Loading AI tools
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
โจนี มิตเชลล์ (อังกฤษ: Joni Mitchell), CC เกิดเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1943 เป็นนักดนตรี นักร้อง นักแต่งเพลง และจิตรกรชาวแคนาดา[1]
โจนี มิตเชลล์ | |
---|---|
ข้อมูลพื้นฐาน | |
ชื่อเกิด | โรเบอร์ตา โจแอน แอนเดอร์สัน |
เกิด | 7 พฤศจิกายน ค.ศ. 1943 |
ที่เกิด | Fort Macleod, Alberta, แคนาดา |
แนวเพลง | โฟล์กร็อก, โฟล์กป็อป, แจ๊ส, อาร์ตร็อก, เวิลด์มิวสิก |
อาชีพ | นักร้อง-นักแต่งเพลง, โปรดิวเซอร์, นักดนตรี, ศิลปิน |
ช่วงปี | 1964–ปัจจุบัน |
ค่ายเพลง | Reprise (1968-1972, 1994-2001) Asylum (1972-1981) Geffen (1982-1993) Nonesuch (2002) Hear Music (2007-present) |
เว็บไซต์ | www.JoniMitchell.com |
มิตเชลล์เริ่มร้องเพลงในไนต์คลับเล็ก ๆ ในแถบตะวันตกของแคนาดาจากนั้นแสดงดนตรีในที่สาธารณะตามท้องถนนในโตรอนโต กลางทศวรรษ 1960 เธอออกจากเมืองไปนิวยอร์กซิตีที่เต็มไปด้วยเพลงโฟล์ก บันทึกเสียงอัลบั้มแรกในปี 1968 และประสบความสำเร็จครั้งแรกในฐานะนักแต่งเพลง ("Urge for Going", "Chelsea Morning", "Both Sides Now", "Woodstock") และเธอก็ก้าวมาเป็นนักร้อง[2] จากนั้นมาตั้งรกรากทางใต้ของแคลิฟอร์เนีย มิตเชลล์ถือเป็นบุคคลสำคัญของดนตรีแนวโฟล์กร็อก อัลบั้ม Blue ในปี 1971 ถือเป็นผลงานที่แข็งแรงและมีอิทธิพลที่สุดอัลบั้มหนึ่ง[3] มิตเชลล์มีผลงานเพลงป็อปเช่นกัน อย่างเช่นเพลงดัง "Big Yellow Taxi", "Free Man in Paris" และ "Help Me" สองเพลงหลังจากอัลบั้มขายดีที่สุดในปี 1974 ชุด Court and Spark[4]
มิตเชลล์มีเสียงแบบโซปราโน กับสไตล์กีตาร์ที่กลมกลืนเด่นชัด และการเรียบเรียงเปียโน ที่ประสานกันอย่างซับซ้อน ผ่านแนวเพลงสไตล์ยุค 70 ที่เธอได้รับอิทธิพลจากเพลงแจ๊สอย่างมาก ผสมผสานกับเพลงป็อป โฟล์กและร็อก อย่างเช่นในผลงานชุดทดลองอย่าง Hejira ในปี 1976 เธอยังร่วมทำงานกับศิลปินแจ๊สอย่าง เวย์น ชอร์เตอร์, เจโค พาสโทเรียส, เฮอร์บีย์ แฮนค็อก และชาร์ลส มินกัส[5] จากทศวรรษ 1980 เป็นต้นมา มิตเชลล์เริ่มมีผลานบันทึกเสียงและออกทัวร์น้อยลง เนื่องจากเธอหันหลังให้กับเพลงป็อป โดยจะทำผลงานที่ดียิ่งขึ้นโดยใช้เครื่องสังเคราะห์เสียงและมีเนื้อหาทักท้วงการเมืองในเนื้อเพลง ที่มักเอ่ยอ้างถึงสังคมผู้ชายและประเด็นสิ่งแวดล้อม ร่วมกับเนื้อหาความรักและอารมณ์
งานของมิตเชลล์เป็นที่ยอมรับทั้งกับนักวิจารณ์และนักดนตรี นิตยสารโรลลิงสโตน เรียกเธอว่า "หนึ่งในนักเขียนเพลงที่ดีที่สุด"[6] ขณะที่ออลมิวสิก พูดว่า "เมื่อธุลีเกิดขึ้น โจนี มิตเชลล์จะยืนเป็นสิ่งสำคัญและมีอิทธิพลให้กับศิลปินหญิงในปลายศตวรรษที่ 20"[7] ในช่วงสิ้นสุดศตวรรษ มิตเชลล์มีอิทธิพลให้กับศิลปินหลากหลายแนวเพลงตั้งแต่อาร์แอนด์บีไปถึงอัลเทอร์เนทีฟร็อกจนถึงแจ๊ส[8] มิตเชลล์ ยังเป็นจิตรกร เธอสร้างสรรค์ผลงานศิลปินบนปกอัลบั้มของเธอเอง และในปี 2000 เธออธิบายตัวเองไว้ว่า "จิตรกรบังเอิญโดยสภาวะแวดล้อม"[9] เธอหยุดการทำงานเพลงหลายปี โดยมุ่งเน้นไปที่งานจิตรกรรม แต่ปี 2007 เธอออกผลงานอัลบั้มชุด Shine ถือเป็นผลงานอัลบั้มแรกในรอบ 9 ปี
Seamless Wikipedia browsing. On steroids.
Every time you click a link to Wikipedia, Wiktionary or Wikiquote in your browser's search results, it will show the modern Wikiwand interface.
Wikiwand extension is a five stars, simple, with minimum permission required to keep your browsing private, safe and transparent.