![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/8/84/Protests_against_the_arrest_of_opposition_politician_Alexei_Navalny._Saint_Petersburg%252C_23_January_2021.jpg/640px-Protests_against_the_arrest_of_opposition_politician_Alexei_Navalny._Saint_Petersburg%252C_23_January_2021.jpg&w=640&q=50)
การประท้วงในประเทศรัสเซีย พ.ศ. 2564
From Wikipedia, the free encyclopedia
การประท้วงในประเทศรัสเซีย พ.ศ. 2564 เริ่มต้นขึ้นในวันที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2564 เพื่อสนับสนุนผู้นำฝ่ายค้าน อะเลกเซย์ นาวัลนืย หลังถูกคุมตัวทันทีเมื่อกลับมารัสเซียหลังจากถูกส่งตัวไปรักษาจากการวางยาพิษในปีที่แล้วที่เยอรมนี ก่อนที่จะมีการประท้วง เขาและมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ได้เผยแพร่สารคดีเรื่อง อะพาเลซฟอร์ปูติน: เดอะสตอรีออฟเดอะบิกเจสท์ไบรบ์ ซึ่งมีเนื้อหาการเชื่อมโยงระหว่างประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูตินกับวังที่ถูกกล่าวหาว่าสร้างให้แก่เขา[38][39][2]
![]() | บทความนี้อาจขยายความได้โดยการแปลบทความที่ตรงกันในภาษารัสเซีย (มกราคม 2021) คลิกที่ [ขยาย] เพื่อศึกษาแนวทางการแปล
|
การประท้วงในประเทศรัสเซีย พ.ศ. 2564 | |||
---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ การต่อต้านวลาดีมีร์ในประเทศรัสเซีย | |||
![]() กลุ่มผู้ประท้วงที่มาร์โซโวปอเล เซนต์ปีเตอร์เบิร์กเมื่อวันที่ 23 มกราคม | |||
วันที่ | 23 มกราคม – 21 เมษายน พ.ศ. 2564[1] (2 เดือน 4 สัปดาห์ 1 วัน) | ||
สถานที่ | รัสเซียและประเทศอื่น ๆ [lower-alpha 1] | ||
สาเหตุ |
| ||
เป้าหมาย |
| ||
วิธีการ |
| ||
คู่ขัดแย้ง | |||
| |||
ผู้นำ | |||
ความเสียหาย | |||
เสียชีวิต | 0 | ||
บาดเจ็บ | 23 มกราคม: เจ้าหน้าที่ตำรวจ 39 นาย (ส่วนน้อย),[29] นักข่าว 50 คน,[29] บาดเจ็บหนัก 2 คน | ||
ถูกจับกุม | 23 มกราคม: มากกว่า 4,000 คน[30][31] 31 มกราคม: มากกว่า 5,600 คน[32][33][34] 2 กุมภาพันธ์: มากกว่า 1,500 คน[35] 14 กุมภาพันธ์: 19 คน[36] 21 เมษายน: มากกว่า 2,100 คน[37] |
ในวันแรก มีการประท้วงใน 198 เมืองทั่วประเทศรัสเซีย โดยเป็นหนึ่งในการประท้วงต่อต้านรัฐบาลครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่การประท้วงใน พ.ศ. 2554–2557[40][41][42][43] แต่ถูกตำรวจสลายการชุมนุม เพราะจัดโดยไม่ได้รับการอนุญาต โดยมีผู้ถูกคุมตัวพันกว่าคน[44] ทำให้ทีมของนาวัลนืยประกาศหยุดประท้วงกลางถนนในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ เพราะต้องการมุ่งเน้นถึงการเลือกตั้งสภานิติบัญญัติที่จะจัดขึ้นภายหลังในปีนี้[45][46] และต่อมาค่อยย้ายไปชุมนุมที่ลานกว้างเพื่อหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับตำรวจ[47][48] หลังสุขภาพของนาวัลนืยแย่ลงตอนถูกคุมขังในเรือนจำ จึงมีการประท้วงบนถนนอีกครั้งเป้นครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 เมษายน[49]
ถึงแม้จะมีการประท้วง ก็ยังคงมีการลงอาญาจำคุกนาวัลนืยในวันที่ 2 กุมภาพันธ์[50] หลังการประท้วง ในวันที่ 16 เมษายน สำนักงานอัยการมอสโกได้ร้องขอให้ศาลเมืองมอสโกจัดให้องค์กรที่มีส่วนกับนาวัลนืย เช่น มูลนิธิต่อต้านการทุจริตและศูนย์บัญชาการในฐานะองค์กรหัวรุนแรงอย่างเป็นทางการ โดยอ้างว่า: "ภายใต้การแฝงตัวของนโยบายเสรีนิยม องค์กรเหล่านี้มีส่วนในการสร้างสถานการณ์เพื่อสร้างความไม่มั่นคงทางสังคมและสถานการณ์ทางสังคม-การเมือง"[51] ในวันที่ 9 มิถุนายน ศาลเมืองมอสโกจัดให้องค์กรเหล่านี้เป็นกลุ่มหัวรุนแรงและถูกเรียกค่าเสียหาย[52][53]