![cover image](https://wikiwandv2-19431.kxcdn.com/_next/image?url=https://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/6/6a/Sudanese_protestors_celebrate_signing_of_political_agreement.png/640px-Sudanese_protestors_celebrate_signing_of_political_agreement.png&w=640&q=50)
การประท้วงในประเทศซูดาน พ.ศ. 2561–2562
From Wikipedia, the free encyclopedia
ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2561 เกิดเหตุการณ์เดินขบวนประท้วงขึ้นในหลายเมืองของประเทศซูดาน ส่วนหนึ่งเนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้นและสภาพเศรษฐกิจที่เสื่อมถอยในทุกระดับของสังคม[14] วัตถุประสงค์ของการประท้วงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วจากการเรียกร้องให้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วนมาสู่การเรียกร้องให้ประธานาธิบดีอุมัร อัลบะชีร ก้าวลงจากตำแหน่ง[15][16]
การประท้วงในประเทศซูดาน พ.ศ. 2561–2562 | |||
---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ การประท้วงในโลกอาหรับ พ.ศ. 2561–2562 | |||
![]() กลุ่มผู้ชุมนุมฉลองในวันที่ 17 สิงหาคม ค.ศ. 2019 | |||
วันที่ | 19 ธันวาคม 2561 (2018-12-19) – 5 กรกฎาคม 2562 (6 เดือน 2 สัปดาห์ 2 วัน) การประท้วงประปรายยังคงดำเนินต่อไป | ||
สถานที่ | |||
สาเหตุ |
| ||
เป้าหมาย |
| ||
วิธีการ |
| ||
ผล |
| ||
คู่ขัดแย้ง | |||
| |||
ผู้นำ | |||
| |||
ความเสียหาย | |||
เสียชีวิต | มากกว่า 208 คน[12][13] | ||
ถูกจับกุม | มากกว่า 800 คน |
ปฏิกิริยาที่รุนแรงของรัฐบาลซูดานต่อชุดการประท้วงดังกล่าวก่อให้เกิดความกังวลในระดับนานาชาติ ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 อัลบะชีรประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินและยุบรัฐบาลทั้งในระดับชาติและระดับภูมิภาค โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการรัฐต่าง ๆ แทน[17] ในวันที่ 8 มีนาคม อัลบะชีรประกาศว่าผู้หญิงทุกคนที่ถูกคุมขังจากการประท้วงต่อต้านรัฐบาลจะได้รับการปล่อยตัว[18] ในวันหยุดสุดสัปดาห์ของวันที่ 6–7 เมษายน เกิดการประท้วงขนาดใหญ่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน[19] ในวันที่ 10 เมษายน มีผู้พบเห็นทหารกำลังปกป้องกลุ่มผู้ประท้วงจากกองกำลังรักษาความมั่นคง[20] และในวันที่ 11 เมษายน กองทัพซูดานก่อรัฐประหารยึดอำนาจจากอัลบะชีร
หลังการปลดอัลบะชีรออกจากตำแหน่ง การประท้วงตามท้องถนนที่จัดขึ้นโดยสมาคมวิชาชีพซูดาน (Sudanese Professionals Association) และกลุ่มต่อต้านที่นิยมประชาธิปไตยยังคงดำเนินต่อไป โดยเรียกร้องให้สภาทหารระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional Military Council) ซึ่งกุมอำนาจอยู่นั้นหลีกทาง "โดยทันทีและไม่มีเงื่อนไข" ให้แก่รัฐบาลชั่วคราวที่นำโดยพลเรือน และเรียกร้องให้มีการปฏิรูปอื่น ๆ ในซูดาน[21][9] การเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐบาลร่วมชั่วคราวระหว่างสภาทหารฯ กับพลเรือนฝ่ายต่อต้านเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายนและในเดือนพฤษภาคม แต่ยุติลงเมื่อกองกำลังสนับสนุนฉับไว (Rapid Support Forces) และกองกำลังรักษาความมั่นคงอื่น ๆ ของสภาทหารฯ ใช้ความรุนแรงในการปราบปรามผู้ประท้วงในวันที่ 3 มิถุนายน จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 118 ราย[22] และยังมีผู้ถูกทำร้ายและถูกข่มขืนอีกด้วย[10]
ฝ่ายต่อต้านตอบโต้เหตุสังหารหมู่และการจับกุมหลังเหตุสังหารหมู่ด้วยการนัดหยุดงานทั่วไปเป็นเวลา 3 วัน ระหว่างวันที่ 9–11 มิถุนายน[23] และเรียกร้องให้มีการขัดขืนอย่างสงบและการต่อต้านโดยสันติวิธีต่อไปจนกว่าสภาทหารฯ จะถ่ายโอนอำนาจแก่รัฐบาลที่เป็นพลเรือน[10][24] ในวันที่ 12 มิถุนายน กลุ่มต่อต้านตกลงที่จะยุติการนัดหยุดงาน และสภาทหารฯ ตกลงที่จะปล่อยตัวนักโทษการเมือง มีการวางแผนจัดการเจรจาครั้งใหม่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลพลเรือน[25]