนหน้านี้ ลินด์เบิร์กเคยเป็นผู้สนับสนุนคนสำคัญในการต่อต้านไม่ให้สหรัฐเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่สอง ตามรอยบิดาของเขาที่ก็เป็นผู้นำของขบวนการต่อต้านสงครามในสหรัฐอเมริกา อย่างไรก็ตาม หลังเหตุการณ์ที่เพิร์ลฮาร์เบอร์ ลินด์เบิร์กได้หันมาสนับสนุนในการทำสงครามกับญี่ปุ่น และให้คำปรึกษาแก่กองทัพในสมรภูมิสงครามแปซิฟิกหลายครั้ง อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีแฟรงกลิน ดี. โรสเวลต์ ปฏิเสธที่จะคืนยศแก่ลินเบิร์ก หลังจากที่ลินด์เบิร์กได้ตัดสินใจลาออกจากกองทัพในเดือนเมษายน ค.ศ. 1941
ในบั้นปลายของชีวิต ลินด์เบิร์กยังได้กลายเป็นนักเขียนที่โด่งดัง นักสำรวจ นักประดิษฐ์ และนักสิ่งแวดล้อมอีกด้วย