การเมืองสเปน
รูปแบบการปกครองของประเทศสเปน / From Wikipedia, the free encyclopedia
การเมืองสเปน ดำเนินอยู่ภายใต้บทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสเปน ค.ศ. 1978 สเปนได้รับการสถาปนาเป็นรัฐเอกราชที่มีสังคม และประชาธิปไตย[1] ซึ่งอยู่ภายใต้อำนาจอธิปไตยของปวงชนผ่านการแสดงอำนาจของรัฐ[1]
การเมืองสเปน Política de España (สเปน) Política d'Espanya (กาตาลา) Política de España (กาลิเซีย) Espainiako politika (บาสก์) | |
---|---|
ประเภทรัฐ | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
รัฐธรรมนูญ | รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสเปน |
ฝ่ายนิติบัญญัติ | |
ชื่อ | รัฐสภาสเปน |
ประเภท | ระบบสองสภา |
สถานที่ประชุม | ปาลาซิโอเดลเซนาโด ปาลาซิโอเดลัสกอร์เตส (มาดริด) |
สภาสูง | |
ชื่อ | วุฒิสภา |
ประธาน | เปโดร โรยัน ประธานวุฒิสภา |
สภาล่าง | |
ชื่อ | สภาผู้แทนราษฎร |
ประธาน | ฟรันซินา อาร์เมนกอล ประธานสภาผู้แทนราษฎร |
ฝ่ายบริหาร | |
ประมุขแห่งรัฐ | |
คำเรียก | พระมหากษัตริย์ |
ปัจจุบัน | สมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 |
ผู้แต่งตั้ง | การสืบราชสันตติวงศ์ |
หัวหน้ารัฐบาล | |
คำเรียก | นายกรัฐมนตรี |
ปัจจุบัน | เปโดร ซันเชซ |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์ |
คณะรัฐมนตรี | |
คำเรียก | คณะรัฐมนตรี |
ชุดปัจจุบัน | รัฐบาลที่สองของเปโดร ซันเชซ |
หัวหน้า | นายกรัฐมนตรี |
รองหัวหน้า | รองนายกรัฐมนตรีสเปนคนแรก |
ผู้แต่งตั้ง | พระมหากษัตริย์ |
สำนักงานใหญ่ | พระราชวังมองโกลอา |
ฝ่ายตุลาการ | |
ชื่อ | ระบบศาลยุติธรรมสเปน |
ศาล | ศาลยุติธรรมสูง |
ศาลฎีกา | |
ประธานศาล | การ์โลส เลสเมส |
ที่ตั้งศาล | คอนแวนต์แห่งซาเลซัสเรอาเลส |
ศาลแห่งชาติ | |
ประธานศาล | โฆเซ รามอน นาบาร์โร |
รูปแบบการปกครองในสเปน เป็นระบอบประชาธิปไตย ระบบรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์[1] กล่าวคือ เป็นระบอบประชาธิปไตยแบบมีผู้แทน ซึ่งมีพระมหากษัตริย์ เป็นประมุขแห่งรัฐที่อยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ ในขณะที่ นายกรัฐมนตรี ซึ่งมีชื่ออย่างเป็นทางการคือ "ประธานแห่งรัฐบาล" เป็นหัวหน้ารัฐบาล อำนาจบริหาร อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีอื่น ๆ รวมกันจัดตั้งคณะรัฐมนตรี อำนาจนิติบัญญัติ เป็นอำนาจของรัฐสภากอร์เตสเฆเนราเลส ซึ่งเป็นระบบสองสภา ประกอบด้วย สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา อำนาจตุลาการ เป็นอำนาจอิสระจากฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ อยู่ภายใต้ลายพระอภิไธยของพระมหากษัตริย์ ใช้อำนาจผ่านข้าราชการฝ่ายตุลาการ และผู้พิพากษา โดยมีศาลฎีกา เป็นศาลสูงสุดของประเทศ มีเขตอำนาจศาลในทุกแคว้นของสเปนเหนือกว่าทุกสิ่งในทุกเรื่อง เว้นแต่เรื่องรัฐธรรมนูญ ซึ่งอยู่ในเขตอำนาจของศาลที่แยกจากกันคือ ศาลรัฐธรรมนูญ
ระบบการเมืองของสเปน เป็นระบบหลายพรรคการเมือง แต่นับตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 1990 มีเพียงสองพรรคการเมืองที่โดดเด่นขึ้นมา ได้แก่ พรรคแรงงานสังคมนิยมสเปน (PSOE) และพรรคประชาชน (PP) นอกจากนี้ยังมีพรรคภูมิภาคนิยมที่สำคัญ ได้แก่ พรรคชาตินิยมบาสก์ (EAJ-PNV) จากแคว้นประเทศบาสก์ พรรคหลอมหลวมและสหภาพ (CiU) และ พรรคสาธารณรัฐฝ่ายซ้ายแห่งกาตาลุญญา (ERC) จากแคว้นกาตาลุญญา ได้มีบทบาทสำคัญในการเมืองสเปน โดยสมาชิกของสภาผู้แทนราษฎรได้รับการเลือกผ่านการเลือกตั้งระบบสัดส่วน ซึ่งรัฐบาลจัดตั้งโดยพรรคเดียว หรืออาจรวมกันหลายพรรค โดยได้รับความไว้วางใจจากรัฐสภา แต่เดิมนับตั้งแต่เปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย เป็นธรรมเนียมปฏิบัติมาว่า พรรคการเมืองที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดจะได้จัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ถึงแม้ว่าบางครั้งพรรคนั้นจะไม่มีเสียงเกินกว่ากึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร และกลายเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย แต่ก็ยังมีอำนาจบริหารต่อไปได้โดยอาศัยสมาชิกพรรคอื่น ๆ ในการให้ความเห็นชอบร่างงบประมาณ และร่างกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 2020 การจัดตั้งรัฐบาลที่สองของเปโดร ซันเชซ ซึ่งจัดตั้งโดยพรรคแรงงานสังคมนิยมสเปน และพรรคอูนิดัสโปเดโมส เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่การจัดตั้งรัฐบาลผสม เกิดขึ้นในสเปน นับตั้งแต่สาธารณรัฐสเปนที่ 2
รัฐบาลระดับภูมิภาคทำหน้าที่ภายใต้ระบบที่เรียกว่า รัฐปกครองตนเอง ซึ่งเป็นระบบการบริหารแบบกระจายอำนาจสูง (เป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากเยอรมนี ในดัชนีอำนาจส่วนภูมิภาค มาตั้งแต่ ค.ศ. 1998)[2] เดิมทีถูกวางกรอบว่าเป็นรูปแบบหนึ่งของ "สหพันธรัฐที่ไม่สมมาตร" ด้วยลักษณะของภูมิภาคที่มี "เชื้อชาติทางประวัติศาสตร์" สิ่งนี้ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วกลายเป็นการสร้างภูมิภาคต่าง ๆ ไปทั่วสเปน และกระจายอำนาจให้แก่ทุกคน รู้จักกันอย่างกว้างขวางในนาม "กาแฟสำหรับทุกคน"[3] เป็นการใช้สิทธิการปกครองตนเองตามที่ได้รับจากรัฐธรรมนูญ โดยแบ่งออกเป็น 17 แคว้นปกครองตนเอง และ 2 นครปกครองตนเอง รูปแบบของรัฐบาลในแต่ละแคว้นปกครองตนเอง และนครปกครองตนเองตั้งอยู่ในระบบรัฐสภา โดยอำนาจบริหารเป็นของ “ประธาน” และคณะรัฐมนตรี
ใน ค.ศ. 2022 หน่วยข่าวกรองของนักเศรษฐศาสตร์ ได้ลดระดับสเปนจาก ประชาธิปไตยเต็มรูปแบบ สู่ "ประชาธิปไตยบกพร่อง" เนื่องจาก ความกังวลเกี่ยวกับความเป็นอิสระของตุลาการ หลังจากฝ่ายการเมืองมีอำนาจในการแต่งตั้งผู้พิพากษาคนใหม่ให้กับสภาตุลาการทั่วไป (CGPJ)[4]