บูดาเปสต์
เมืองหลวงและเมืองใหญ่สุดของประเทศฮังการี / From Wikipedia, the free encyclopedia
บูดาเปสต์ (อังกฤษ: Budapest, ออกเสียง: /ˈbuːdəpɛst/) หรือ บูดอแป็ชต์ (ฮังการี: Budapest, ออกเสียง: [ˈbudɒpɛʃt] ( ฟังเสียง)) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในฮังการี[10]และเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 9 ในสหภาพยุโรปตามจำนวนประชากรในเขตเมือง[11] เมืองนี้มีประชากรประมาณ 1.8 ล้านคน (ค.ศ. 2011) บนพื้นที่ประมาณ 525 ตารางกิโลเมตร (203 ตารางไมล์)[12] บูดาเปสต์เป็นทั้งเมืองและมณฑลและเป็นศูนย์กลางของเขตเมืองบูดาเปสต์ซึ่งมีพื้นที่ 7,626 ตารางกิโลเมตร (2,944 ตารางไมล์) และมีประชากร 3,303,786 ซึ่งประกอบด้วย 33% ของประชากรฮังการี[13] [14]
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
บูดาเปสต์ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เมืองหลวง | |||||||||||||||||||||
เมืองหลวงของประเทศฮังการี Magyarország fővárosa | |||||||||||||||||||||
ตามเข็มนาฬิกาจากบนสุด: มหาวิหารเซนต์สตีเฟ่น (St. Stephen's Basilica), อนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพ (กรุงบูดาเปสต์) (Szabadság-szobor), ป้อมชาวประมง (Halászbástya), สะพานโซ่เซแช็นยี (Széchenyi lánchíd), อาคารรัฐสภาฮังการี (Országház) และ จัตุรัสวีรชน (Hősök tere) | |||||||||||||||||||||
สมญา: หัวใจแห่งยุโรป ราชินีแห่งแม่น้ำดานูบ ไข่มุกแห่งแม่น้ำดานูบ ปารีสตะวันออก เมืองหลวงแห่งอิสรภาพ เมืองหลวงของสปาและบ่ออาบน้ำร้อน เมืองหลวงแห่งเทศกาล | |||||||||||||||||||||
พิกัด: 47°29′33″N 19°03′05″E | |||||||||||||||||||||
ประเทศ | ฮังการี | ||||||||||||||||||||
Region | ฮังการีกลาง | ||||||||||||||||||||
การรวมเมืองบูดอ โอบูดา และ แป็ชต์ | 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1873 | ||||||||||||||||||||
การแบ่งเขตการปกครอง | 23 Districts
| ||||||||||||||||||||
การปกครอง[1] | |||||||||||||||||||||
• ประเภท | Mayor – Council | ||||||||||||||||||||
• องค์กร | General Assembly of Budapest | ||||||||||||||||||||
• นายกเทศมนตรี | นายแกร์แก็ย คอราโช็นย์ (Gergely Karácsony) | ||||||||||||||||||||
พื้นที่[2] | |||||||||||||||||||||
• เมืองหลวง | 525.2 ตร.กม. (202.8 ตร.ไมล์) | ||||||||||||||||||||
• เขตเมือง | 2,538 ตร.กม. (980 ตร.ไมล์) | ||||||||||||||||||||
• รวมปริมณฑล | 7,626 ตร.กม. (2,944 ตร.ไมล์) | ||||||||||||||||||||
ความสูง[3] | ต่ำที่สุด (แม่น้ำดานูบ) 96 m สูงที่สุด ภูเขายาโน็ช (János-hegy) 527 เมตร เมตร (315 to 1,729 ฟุต) | ||||||||||||||||||||
ประชากร | |||||||||||||||||||||
• เมืองหลวง | 1,752,286[6] คน | ||||||||||||||||||||
• อันดับ | 1st (9th in EU) | ||||||||||||||||||||
• ความหนาแน่น | 3,388 คน/ตร.กม. (8,770 คน/ตร.ไมล์) | ||||||||||||||||||||
• เขตเมือง | 2,978,067[7] คน | ||||||||||||||||||||
• รวมปริมณฑล | 3,011,598[8] คน | ||||||||||||||||||||
เดมะนิม | Budapester, budapesti (Hungarian) | ||||||||||||||||||||
เขตเวลา | UTC+1 (CET) | ||||||||||||||||||||
• ฤดูร้อน (เวลาออมแสง) | UTC+2 (CEST) | ||||||||||||||||||||
Postal code(s) | 1011–1239 | ||||||||||||||||||||
Area code | 1 | ||||||||||||||||||||
รหัส ISO 3166 | HU-BU | ||||||||||||||||||||
NUTS code | HU101 | ||||||||||||||||||||
HDI (2018) | 0.901[9] – very high · 1st | ||||||||||||||||||||
เว็บไซต์ | BudapestInfo Official Government Official | ||||||||||||||||||||
|
บูดาเปสต์กลายเป็นเมืองที่มีอาณาเขตครอบคลุมทั้ง 2 ฝั่งของแม่น้ำดานูบหลังจากการรวมกันของเมือง 3 เมือง ใน พ.ศ. 2416 (ค.ศ. 1873) โดยทางฝั่งขวา (ฝั่งตะวันตก) ได้แก่ เมืองบูดอ (Buda) และโอบูดอ (Óbuda) เข้ากับเมืองแป็ชต์ (Pest) ทางฝั่งซ้าย (ฝั่งตะวันออก) ประวัติความเป็นมาของบูดาเปสต์[15]เริ่มต้นเมื่อการตั้งถิ่นฐานของชาวเคลต์ในยุคแรก แล้วเปลี่ยนเป็นเมืองอาควินคัม (Aquincum)[16][17] ของโรมัน ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแพนโนเนียตอนล่าง[16] ชาวฮังการีเข้ามาในดินแดนในช่วงปลายศตวรรษที่ 9 ในการพิชิตที่ราบพันโนเนียของชาวฮังการี หลังจากนั้น พื้นที่ของบูดาเปสต์ในปัจจุบันถูกพวกมองโกลปล้นสะดม ระหว่าง ค.ศ. 1241–1242 หลังการถอยร่นทัพมองโกล กรุงบูดาที่ก่อตั้งขึ้นใหม่ กลายเป็นหนึ่งในศูนย์กลางของวัฒนธรรมมนุษยนิยม ในยุคฟื้นฟูศิลปวิทยาช่วงศตวรรษที่ 15[18][19][20] หลังการพ่ายแพ้ของราชอาณาจักรฮังการี ณ ยุทธการที่โมเฮ็คส์ ในปี ค.ศ. 1526 ตามมาด้วยการปกครองของออตโตมันเกือบ 150 ปี[21] หลังจากการยึดบูดาคืนในปี ค.ศ. 1686 ภูมิภาคนี้ได้เข้าสู่ยุคใหม่แห่งความรุ่งเรืองโดยเมืองบูดาเปสต์กลายเป็นเมืองที่เจริญระดับโลก หลังจากการรวมกันของเมืองบูดอ เมืองโอบูดอ และ เมืองแป็ชต์ ในวันที่ 17 พฤศจิกายน ค.ศ. 1873 บูดาเปสต์ยังกลายเป็นเมืองหลวงร่วมของจักรวรรดิออสเตรีย - ฮังการี[22] ซึ่งเป็นมหาอำนาจในยุโรปที่สลายไปในปี ค.ศ. 1918 หลังสงครามโลกครั้งที่ 1 เมืองนี้เป็นจุดโฟกัสของการปฏิวัติฮังการีในปี ค.ศ. 1848 การรบที่บูดาเปสต์ในปี ค.ศ. 1945 และการปฏิวัติฮังการี ในปึ ค.ศ. 1956 จากสหภาพโซเวียต[23][24]
บูดาเปสต์เป็นเมืองระดับโลกอัลฟ่า[25]ที่มีจุดแข็งในด้านการค้า การเงิน สื่อ ศิลปะ แฟชั่น การวิจัย เทคโนโลยีการศึกษา และ ความบันเทิง[26] [27] เป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮังการีและได้รับการจัดอันดับให้เป็นนครที่มีการพัฒนาเศรษฐกิจเมืองเร็วเป็นอันดับ 2 ในยุโรป[28] บูดาเปสต์เป็นสำนักงานใหญ่ของสถาบันนวัตกรรมและเทคโนโลยีแห่งยุโรป (European Institute of Innovation and Technology), European Police College และสำนักงานต่างประเทศแห่งแรกของสำนักงานส่งเสริมการลงทุนของจีน (China Investment Promotion Agency) วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยกว่า 40 แห่งตั้งอยู่ในบูดาเปสต์ รวมถึงมหาวิทยาลัยเอิตเวิช โลรานด์ (ELTE) มหาวิทยาลัย Semmelweis และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีและเศรษฐศาสตร์บูดาเปสต์ (BME)
รถไฟใต้ดินบูดาเปสต์ซึ่งเปิดให้บริการในปี ค.ศ. 1869 ให้บริการผู้โดยสารกว่า 1.27 ล้านคนต่อวัน ในขณะที่รถรางให้บริการผู้โดยสาร 1.08 ล้านคนต่อวัน พื้นที่ตอนกลางของบูดาเปสต์ริมแม่น้ำดานูบได้รับการจัดให้เป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโก และมีอนุสรณ์สถานที่โดดเด่นหลายแห่งรวมถึงอาคารรัฐสภาฮังการี (Hungarian Parliament Building) และ ปราสาทบูดา (Buda Castle)[29] เมืองนี้ยังมีน้ำพุร้อนใต้พิภพราว 80 แห่ง[30] ระบบถ้ำน้ำร้อนที่ใหญ่ที่สุด[31] โบสถ์ที่ใหญ่เป็นอันดับสอง และ อาคารรัฐสภาที่ใหญ่เป็นอันดับสามของโลก[32] บูดาเปสต์ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 12 ล้านคนต่อปี ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในยุโรป[33] เมืองนี้ได้รับเลือกให้เป็นจุดหมายปลายทางของยุโรปที่ดีที่สุดประจำปี 2019 ซึ่งเป็นผลสำรวจสำคัญที่จัดทำโดย EBD ซึ่งเป็นองค์กรการท่องเที่ยวที่เป็นพันธมิตรกับคณะกรรมาธิการยุโรป[34] นอกจากนี้ยังติดอันดับ Best European Destinations 2020 โดย Big7Media บูดาเปสต์ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองที่ดีที่สุดอันดับ 3 ของยุโรปในแบบสำรวจที่คล้ายกันซึ่งจัดทำโดย นิตยาสาร Which?[35]