กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น
From Wikipedia, the free encyclopedia
กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น (ญี่ปุ่น: 自衛隊; โรมาจิ: じえいたい; ทับศัพท์: Jieitai; จิเอไต) หรือ JSDF บางครั้งเรียกว่า JSF หรือ SDF เป็นบุคลากรจากประเทศญี่ปุ่นที่ถูกจัดตั้งขึ้นหลังสงครามโลกครั้งที่สองสิ้นสุดลงเพื่อแทนที่กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นที่ถูกยุบ และฝ่ายสัมพันธมิตรยึดครองญี่ปุ่น ในเวลาหลังสงคราม กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นถูกใช้งานในเฉพาะภายในประเทศมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศอธิปไตยชาติเพียงอย่างเดียวและไม่ได้รับอนุญาตให้ปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ ยกเว้นในสถานการณ์ที่เป็นการป้องกันตนเองในขอบเขตที่จำกัดเท่านั้น แม้อาจมีภารกิจในต่างประเทศในปฏิบัติการรักษาสันติภาพ แต่ล่าสุดในวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2557 ครม.ญี่ปุ่นได้ตีความรัฐธรรมนูญมาตรา 9 ของรัฐธรรมนูญแห่งญี่ปุ่นใหม่สรุปได้ว่า กองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นจะสามารถส่งทหารไปปฏิบัติภารกิจการป้องกันตนเองร่วมได้(Collectvie-Self Defence) ตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเพื่อปกป้องชาติหนึ่งจากการถูกรุกราน โดยญี่ปุ่นจะสามารถไปช่วยเหลือชาติพันธมิตรใกล้ชิดที่ถูกโจมตีได้ หากการโจมตีนั้นเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของญี่ปุ่นและไม่มีวิธีอื่นในการปกป้องชีวิตชาวญี่ปุ่น
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น | |
---|---|
日本国自衛隊 | |
ธงกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น | |
เหล่า | กองกำลังป้องกันตนเองภาคพื้นดินญี่ปุ่น กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น |
กองบัญชาการ | โตเกียว |
ผู้บังคับบัญชา | |
จอมทัพ | นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ฟูมิโอะ คิชิดะ |
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม | ยาซูกายู ฮามาดา |
ผู้บัญชาการเสนาธิการ | พลเอก โยซีฮีเด โยซีดา |
กำลังพล | |
อายุเริ่มบรรจุ | 18–32ปี มีคุณสมบัติเหมาะสมสำหรับการเข้ารับราชการทหาร |
ประชากร วัยบรรจุ | 27,301,443 ชาย, อายุ 18–49 (ปี 2010), 26,307,003 หญิง, อายุ 18–49 (ปี 2010) |
ประชากร ฉกรรจ์ | 22,390,431 ชาย, อายุ 18–49 (ปี 2010), 21,540,322 หญิง, อายุ 18–49 (ปี 2010) |
ประชากรวัยถึงขั้น ประจำการทุกปี | 623,365 ชาย (ปี 2010), 591,253 หญิง (ปี 2010) |
ยอดประจำการ | 247,150 (2018) (ranked 24th) |
ยอดสำรอง | 56,000 (2018) |
รายจ่าย | |
งบประมาณ | US$47.3 พันล้าน (2018)[1] (ranked 8th) |
ร้อยละต่อจีดีพี | 0.9% (2020) |
อุตสาหกรรม | |
แหล่งผลิตในประเทศ | รายชื่อ Defense industry of Japan |
แหล่งผลิตนอกประเทศ | ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สวีเดน[3] สหราชอาณาจักร สหรัฐ |
บทความที่เกี่ยวข้อง | |
ประวัติ | ประวัติศาสตร์ทางทหารของญี่ปุ่น กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่น |
ยศ | ยศทหาร ลำดับเกียรติเครื่องอิสริยาภรณ์ |
ในด้านการพัฒนาอาวุธ ในรธน.ญี่ปุ่นถูกกำหนดห้ามพัฒนาอาวุธในเชิงรุก ส่วนในด้านการห้ามส่งออกอาวุธนั้น แม้ญี่ปุ่นจะเป็นผู้กำหนดขึ้นเองเมื่อปีพ.ศ. 2510 แต่ในวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557 ญี่ปุ่นได้ผ่อนคลายกฎห้ามส่งออกอาวุธ โดยสามารถส่งออกอาวุธและมีส่วนร่วมในการผลิตอาวุธกับนานาชาติได้ แต่ญี่ปุ่นจะไม่ส่งออกอาวุธให้แก่ประเทศที่ตกอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง หรืออาจเป็นภัยคุกคามต่อสันติภาพและความมั่นคงของนานาชาติ นอกจากนี้ การจำหน่ายอาวุธก็จะต้องเป็นไปเพื่อส่งเสริมสันติภาพสากลคือต้องเป็นยุทโธปกรณ์ที่ไม่ใช่เพื่อสังหาร และเป็นประโยชน์ต่อความมั่นคงของญี่ปุ่นเอง[4][5]
ส่วนในด้านการสนันสนุนกองกำลังต่างชาติ ในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558 รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศแก้ไขกฎบัตรว่าด้วยการสนับสนุนต่างชาติ โดยสามารถมอบทุนสนับสนุนภารกิจของกองกำลังต่างชาติที่มิใช่การสู้รบ[6]