รัฐเท็กซัส
From Wikipedia, the free encyclopedia
เท็กซัส (อังกฤษ: Texas, เสียงอ่านภาษาอังกฤษ: /ˈtɛksəs/) เป็นรัฐที่อยู่ทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ มีพื้นที่รวม 268,596 ตารางไมล์ (695,660 ตารางกิโลเมตร) และประชากรมากกว่า 30 ล้านคนใน ค.ศ. 2023[9][10] เท็กซัสเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของสหรัฐทั้งในด้านขนาดพื้นที่ (เป็นรองเพียงอะแลสกา) และจำนวนประชากร (เป็นรองแคลิฟอร์เนีย) มีพรมแดนติดกับรัฐลุยเซียนาทางทิศตะวันออก, รัฐอาร์คันซอทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, รัฐโอคลาโฮมาทางทิศเหนือ, รัฐนิวเม็กซิโกทางทิศตะวันตก และยังมีพรมแดนทางทิศใต้และตะวันเฉียงใต้เชื่อมต่อกับรัฐของเม็กซิโกอย่าง รัฐชิวาวา, รัฐโกอาวิลา, รัฐนวยโบเลออน และรัฐตาเมาลิปัส และยังเชื่อมอ่าวเม็กซิโกทางตะวันออกเฉียงใต้
รัฐเท็กซัส | |
---|---|
รัฐเท็กซัส | |
สมญา: The Lone Star State | |
คำขวัญ: Friendship | |
แผนที่สหรัฐเน้นรัฐเท็กซัส | |
ประเทศ | สหรัฐ |
สถานะก่อนเป็นรัฐ | สาธารณรัฐเท็กซัส |
เข้าร่วมสหรัฐ | December 29, 1845 (28th) |
เมืองหลวง | ออสติน |
เมืองใหญ่สุด | ฮิวสตัน |
มหานครใหญ่สุด | Dallas–Fort Worth–Arlington |
การปกครอง | |
• ผู้ว่าการ | เกร็ก แอบบอต (R) |
• รองผู้ว่าการ | Dan Patrick (R) |
สภานิติบัญญัติ | Texas Legislature |
• สภาสูง | Senate |
• สภาล่าง | House of Representatives |
สมาชิกวุฒิสภา | จอห์น คอร์นิน (R) เท็ด ครูซ (R) |
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร | 25 Republicans, 11 Democrats |
พื้นที่ | |
• ทั้งหมด | 268,581[1] ตร.ไมล์ (696,241 ตร.กม.) |
• พื้นดิน | 261,797[1] ตร.ไมล์ (678,051 ตร.กม.) |
• พื้นน้ำ | 6,785 ตร.ไมล์ (17,574 ตร.กม.) 2.5% |
อันดับพื้นที่ | 2nd |
ขนาด | |
• ความยาว | 790 ไมล์ (1,270 กิโลเมตร) |
• ความกว้าง | 773[2] ไมล์ (1,244 กิโลเมตร) |
ความสูง | 1,700 ฟุต (520 เมตร) |
ความสูงจุดสูงสุด (Guadalupe Peak[3][4][5]) | 8,751 ฟุต (2,667.4 เมตร) |
ความสูงจุดต่ำสุด (Gulf of Mexico[4]) | 0 ฟุต (0 เมตร) |
ประชากร | |
• ทั้งหมด | 27,862,596 (2,016 est)[6] คน |
• อันดับ | 2nd |
• ความหนาแน่น | 103.7 คน/ตร.ไมล์ (40.0 คน/ตร.กม.) |
• อันดับความหนาแน่น | 26th |
• ค่ามัธยฐานรายได้ครัวเรือน | $56,473 [7] |
• อันดับรายได้ | 26th |
เดมะนิม | Texan Texian (archaic) Tejano (Usually only used for Hispanics) |
ภาษา | |
• ภาษาทางการ | No official language (see Languages spoken in Texas) |
• ภาษาพูด | Predominantly English; Spanish spoken by sizable minority[8] |
เขตเวลา | Central: UTC −6/−5 |
อักษรย่อไปรษณีย์ | TX |
รหัส ISO 3166 | US-TX |
อักษรย่อเดิม | Tex. |
ละติจูด | 25° 50′ N to 36° 30′ N |
ลองจิจูด | 93° 31′ W to 106° 39′ W |
เว็บไซต์ | www |
ฮิวสตันเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในรัฐนี้ และยังเป็นเมืองที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 4 ของสหรัฐ ตามมาด้วยแซนแอนโทนีโอซึ่งมีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองในรัฐ และเป็นอันดับ 7 ในสหรัฐ โดยมีดัลลาส–ฟอร์ตเวิร์ธ และเกรทเทอร์ฮิวส์ตัน เป็นนครที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอันดับ 4 และ 5 ตามลำดับ เมืองสำคัญอื่น ๆ ได้แก่ ออสตินซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองในสหรัฐ และเอลแพโซ เท็กซัสมีชื่อเรียกว่า Lone Star State เนื่องจากในอดีตรัฐนี้เคยเป็นสาธารณรัฐเท็กซัสในศตวรรษที่ 19 และเป็นเครื่องเตือนใจเพื่อสะท้อนความยากลำบากในการต่อสู้ของคนในท้องถื่น เพื่อช่วงชิงเอกราชของรัฐคืนจากเม็กซิโก นี่จึงเป็นที่มาของรูปดาวซึ่งปรากฏบนธงและตราประทับประจำรัฐในปัจจุบัน ที่มาของชื่อเท็กซัสมาจากคำว่า Caddo táysha ในภาษาคัดโดของชาวพื้นเมืองอเมริกันซึ่งแปลว่า "เพื่อน"
เนื่องจากขนาดและลักษณะทางธรณีวิทยา จึงทำให้รัฐเท็กซัสมีลักษณะภูมิประเทศที่หลากหลายซึ่งพบได้ทั่วไปทั้งในภูมิภาคทางใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ[11] แม้ว่าเท็กซัสจะมีความเกี่ยวข้องกับทะเลทรายทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ แต่มีพื้นที่ไม่ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ที่เป็นทะเลทราย[12] ประชากรส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ซึ่งเคยเป็นทุ่งหญ้าแพรรี ป่า และแนวชายฝั่ง ภูมิประเทศมีตั้งแต่หนองน้ำริมชายฝั่งและป่าสน ไปจนถึงที่ราบลูกคลื่นและเนินเขาขรุขระ และทะเลทรายจนถึงเทือกเขาบิ๊กเบนด์
วลีที่ว่า ธงทั้งหกเหนือรัฐเท็กซัส (Six flags over Texas) สื่อถึงรัฐเอกราชที่เคยเข้ามาครอบครองดินแดนนี้ สเปนเป็นชาติแรกจากยุโรปที่อ้างกรรมสิทธิ์ในบริเวณนี้ ต่อมา ได้กลายเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสในช่วงสั้น ๆ ตามด้วยเม็กซิโกจนถึง ค.ศ. 1836 เมื่อเท็กซัสได้รับเอกราชและกลายเป็นสาธารณรัฐ ต่อมา เท็กซัสได้รับการรับรองเป็นรัฐที่ 28 ของสหรัฐใน ค.ศ. 1845 ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นชนวนไปสู่สงครามเม็กซิโก–สหรัฐในสามปีต่อมา หลังจากชัยชนะของสหรัฐ เท็กซัสยังคงสถานะเป็นรัฐทาสและรัฐเสรีจนกระทั่งเกิดสงครามกลางเมืองอเมริกา เมื่อมีการประกาศแยกตัวออกจากสหภาพเมื่อต้น ค.ศ. 1861 ก่อนที่จะเข้าร่วมสมาพันธรัฐอเมริกาในวันที่ 2 มีนาคม ภายหลังสงคราม รัฐเท็กซัสเข้าสู่ช่วงภาวะฟื้นฟูส่งผลให้เศรษฐกิจประเทศซบเซาลงเป็นเวลานาน
นับตั้งแต่ช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่สอง มีอุตสาหกรรมหลักสี่อย่างที่สร้างรายได้ให้แก่รัฐ ได้แก่ ปศุศัตว์ ฝ้าย ไม้ซุง และน้ำมัน[13] ในช่วงก่อนและหลังสงครามกลางเมือง อุตสาหกรรมปศุสัตว์ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมหลัก เป็นตัวขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่สำคัญของรัฐ และสร้างภาพลักษณ์ดั้งเดิมของคาวบอยเท็กซัส ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ฝ้ายและไม้แปรรูปกลายเป็นอุตสาหกรรมหลัก เนื่องจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ทำกำไรได้น้อยลง การค้นพบปิโตรเลียมเป็นจุดเริ่มต้นของความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจเกือบตลอดศตวรรษที่ 20 ณ ค.ศ. 2022 รัฐเท็กซัสเป็นที่ตั้งของสำนักงานที่ติดอันดับ Fortune 500 หรือบริษัทชั้นนำ 500 แห่งของโลกมากที่สุดในสหรัฐ (53 บริษัท)[14][15] ด้วยจำนวนประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น กอปรกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ทำให้เท็กซัสเป็นหนึ่งในรัฐผู้นำของประเทศทั้งในด้านการท่องเที่ยว การผลิต เกษตกรรม พลังงาน ปิโตรเคมี เทคโนโลยีสารสนเทศ อวกาศ และเทคโนโลยีนวัตกรรม เท็กซัสเป็นผู้นำของสหรัฐในด้านรายได้จากการส่งออกมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2000 และมีผลิตภัณฑ์มวลรวมของรัฐที่สูงเป็นอันดับสองรองจากรัฐแคลิฟอร์เนีย หากเท็กซัสมีฐานะเป็นรัฐเอกราชหรือประเทศ คาดว่าจะมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสิบของโลก