การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2566
From Wikipedia, the free encyclopedia
การประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พ.ศ. 2566 (อังกฤษ: 2023 United Nations Climate Change Conference) หรือรู้จักในชื่อย่อ COP28[1][2] เป็นการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศครั้งที่ 28 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน ถึง 12 ธันวาคม 2566 ที่เอ็กซ์โปซิตี ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์[3][4] การประชุม COP มีการจัดเป็นประจำทุกปีเรื่อยมา (ยกเว้นในปี 2020 เนื่องจากการระบาดของโควิด-19)[5] นับตั้งแต่การลงนามข้อตกลงด้านสภาพภูมิอากาศของสหประชาชาติในปี 1992 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้รัฐบาลมีข้อตกลงร่วมสำหรับนโยบายจำกัดการเพิ่มสูงขึ้นของอุณหภูมิสภาพอากาศ และ ปรับตัวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ[6]
ทางเข้าการประชุม COP28 พร้อมด้วยธงของชาติต่าง ๆ | |
ชื่อพื้นเมือง | مؤتمر الأمم المتحدة للتغير المناخي 2023 |
---|---|
วันที่ | 30 พฤศจิกายน – 12 ธันวาคม ค.ศ. 2023 (2023-11-30 – 2023-12-12) |
ที่ตั้ง | เอ็กซ์โปซิตี ดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
จัดโดย | สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ |
ผู้เข้าร่วม | รัฐสมาชิก UNFCCC |
ประธาน | ซุลตัน อัลญาบัร |
ก่อนหน้า | ← 2022 |
ถัดไป | → 2024 |
เว็บไซต์ | https://www.cop28.com |
การประชุมในครั้งนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วเนื่องมาจากประธานการประชุม ซุลตัน อัลญาบัร ตลอดจนสถานที่จัดซึ่งคือสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ซึ่งเป็นที่รู้จักว่าขาดความโปร่งใสในรัฐบาลและมีบทบาทเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของเชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์[7] ซุลตัน อัลญาบัร เป็นซีอีโอของบริษัทน้ำมันแห่งชาติอาบูดาบี (ADNOC) ซึ่งทำไปสู่ข้อกังวลว่าการประชุมนี้อาจมีข้อขัดแย้งทางผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง[8] โดยสมาชิกมากกว่า 100 คนของรัฐสภาสหรัฐ และ สภายุโรป เรียกร้องให้สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ถอดถอนอัลญาบัรออกจากตำแหน่ง[9] คำกล่าวอ้างเชิงย้อมเขียวเกี่ยวกับอัลญาบัรที่ปรากฏบนหน้าบทความของเขาบนวิกิพีเดียผ่านการแก้ไขโดยได้รับผลตอบแทน, การที่ไม่สามารถวิจารณ์บริษัทของเอมิเรตในประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, การลักลอบเข้าถึงอีเมลการประชุมโดยบริษัท ADNOC และการส่งคำเชิญให้แก่ประธานาธิบดีซีเรีย บาชาร์ อัลอัสซาด ล้วนทำให้เกิดข้อวิตกกังวลต่อความเป็นอันหนึ่งอันเดียวในการประชุมครั้งนี้[10][11][12][13] มีการเปิดโปงขบวนการบัญชีหุ่นเชิดซึ่งจัดขึ้นโดยมีเป้าหมายเพื่อปกป้องอัลญาบัรและประเทศในเดือนมิถุนายน[14] และในวันที่ 21 พฤศจิกายน อัลญาบัรเองได้ระบุว่า “ไม่มีวิทยาศาสตร์” หนุนหลังการลดเลิกการใช้เชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์สำหรับเป้าหมายอุณหภูมิ 1.5 °C[15] หกวันถัดมาได้มีเอกสารหลุดที่ปรากฏแผนการของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ที่จะใช้การประชุมนี้เพื่อหาคู่ค้าเชื้อเพลิงดึกดำบรรพ์กับชาติอื่น ๆ ซึ่งทำให้เกิดความไม่พึงพอใจไปในระดับนานาชาติ[16]